จากพี่ถึงน้อง "ดีเจภูมิ" เล่าย้อนชีวิต สอนวัยรุ่นยุคใหม่ มีวันนี้ได้เพราะเข้าใจการใช้เงิน

ดีเจภูมิ ย้อนชีวิตช่วงวัยรุ้น เป็นอุทาหรณ์สอนวัยรุ่นยุคใหม่ เรื่องการใช้เงิน

 

      วัยรุ่น นับเป็นวัยย่างก้าวหรือเป็นวัยรอยต่อระหว่างความเป็นเด็กและความเป็นผู้ใหญ่ ฉะนั้นเรื่องของคุณวุฒิ หรือการตัดสินใจ ตลอดจนการควบคุมอารมณ์จึงออกมาในลักษณะของการทำตามใจ ทำตามอารมณ์ หรือทำตามเพื่อนโดยขาดการไตร่ตรองบ้างในบางครั้งและการยั้งคิด

 

        ดังจะเห็นได้จากปัญหาต่างๆ ของวัยรุ่นในสังคมยุคปัจจุบัน เช่น การยกพวกตีกัน การแสดงความก้าวร้าว การเสพยาเสพติด การแข่งรถมอเตอร์ไซค์ยามวิกาลตามท้องถนนและการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรซึ่งนับว่าเป็นปัญหาที่สำคัญมาก ไม่แพ้กับปัญหายาเสพติด จึงควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน 

 

       แต่อีกหนึ่งพฤติกรรมที่กำลังเป็นที่จับตามองกับการใช้จ่ายของเด็กวัยรุ่นเจน Z (คนที่เกิด พ.ศ. 2523 - 2540) ในปัจจุบัน นับว่ามีกำลังการใช้จ่าย ที่มากว่าวัยรุ่นเจนY (คนที่เกิด พ.ศ. 2540 ขึ้นไป ) ที่ใช้เทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ตเป็นส่วนใหญ่ ส่วนวัยรุ่นเจน Z จะเติบโตมากับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายจนนับได้ว่าไม่ต้องหาหรือทำเองเลยแม้แต่น้อยมีสำเร็จพร้อม ทั้งผลวิจัยตลาดโลกปี 2017 ยังชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงนี้จากกำลังการซื้อที่เปลี่ยนไป กล่าวคือธุรกิจจะขยายตัวได้เร็วขึ้นเมื่อเจาะไปยังกลุ่มเจน Z ที่มีแนวโน้มขยายตัวขึ้นจากทั่วโลก แทนกลุ่มเจนX (คนที่เกิด พ.ศ. 2508 - 2522) ที่มั่นคงกว่าแต่กำลังซื้อหายไป

 

จากพี่ถึงน้อง "ดีเจภูมิ" เล่าย้อนชีวิต สอนวัยรุ่นยุคใหม่ มีวันนี้ได้เพราะเข้าใจการใช้เงิน

 

 

 

       จากปัญหาดังกล่าวส่งผลให้วัยรุ่นเจน Y สมัยใหม่ มีปัญหาการใช้เงินฟุ่มเฟื่อยเกินตัว ชอบซื้อของที่ไม่จำเป็นจากความเห่อครั้งแรกตามกระแสโซเชียล พอนานเข้าก็เบื่อแล้วเปลี่ยนใหม่ เพราะอยากมีเหมือนเพื่อนๆ โดยผู้ปกครองสมัยใหม่จะชอบซื้อให้ลูกเลย แทนการสอนให้ลูกจัดการใช้เงิน เพราะกลัวลูกนั้นน้อยใจ สำหรับเรื่องนี้ได้มีคนดังอย่าง ภูมิใจ ตั้งสง่า หรือ ดีเจภูมิ ดีเจชื่อดังออกมาเล่าเรื่องชีวิตของตัวเองเพื่อสอนให้วัยรุ่นยุคใหม่รู้ถึงคุณค่าของเงินทุกบาทว่ากว่าจะหามาได้นั้น มันยากเย็นเพียงใด ถึงแม้ว่าตัวเขาจะมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตหรูหรา แต่เงินทุกบาทตัวเขาเป็นผู้หามาเองไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวแต่อย่างใด  

 

จากพี่ถึงน้อง "ดีเจภูมิ" เล่าย้อนชีวิต สอนวัยรุ่นยุคใหม่ มีวันนี้ได้เพราะเข้าใจการใช้เงิน

 

        ดีเจภูมิ เผยว่าสำหรับเด็กๆ ที่อยากจะโตขึ้นมาแล้วมีเงินอย่างแรกเราต้อง "เข้าใจเงิน" ก่อนว่าหายังไงแล้วใช้ยังไง วิธีที่จะเข้าใจง่ายและเร็วที่สุดก็คือ การลองไปทำงานหาเงินเองแนะนำให้ไปฝึกงานช่วงปิดเทอม แล้วถ้าเป็นไปได้ ลองทำงานที่จ่ายค่าแรงเป็นแบบชั่วโมง (ตังค์ไม่ได้เยอะหรอก แต่บอกตัวเองว่า กูจะทนทำเพื่อที่จะได้วิชาการ "เข้าใจเงิน") สมัยนี้พี่เห็นเด็กๆใช้เงินกันเก่ง (พี่เองก็เคยเป็นเหมือนกัน) แต่ที่เราใช้จ่ายแบบนั้น เพราะเรายังไม่รู้คุณค่าของเงิน เรารู้แค่ว่าของแพงก็อ้อนพ่อแม่นานหน่อย ของถูกก็อ้อนเร็วหน่อย สมัยพี่เด็กๆ วันนึงคุณแม่ได้พาลูกๆ ไปซื้อจักรยาน กันคนละคัน มีงบประมาณให้คนละ 200 ปอนด์ (ประมาณ 10,000บาท) 

 

จากพี่ถึงน้อง "ดีเจภูมิ" เล่าย้อนชีวิต สอนวัยรุ่นยุคใหม่ มีวันนี้ได้เพราะเข้าใจการใช้เงิน

 

         สำหรับ 30 ปีที่แล้วก็โคตรหรูแล้ว! พี่น้องพี่ซื้ออยู่ในงบประมาณ แต่พี่เลือกคันที่เกินงบ (ทุกวันนี้ยังจำได้ดีอยู่เลย) จักรยานยี่ห้อ Muddy Fox รุ่น PathFinder ราคา 317 ปอนด์ คือมันหล่อมาก สำหรับเด็กๆ ก็ประมาณขี่แลมโบรอบหมู่บ้านนั่นแหละ แต่มันเกินงบมา 117 ปอนด์ (เกือบ 6,000บาท) วันนั้นพี่เลย ตกลงกับคุณแม่ว่าจะขอกู้เงินมาก่อนแล้ว ค่อยไปหางานมาทยอยจ่ายคืน แม่ก็คงงงว่าอีลูกคนนี้อายุ 10 ขวบมันจะไปหาตังค์ที่ไหนมาคืนวะ แต่ยังไงก็ตามคุณแม่ก็ตกลง

 

 

จากพี่ถึงน้อง "ดีเจภูมิ" เล่าย้อนชีวิต สอนวัยรุ่นยุคใหม่ มีวันนี้ได้เพราะเข้าใจการใช้เงิน

 

 

จากพี่ถึงน้อง "ดีเจภูมิ" เล่าย้อนชีวิต สอนวัยรุ่นยุคใหม่ มีวันนี้ได้เพราะเข้าใจการใช้เงิน

 

จากพี่ถึงน้อง "ดีเจภูมิ" เล่าย้อนชีวิต สอนวัยรุ่นยุคใหม่ มีวันนี้ได้เพราะเข้าใจการใช้เงิน

 

หลังจากนั้นพี่ก็รับสมัครงานที่ร้านขายของชำเล็กๆแถวบ้านชื่อ Alandini’s Cave เพื่อที่จะปั่นจักรยานส่งหนังสือพิมพ์รอบหมู่บ้านทุกเช้า ทางร้านให้เงิน วันละ 2 ปอนด์แต่คุณแม่เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยเลยให้พี่เลี้ยงปั่นไปด้วย เราเลยแบ่งค่าแรงกันคนละครึ่ง ซึ่งเท่ากับว่า พี่ได้เงินวันละ 1 ปอนด์ ฟังดูน้อยเนอะ ได้แค่วันละ 1 ปอนด์ แต่จริงๆ ลองคิดดู 1 ปอนด์ต่อวัน ก็อาทิตย์ละ 7 ปอนด์ เดือนละ 30 ปอนด์ เพียงแค่ 3 เดือนกว่าๆ พี่ก็ใช้เงินคืนคุณแม่ได้หมดแล้ว ได้ขี่จักรยานที่หล่อที่สุดในโรงเรียน แลกกับการทำงาน 3 เดือนกว่าๆ โครตคุ้ม! 

 

จากพี่ถึงน้อง "ดีเจภูมิ" เล่าย้อนชีวิต สอนวัยรุ่นยุคใหม่ มีวันนี้ได้เพราะเข้าใจการใช้เงิน

       แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ บทเรียนสิ่งที่เกิดขึ้นคือ พี่เริ่มมีความเข้าใจเงิน จากที่ก่อนหน้านี้เราซื้อโดยไม่เข้าใจมัน ตอนนี้เราซื้อทุกอย่าง อย่างมีสติ 100% เช่นอยากกิน Big Mac 1 ชิ้น ต้องทำงาน 2 วัน อยากเช่าหนัง VDO มาดู 1 ม้วน ต้องทำงาน 3 วัน อยาก ได้รถบังคับคันนึงต้องทำงาน 8 เดือน เลยกลายเป็นคนขี้งกขึ้นมาทันที!! แต่ก็ดีที่มีวันนั้น เพราะการเข้าใจเงิน เลยทำให้พี่มีวันนี้ ลองไปปรับใช้กับชีวิตเราดูนะ เป็นกำลังใจให้ทุกคน

     หลังจากข้อความของดีเจภูมิออกไป ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมยกย่องการสอนของดีเจภูมิในครั้งนี้ว่ามีประโยชน์ต่อเด็กวัยวุ่นสมัยใหม่เป็นอย่างมาก 

 

จากพี่ถึงน้อง "ดีเจภูมิ" เล่าย้อนชีวิต สอนวัยรุ่นยุคใหม่ มีวันนี้ได้เพราะเข้าใจการใช้เงิน

 

ทั้งนี้สำนักข่าวทีนิวส์ขอเสนอวิธีการออมอย่างง่ายเพื่อให้วัยรุ่นทั้งหลายที่คิดสร้างตัวแต่ยังไม่รู้จะคิดเก็บเงินเช่นไรมาให้ได้เลือกกัน 3 วิธี ดังนี้ 

 

จากพี่ถึงน้อง "ดีเจภูมิ" เล่าย้อนชีวิต สอนวัยรุ่นยุคใหม่ มีวันนี้ได้เพราะเข้าใจการใช้เงิน

1.ทำบัญชีรายรับ - รายจ่าย 
    
      จากการใช้เงินในแต่ละวันที่มากในวัยรุ่นสมัยใหม่เราขอเสนอวิธีง่ายๆ คือการทำบัญชีรายรับ - รายจ่าย ในแต่ละวัน เพื่อที่วัยรุ่นสมัยใหม่จะได้รู้ว่าในหนึ่งวันเราได้นำเงินไปใช้ในด้านใดหรือซื้ออะไรบ้าง จากนั้นเมื่อจบเดือนเราก็มาดูรายรับ - รายจ่ายในเดือนนั้นมีเท่าไหร่และอะไรที่ควรตัดออกเพื่อให้เหลือเงินเก็บ

2.ใช้เท่าที่มี อย่าสร้างหนี้
   
      สังเกตได้ว่าวัยรุ่นสมัยใหม่จะมีการผ่อนสินค้าเช่นบัตรเครดิตที่มากกว่าปกติเพราะปัจจุบันนี้ธนาคารต่างๆเอื้อให้กับสถานะทางการเงินในผู้จับจ่ายที่เป็นวัยรุ่นมากขึ้นเพียงแค่มีสมุดบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน ก็สามารถผ่านสินค้าได้ หรือจะเป็นการนำบัตรของผู้ปกครองมาใช้ในเรื่องส่วนตัว ทั้งนี้เราควรใช้จ่ายอย่างระมัด ระวัง ไม่ควรซื้อของที่ไม่จำเป็นเพื่อสร้างหนี้โดยใช่เหตุ และคำนึงสวัดิ์ภาพทางการเงินของผู้ปกครองด้วยว่าเพื่อพอหรือไม่และเป็นประโยชน์แค่ไหนเมื่อเราซื้อมา

3.ตั้งเป้าหมายการออม
  
      ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้วัยรุ่นยุคใหม่รู้จักวิธีการคิดไตร่ตองซื้อสินค่า เมื่อเราอยากได้ของสิ่งนั้นมากๆควรที่จะนำมาตั้งเป็นเป้าหมายเพื่อหาเงินเอง อาจจะเป็นงานพิเศษ รายได้เล็กๆน้อยๆต่อเดือน เก็บเงินผสมกันจนได้ยอดที่ต้องการ เมื่อเรานำไปซื้อของที่ยากได้มา
เราจะรู้สึกว่าสิ่งพิเศษด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง

 

     วิธีง่ายๆ ที่วัยรุ่นยุคใหม่สามารถนำไปปฎิบัติได้เมื่อเราอยากได้สินค้าอะไรให้คิดทุกครั้งว่าเรานั้นรบกวนเงินในกระเป๋าผู้ปกครองหรือไม่ก่อนตัดสินใจซื้อ บางคนอาจจะมีฐานะร่ำรวยสามารถจับจ่ายได้อย่างเต็มที่แต่เชื่อเถอะหากเรารู้จักการออม และใช้เงินซื้อของให้เป็นเราจะเป็นวัยรุ่นที่มีพฤติกรรมการใช้เงินที่ชาญฉลาด ทั้งยังทำให้ผู้ปกครองภูมิใจ ในความพากเพียรเก็บเล็กผสมน้อย

 

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก  djpoom  ,  วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ชลบุรี