เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2561 ทำเอาเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.สุราษฎร์ธานี นั่งไม่ติด หลังสื่อดังของอังกฤษ เดลิเมล์ นำเสนอข่าวสาวอังกฤษ วัย 19 ปี เดินทางมาเที่ยวเกาะเต่า แต่กลับถูกมอมยาไปข่มขืนจนเป็นข่าวดังในสื่อนอก โดยนักท่องเที่ยวสาวรายนี้มีชื่อว่า

 

      เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2561 ทำเอาเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.สุราษฎร์ธานี นั่งไม่ติด หลังสื่อดังของอังกฤษ เดลิเมล์ นำเสนอข่าวสาวอังกฤษ วัย 19 ปี เดินทางมาเที่ยวเกาะเต่า แต่กลับถูกมอมยาไปข่มขืนจนเป็นข่าวดังในสื่อนอก โดยนักท่องเที่ยวสาวรายนี้มีชื่อว่า น.ส.อิสเบลล่า วิกตอเรีย แบคเทีย เธอเดินทางมาเที่ยวเกาะเต่าเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2561 กับกลุ่มเพื่อนชาวอังกฤษ

     ในคืนเกิดเหตุ 26 มิ.ย. 2561 เธอไปดื่มกับกลุ่มเพื่อนที่ร้านฟิชโบลว์บาร์ และลีโอบาร์ ก่อนที่เธอจะดื่มจนหมดสติไป เมื่อเธอตื่นมาในตอนเช้า พบว่าตัวเองนั้นนอนเปลือยอยู่บนหาดทรายรี ข้างๆ มีชายแปลกหน้านอนอยู่ด้วยแต่ภายหลังชายผู้นี้ได้หลบหนีไป 

     ทั้งนี้เมื่อเธอตั้งสติได้ จึงตรวจสอบทรัพย์สิน พบว่าโทรศัพท์มือถือไอโฟน 7 พลัส 1 เครื่อง และเงินสดราว 3,000 บาท พร้อมบัตรเดบิต 4 ใบ ถูกขโมยไป จุดเกิดเหตุอยู่ที่ชายหาดเกาะเต่า ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี 

     เธอจึงไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ และเดินทางออกจากประเทศไทย วันที่ 2 ก.ค. 2561 เพื่อกลับประเทศอังกฤษ ทั้งนี้ในตอนนั้นเธอไม่ได้แจ้งว่าเธอได้ถูกข่มขืนด้วยในตอนนั้น เมื่อเรื่องดังออกไปในสื่อนอกเจ้าหน้าที่หลายคนจึงสงสัยเนื่องจากไม่มีการลงบันทึกประจำวันในวันนั้น ร่วมด้วย 

      แถมเธอยังไม่ได้เข้าแจ้งความในพื้นที่เกิดเหตุ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งเธอว่ามีความประสงค์จะไปแจ้งความในพื้นที่เกิดเหตุหรือไม่ เธอได้อ้างว่าไม่สะดวกและไม่ประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปในขณะนั้น เพียงแค่ขอหลักฐานไปเคลมประกันภัยเท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสงสัยในพฤติกรรมของเธอว่าเหตุใดถึงไปให้ข่าวต่อสื่ออังกฤษในทำนองถูกข่มขืน

 

ย้อนหลากคดีดังบน "เกาะเต่า" ทั่วโลกต่างตั้งฉายาเกาะแห่งความตาย

 

    ขณะนี้ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยมี พ.ต.อ.วิชอบ เกิดเกลี้ยง รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี รับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวน เป็นประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้รายงานผลการตรวจสอบให้ทราบภายใน 7 วัน หากปรากฎ ว่ามีมูลความจริงจะเร่งดำเนินการสือสวนเพื่อนำคนผิดมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด 

    จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2561 นั้น ทางสำนักข่าวส์ทีนิวส์จะพาทุกท่านย้อนกลับไปตรวจสอบเหตุการณ์กรณีนักท่องเที่ยวถูกข่มขืนหรือเกิดอุบัติเหตุต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นในเกาะเต่าหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวดังแห่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี แลนด์มาร์คในใจนักท่องเที่ยวหลายประเทศ ว่าเคยเกิดเหตุการณ์จนเป็นข่าวโด่งดังมาแล้วกี่ครั้ง

 

ย้อนหลากคดีดังบน "เกาะเต่า" ทั่วโลกต่างตั้งฉายาเกาะแห่งความตาย
 
    เริ่มกันที่คดีดังใน ปี 2557 กับ 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ นายเดวิด มิลเลอร์ วัย 24 ปี กับ น.ส.ฮันนาห์ วิทเธอริดจ์ วัย 23 ปี ที่ทำให้หลายประเทศจับตามายังประเทศไทย เนื่องจากเป็นคดีแรกๆ ที่ทำให้เกาะเต่านั้นโด่งดังจนเกือบเสียชื่อเสียงและถือเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงฆ่าข่มขืน จนนักท่องเที่ยงบางคนไม่กล้ามาเที่ยวเนื่องจากระแวงเรื่องความปลอดภัย ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจนพบผู้ก่อเหตุนายซอลิน และนายเวพิว แรงงานชาวเมียนมา เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาร่วมกันฆ่านายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์  และ น.ส.ฮานนาห์ วิคตอเรีย วิทเธอริดจ์ ทั้งนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ตัดสินประหารชีวิต จำเลยไม่ฎีกา คดีถึงที่สุด

 

ย้อนหลากคดีดังบน "เกาะเต่า" ทั่วโลกต่างตั้งฉายาเกาะแห่งความตาย

 

     หลังจากเกิดคดีฆ่าข่มขืน 2 นักท่องเที่ยวอังกฤษได้ไม่นาน ต่อมาติดๆ ปีเดียวกันกับคดีของนายซูเตอร์ ฮานส์ปีเตอร์ วัย 44 ปี ชาวสวิตเซอร์แลนด์ เกิดหายตัวไปอย่างลึกลับ เมื่อเดือน พ.ย. ปี 2557 จนกระทั่งเจ้าหน้าที่พบว่าเป็นศพลอยอยู่ในน้ำและถูกคลื่นซัดไปเกยที่หาดจังหวัดชุมพร โดยก่อนหน้าที่นายซูเตอร์ ฮานส์ปีเตอร์ จะหายไป ได้เช่าอุปกรณ์ดำน้ำแบบบนผิวน้ำหรือ Snorkel จากร้านดำน้ำแห่งหนึ่งบนหาดทรายรี เกาะเต่า เมื่่อวันที่ 8 พ.ย. 2557

 

 

 

     โดยได้ฝากพาสปอร์ตกับทรัพย์สินไว้กับทางร้าน หลังจากนั้น นายซูเตอร์ ก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาอีกเลย ด้านเจ้าหน้าที่จึงสันนิษฐานว่านายซูเตอร์  ฮานส์ปีเตอร์ อาจดำน้ำแต่ด้วยความไม่ชำนาญพื้นที่จึงเสียชีวิต

 

     ต่อมาช่วงปีใหม่ปี 2558 กับเหตุการณ์ของนายดมิทรี โปฟเซ ชาวฝรั่งเศส วัย 29 ปี ถูกพบแขวนคอเสียชีวิตที่หอพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงระบุในตอนนั้นว่าเป็นการฆ่าตัวตายโดยไม่ชี้แจงข้อสงสัยใดๆ ทั้งที่มือทั้งสองข้างของนายดมิทรี โปฟเซ ถูกมัดไว้ไพล่หลัง

 

     ถัดมา 21 ม.ค. 2558 กับเหตุการณ์ของ น.ส.คริสตินา อันส์ลีย์ สาวชาวอังกฤษ วัย 23 ปี เสียชีวิตภายในห้องพักแห่งหนึ่งบนหาดทรายรี เกาะเต่า จากการตรวจสอบพบว่าเธอเสียชีวิตจากการติดเชื้อในทรวงอก ซึ่งเธอเป็นก่อนหน้าจะมาท่องเที่ยวในประเทศไทยอยู่แล้ว การมาเที่ยวประเทศไทยถือเป็นความฝันครั้งสุดท้ายของเธอ

 

    ล่วงมาในวันที่ 15 ก.พ. 2558 ปีเดียวกันนั้นกิดเหตุ น.ส.วาเลนตินา โนโวเชโนวา สาวรัสเซียอายุ 23 ปี หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย โดยก่อนหน้าที่เธอจะหายไปได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องดำน้ำในระยะความลึก 22 เมตร โดยที่เธอเชื่อว่าสามารถดำได้ลึกมากกว่านั้น และอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ทั้งนี้เธอชอบจ้างเรือพาไปยังจุดน้ำลึกเหมือนกับนักท่องเที่ยวรายอื่นๆ แต่ใช้วิธีการว่ายน้ำไปจนถึงจุดดำน้ำลึกจากนั้นก็จะว่ายน้ำกลับมาเองตามลำพังเกือบทุกวัน

 

    ถัดมาอีกปี 2559 เกิดเหตุนายลุค มิลเลอร์ ชาวอังกฤษ อายุ 26 ปี ถูกพบเป็นศพในสระน้ำของโรงแรมบนเกาะเต่า สาเหตุการตายเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าอาจเกิดการกระโดดลงจากไดร์วิ่งบอร์ด ทำให้เสียชีวิต ญาติไม่ติดใจ

 

    ต่อมากับเหตุการณ์เมื่อเดือน เม.ย. 2560 กับ น.ส.เอลิเซ่ วีนซีน เอ็มมานูเอล ชาวเบลเยียม วัย 30 ปี ถูกพบเป็นศพเสียชีวิตบริเวณอ่าวโตนดบนเกาะเต่า โดยคดีนี้ พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผบก. สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตร. ได้ออกมาอธิบายถึงขั้นตอนการตรวจสอบพิสูจน์ศพระบุว่า สาเหตุเกิดจากการผูกคอจนทำให้ขาดอากาศหายใจในที่สุด 

 

     ยังไม่นับรวมกับคดีอื่นที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่ผ่านมาอีกนับ 10 คดี จนเกาะเต่าถูกตั้งฉายาว่าเกาะแห่งความตาย เนื่องจากเกิดคดีอาชญากรรมและฆาตกรรมขึ้นบ่อยครั้ง โดยตัวเลขของนักท่องเที่ยวที่มายังเกาะเต่านั้น จากสถิติกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่าในปี 2559 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมายังเกาะเต่า 1.33 ล้านคน และคนไทย 270,432 คน มากกว่าปี 2558 ซึ่งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติและไทย 415,000 และ 82,000 คนตามลำดับ และสถิติล่าสุดปี 2560 พบว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวในจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีเฉลี่ยประมาณ 80,000 คนต่อเดือน ในจำนวนนี้ มีนักท่องเที่ยวถึง 30,000 คน ที่เดินทางไปเที่ยวเกาะเต่า ซึ่งยังเป็นจำนวนปกติของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังจังหวัดสุราษฎร์ธานี 

 

     จากจำนวนนักท่องเที่ยวและคดีที่เกิดขึ้นบ่อยเป็นเครื่องย้ำเตือนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้มงวด พร้อมทั้งตรวจตราความปลอดภัยให้มากขึ้น อย่าเปิดช่องให้ผู้ร้ายได้กระทำผิด ทำลายการท่องเที่ยวภายในประเทศได้และหากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบภายหลัง ว่า น.ส.อิสเบลล่า วิกตอเรีย แบคเทีย ถูกข่มขืนจริง ก็จะเป็นอีกโจทย์หนึ่งที่ต้องแก้ไขและดำเนินเรื่องให้เร็วที่สูง หากสุดท้ายแล้วคดีของน.ส.อิสเบลล่า วิกตอเรีย แบคเทีย ไม่เป็นอย่างที่น.ส.อิสเบลล่า วิกตอเรีย แบคเทีย ระบุ ก็ต้องติดตามต่อไปว่าเจ้าหน้าที่จะดำเนินการอย่างไร

 

ย้อนหลากคดีดังบน "เกาะเต่า" ทั่วโลกต่างตั้งฉายาเกาะแห่งความตาย

 

ขอขอบคุณข้อมูลกรมการท่องเที่ยว , ภาพประกอบจากsites.google , sanook