- 08 ก.ย. 2561
FB : DEEPS NEWS
จากกรณีคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ) ได้จัดงานเลี้ยงขอบคุณสื่อมวลชน ที่โรงแรมรอยัลปริ้นเซส หลานหลวง เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ในฐานะประธานกรธ. ได้ลุกขึ้นออกไปพูดบนเวทีด้วย โดยมีบางช่วงที่กล่าวถึงการทำงานว่ากรธ.ทุกคนเคยได้ยินชื่อของตน
“ทุกคนมีความรู้สึกแตกต่างกัน บางคนคิดว่าตนเป็นฝ่ายทหาร เพราะไม่ว่าจะปฏิวัติกี่ครั้งจะมีชื่อไปยุ่งด้วยทุกครั้ง บางคนคิดว่าตนตามใจผู้มีอำนาจสั่งให้ทำอะไรก็ทำแบบนั้น แต่เชื่อหรือไม่ว่าตนรู้จักทหารน้อยที่สุด และไม่เคยสนิทสนมกับคนที่เป็นทหารในราชการ ยกเว้น 2-3คนที่กินข้าวด้วยกัน ซึ่งเกษียณราชการไปนานแล้ว แต่คนที่เป็นทหารมีอำนาจในบ้านเมือง ยืนยันว่าไม่รู้จัก”
ทั้งนี้นายมีชัย ยังบอกอีกว่า สมัยปฏิวัติของพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ได้มีเจ้าหน้าที่ทหาร เดินทางมาล็อกตัวตนไปจากที่บ้าน แล้วพาไปที่กองบัญชาการ ถนนราชดำเนิน เป็นครั้งแรกที่เข้าไป “เขาบอกว่ากำลังปฏิวัติกัน ตนไม่รู้จักว่าใครเป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติ มีมา 3 คน มารู้ทีหลังว่าคนหนึ่งคือพล.อ.สนธิ คนหนึ่งคือพล.วินัย ภัทธิยะกุล และคนหนึ่งคือพล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดในตอนนั้น เรียกว่าไม่รู้จักจริงๆ เขาเล่าให้ฟังว่าจะปฏิวัติก็รู้สึกตกใจ คิดว่าไปเอาตัวเรามายังไม่ได้ปฏิวัติเลย ยังไม่ได้แถลงการณ์ฉบับที่หนึ่งเลย เราไม่ตายไปกับเขาด้วยหรือ
ผมเจอเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวมา 2-3 ครั้ง โดยการปฏิวัติรอบล่าสุดของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่รู้ว่าพล.อ.ประยุทธ์หน้าตาเป็นอย่างไร เมื่อเขาส่งร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราวให้คณะกรรมการกฤษฏีกาทำ โดยตั้งเป็นคณะพิเศษ และหัวหน้าคณะปฏิวัติก็ส่งพล.ต.วิระ โรจนวาศ กรธ. เข้าไปนั่งฟังด้วย เมื่อฟังไปฟังมาแทนที่ตนจะกลัวพล.ต.วิระ แต่กลับกลายว่าพล.ต.วิระกลัว ก็เลยไม่มีปัญหาอะไร ตนไม่เคยสนิทสนมกับทหาร และรู้จักทหารน้อยที่สุด”
นอกจากนี้ประธานกรธ. ยังเปิดเผยต่อไปอีกว่า “วันหนึ่งผมไปกินข้าวที่ห้างสรรพสินค้า ก็ได้เจอกับผู้ชายตัวใหญ่ๆ เขาคนนั้นก็ยกมือไหว้ และแนะนำตัวว่าเป็นพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผมก็ทำหน้างงว่าอภิรัชต์ไหน เขาจึงขยายว่าอภิรัชต์ ลูกบิ๊กจ๊อด (พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์) ผมจึงคลายสงสัย เพราะบิ๊กจ๊อดผมรู้จัก บิ๊กจ๊อด (พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ พ่อพล.อ.อภิรัชต์) นี่ถ้ารักใครมากวิธีแสดงความรักคือจะตบหลังแรงที่สุด
สมัยผมเป็นประธานวุฒิสภา บิ๊กจ๊อดไปรวบรวมรายชื่อเพื่อเปิดประชุมวิสามัญ แล้วผมในฐานะประธานวุฒิสภา ก็ออกมาบอกว่าสมาชิกวุฒิสภาไม่ควรเข้าชื่อ เพราะเราเป็นกลาง ไม่ควรยุ่งกับการเมือง บิ๊กจ๊อดโกรธ เพราะสว.ไปถอนชื่อออกหมด จนเปิดสมัยประชุมไม่ได้ มีคนลือว่าผมหักหลังบิ๊กจ๊อด ซึ่งความจริงไม่ใช่ แต่ไม่เคยมีใครบอกผมเลยว่าจะมีการเข้าชื่อกัน
พอผมลงจากรถ สื่อมวลชนมาถามว่าสว.ไปเข้าชื่อกันเพื่อเปิดสมัยประชุมรู้สึกอย่างไร ผมก็ตอบว่าไม่ถูก เพราะเป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฏร ปล่อยให้เขาเดินกันไป เมื่อสมาชิกได้ยินจึงถอนชื่อ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเข้าชื่อกันไปแล้ว จริงๆถ้ารู้ว่าเข้าชื่อ อาจไม่ตอบแบบนั้นก็ได้ วันหนึ่งผมเจอบิ๊กจ๊อด ผมก็บอกว่าพี่ผมไม่รู้จริงๆว่าพี่สั่งเขาอย่างไร ทำไมไม่มาบอกผมก่อน บิ๊กจ๊อดก็ตบหลังพร้อมกับบอกว่า เออ แล้วไป ผมถือว่าบิ๊กจ๊อดเป็นนักเลง น่านับถือ ไม่เครียดแค้นไม่อาฆาต”