- 23 ต.ค. 2561
ศิลปินแห่งชาติ บอกนายกฯไม่มาเปิดงานหนังสือ ทำชวดคะแนนเสียงคนรุ่นใหม่นับล้าน สงสัยพีอาร์คิดได้แค่งานบันเทิง เรื่องสติปัญญาคิดไม่เป็น
จากกรณีมีการจัดงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 23 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งจัดโดย สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย โดยในงานดังกล่าวนี้ได้จัดควบคู่ไปกับ “ เทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 12 ”ระหว่างวันที่ 17-28 ต.ค. 2561 ภายใต้แนวคิด “อ่านออกเสียง” ชม นิทรรศหนังสือสาบสูญ 3018/ นิทรรศการสำหรับเด็กและครอบครัว Wonder Land ดินแดนค้นพบตัวตน และนิทรรศการเยาวชน พร้อมเวทีเสวนาและกิจกรรมมากมายตลอด 12 วันด้วยบูธสำนักพิมพ์ที่ขนหนังสือกันมาเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดที่เฟซบุ๊ก Makut Onrudee ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กของ มกุฏ อรฤดี ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี2555 บรรณาธิการ สำนักพิมพ์ผีเสื้อ ครูพิเศษ สอนวิชาหนังสือ และวิชาบรรณาธิการศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา และคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงการจัดงานหนังสือดังกล่าว โดยระบุถึงข่าวว่าผู้จัดงานได้เชิญนายกรัฐมนตรีเปิดงาน แต่นายกรัฐมนตรีไม่ได้เดินทางมา และมีการตั้งข้อสังเกต ด้วยคำถามว่าหรือคนของนายกรัฐมนตรีไม่ได้จัดให้มาเปิดงานดังกล่าว
ข่าวว่า
ผู้จัดงานหนังสือเชิญนายกฯ ไปเปิดงาน
นายกฯ ไม่ไป หรือคนของนายกฯ ไม่จัดให้ไป
ถ้าผมเป็นนายกฯ ผมจะไป ทุกครั้ง
เพราะคนหนุ่มสาวในงานหนังสือแต่ละครั้ง
เคยมีสถิติว่ามากกว่า 1,500,000 คน
การไปงานนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง
ได้คะแนนเสียงจากคนรุ่นใหม่นับล้าน
ไม่แต่เท่านั้น คนเหล่านั้นจะช่วยกระจายข่าวด้วย
ทำไมไม่ทำ
ผมจึงสงสัยเสมอมา ตั้งแต่แรก ว่า
ประชาสัมพันธ์ของนายกฯ น่าจะคิดแปลกๆ
หรือคิดอะไรได้แค่ระดับบันเทิง
เรื่องสติปัญญาคิดไม่เป็น
อย่างไรก็ตามสำหรับงานหนังสือนี้ได้มีพิธีเปิดงานเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยมีนายแพทย์ ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มาเป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมทั้งยังได้กล่าวว่า การส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านในประเทศไทยนั้นเป็นนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญส่งเสริมและสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ตามแผนแม่บทส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ของไทย พ.ศ. 2560-2564 โดยเน้น 4 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ ยุทธศาสตร์แรกสร้างพฤติกรรมการอ่านให้คนทุกวัย
“ยุทธศาสตร์ที่ 2 อำนวยความสะดวกในการเข้าถึงสื่อการอ่านของประชาชนทั้งในเมืองและภูมิภาค ยุทธศาสตร์ที่ 3 ยกระดับคุณภาพแห่งการเรียนรู้ สื่อการอ่าน และยุทธศาสตร์ที่ 4 สร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการอ่าน ด้วยตระหนักอย่างแน่ชัดจากตัวอย่างของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วว่า ประเทศที่มีพลเมืองมีนิสัยรักการอ่าน จะเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญ เพื่อการพัฒนาบ้านเมืองในด้านต่างๆ ให้ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว มั่นคง และยั่งยืน
แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจและปัจจัยแวดล้อมต่างๆจะส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อทุกสาขาอาชีพที่เกี่ยวข้องในการผลิตหนังสือ แต่งานในครั้งนี้จะเป็นอีกบทพิสูจน์สำคัญที่จะทำให้ทุกคนประจักษ์ว่า ประเทศไทยยังให้ความสำคัญต่อหนังสือ ยังมีคนทำหนังสือ และยังมีคนอ่านหนังสือ ซึ่งนับเป็นรากฐานที่สำคัญและเข้มแข็งในการแก้ไขปัญหา และก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆไปสู่ความสำเร็จได้ในที่สุด ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่มีส่วนในการสร้างสรรค์ให้เกิดงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 23 และ และเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่12 นี้ขึ้นมา”
ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Makut Onrudee