ชัดเลยใครผิด สาวโวยโดนตำรวจผลักรถล้มเจ็บตัว เพจดังงัดกล้องแฉผิดเองแต่โทษตร.

สืบเนื่องจากกรณีที่เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมายในโลกโซเชียล เมื่อสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ออกมาโพสต์ข้อความระบายเรื่องอัดอั้นตันใจถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีข้อความว่า เกิดอุบัติเหตุขึ้น (รถล้ม) เนื่องจากโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจผลัก เพราะไม่ใส่หมวกกันน็อค (ทำผิดกฎจราจร) ทำให้เรื่องดังกล่าวมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นกันอย่างมากมายนั้น

 

โดยในเวลาต่อมา โซเชียลได้มีการแชร์คลิปวิดีโอที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ "Red Skull Z " ได้นำมาโพสต์พร้อมข้อความบรรยายว่า...ขับหนีตำรวจไหมล่ะ ว่าละอยู่ดี ๆ ตำรวจจะไปกระชากทำไม ฝากตำรวจจัดการ พรบ.คอมด้วยนะ ให้เป็นบทเรียน เผื่อตำรวจแถว ๆ ภูเก็ตจะได้ดูเป็นแบบอย่างว่าปล่อยให้ตัวเหี้...ไลฟ์สดใส่ความตำรวจอยู่ได้ไงตั้งหลายวัน 

 

 

 

อย่างไรก็ตาม สถานีตำรวจนครบาลคันนายาว ก็ได้มีการชี้แจงเรื่องดังกล่าวด้วยว่า เรียน พี่น้องประชาชนเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเบื้องต้นให้ทราบ ตามที่ facebook: lukpla arunya โพสต์ตำหนิเกี่ยวกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายจราจร สน.คันนายาวและมีการแชร์ และแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ แล้วนั้น ฝ่ายจราจร สน.คันนายาวได้ชี้แจงเบื้องต้นว่าด้วยเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2561 ช่วงเวลา 11.00 น.ฝ่ายจราจร สน.คันนายาว โดยมี ร.ต.ท.ภาณุมาศ กตแก้ว รอง สว.จร.พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ทำการกวดขันวินัยจราจร ตามมาตรการ "กรุงเทพปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย 100% " บริเวณแยก กม.8 ถนนรามอินทราซึ่งเป็นถนนสายหลัก โดยมีการแจ้งให้ทางศูนย์วิทยุประชาราษฎร์ และทางสื่อออนไลน์งานจราจรของ บก.น.2 (ไลน์ จราจร บก.น.2)ทราบก่อน แล้วจึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรลงประจำจุดคอยสอดส่องตรวจตรา เพื่อจับกุมรถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย รวมทั้งผู้ซ้อนไม่สวมหมวกนิรภัย 

 

 

 

จนกระทั่งถึงเวลาประมาณ 11.30 น.โดยประมาณ พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อสตาร์เลี่ยน(ทราบภายหลัง) ซึ่งขับขี่โดย น.ส.อรรจนา แสนโพธิ์  และมีผู้นั่งซ้อนท้ายมาด้วย โดยทั้งสองคนไม่สวมหมวกนิรภัย ผ่านมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุและก่อนที่จะเกิดเหตุล้มลง ด.ต.อนุชิต แน่นอุดร ผบ.หมู่จราจร ได้ทำการเรียกให้หยุดแต่เมื่อผู้ขับขี่ได้เห็นเจ้าหน้าที่แล้ว กลับเร่งเครื่องเพื่อหลบหนี จนไปถึงจุดที่ ร.ต.ต.สายชล สุทธิประภา รอง สว.(จร.)สน.คันนายาว ซึ่งยืนอยู่ถัดไป ได้พยายามออกไปสกัดกั้นไม่ให้หลบหนี โดยยืนขวางไว้ แต่ในขณะเดียวกันผู้ขับขี่กลับเร่งเครื่องและพยายามหลบหนี ร.ต.ต.สายชลฯ จึงได้เบี่ยงหลบและใช้มือคว้าไว้ จึงเป็นเหตุให้รถคันดังกล่าวเสียหลักล้มลงและมีผู้ซ้อนท้ายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 

 

 

เบื้องต้น ร.ต.ต.สายชล จึงได้เรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯมาปฐมพยาบาลเบื้องต้น อีกทั้งได้สอบถามผู้ขับขี่และผู้บาดเจ็บว่าจะไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดหรือไม่ แต่ผู้บาดเจ็บยืนยันว่าไม่ต้องการไปโรงพยาบาล ร.ต.ต.สายชลฯ จึงได้แจ้งให้ผู้ถูกจับทราบว่าผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และผู้โดยสารต้องสวมหมวกนิรภัย อีกทั้งได้ตรวจพบว่ารถคันดังกล่าวอุปกรณ์ส่วนควบไม่สมบูรณ์ และไม่พกพาใบอนุญาตขับขี่ จึงได้ออกใบสั่งและให้ผู้ถูกจับไปชำระค่าปรับตามใบสั่งเลขที่ 335551 เลขที่17 ลงวันที่ 27 ก.ย.61 เวลา 11.39 น. ขณะออกใบสั่งผู้ขับขี่ได้ยอมรับผิดตามข้อกล่าวหาและยกมือไหว้ขอโทษพร้อมรับสารพภาพว่าตั้งใจขับรถเพื่อหลบหนีจริง 

 

 

 

 

หลังจากนั้นผู้ถูกจับได้เข้ามาชำระค่าปรับที่ สน.คันนายาว ตามใบเสร็จเล่มที่ 73479 เลขที่ 037 คดีเปรียบเทียบปรับที่ 3924/61 ลง 27 ก.ย.61 เป็นเงินจำนวน 500 บาท ขอเรียนว่า ขณะนี้ผมได้สืบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้น เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความบกพร่องอย่างใดหรือไม่ โดยได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบางส่วนและจะตรวจสอบทั้งหมดในสถานที่ดังกล่าว และสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้องเพื่อสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไปครับ พันตำรวจเอกสิงห์ สิงห์เดช ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลคันนายาว

 

โดยโพสต์ก่อนหน้านั้นมีข้อความดังนี้

 

 

 

 

ขอบคุณ : Red Skull Z   lukpla arunya  สถานีตำรวจนครบาลคันนายาว