- 08 ต.ค. 2561
วันที่ 8 ต.ค. 2561 กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนให้ประชาชนเตรียมรับมือพายุฝนใน 36 จังหวัด อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ทั้งนี้ร้อยละ 60 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังคงมีฝนตก
วันที่ 8 ต.ค. 2561 กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนให้ประชาชนเตรียมรับมือพายุฝนใน 36 จังหวัด อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ทั้งนี้ร้อยละ 60 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังคงมีฝนตก
นอกจากนี้ จากสถานการณ์ระดับน้ำล่าสุดยังพบว่า มี 2 สายที่ระดับเตือนภัยอยู่ในระดับวิกฤติ และอีก 12 สาย ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยสายที่อยู่ในระดับวิกฤติ คือ
1.แม่น้ำตาปี จ.สุราษฎร์ธานี อ.เวียงสระ ต.ทุ่งหลวง ระดับตลิ่ง (ม.รทก) 9.29 ระดับน้ำ (ม.รทก) 9.51
2.แม่น้ำตาปี จ.สุราษฎร์ธานี อ.พระแสง ต.ไทรขึง ระดับตลิ่ง (ม.รทก) 11.22 ระดับน้ำ (ม.รทก) 11.81
ส่วนสถานการณ์เขื่อนพบว่ามีทั้งหมด 6 เขื่อนที่อยู่ในระดับวิกฤติเช่นกันได้แก่
1.เขื่อนแก่งกระจาน ปริมาตรน้ำในอ่างฯ 92% ปริมาตรน้ำไหลเข้าอ่าง 7.16 (ล้าน ม.3)
2.เขื่อนกิ่วลม ปริมาตรน้ำในอ่างฯ 82% ปริมาตรน้ำไหลเข้าอ่าง 3.04 (ล้าน ม.3)
3.เขื่อนปราณบุรี ปริมาตรน้ำในอ่างฯ 88% ปริมาตรน้ำไหลเข้าอ่าง 12.81 (ล้าน ม.3)
4.เขื่อนหนองปลาไหล ปริมาตรน้ำในอ่างฯ 95% ปริมาตรน้ำไหลเข้าอ่าง 2.59 (ล้าน ม.3)
5.เขื่อนขุนด่าน ปริมาตรน้ำในอ่างฯ 99% ปริมาตรน้ำไหลเข้าอ่าง 2.27 (ล้าน ม.3)
6.เขื่อนประแสร์ ปริมาตรน้ำในอ่างฯ 96% ปริมาตรน้ำไหลเข้าอ่าง 3.10 (ล้าน ม.3)
สำหรับพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง และภาคใต้ มีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้ สำหรับภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน มีฝนน้อย
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูงกำลังอ่อนจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ทำให้มีลมตะวันออกพัดเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ในขณะที่ร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคใต้เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 น.ของวันนี้ ถึงเวลา 06.00 ของวันที่ 9 ต.ค.นี้ ภาคเหนือ มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆบางส่วน กับมีฝน ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคกลาง มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.