"ธาริต" ขอขมา "กำนันสุเทพ" วานนี้ ความจริงกรณีโรงพักร้าง 396  แห่งที่ถูกซ่อนอยู่นาน 

"ธาริต" ขอขมา "กำนันสุเทพ" วานนี้ ความจริงกรณีโรงพักร้าง 396 แห่งที่ถูกซ่อนอยู่นาน 


หลายคนตั้งคำถามขึ้นมาทันที สำหรับการสั่งให้ทนายความ ตั้งโต๊ะแถลงยอมรับผิด และกราบขอขมาลาโทษ“กำนันสุเทพ  เทือกสุบรรณ" อดีตรองนายกฯ ต่อหน้าสาธารณชนของ "นายธาริต เพ็งดิษฐ์" อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ...วานนี้ หลังตัวเขาถูก "อดีตแกนนำ กปปส." ฟ้องหมิ่นประมาทจากการที่เขาเคยกล่าวหา "กำนันสุเทพ" มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตสร้างโรงพัก 396 แห่งทั่วประเทศ

 

เรื่องนี้น่าสนใจตรงที่ นี่เป็นครั้งแรกที่ "ธาริต" ยอมออกมาสารภาพว่า...การดึงนายสุเทพ มาเกี่ยวกรณีโรงพัก 396 แห่งในครั้งนั้น..."เป็นการกล่าวหานายสุเทพ เพราะการอนุมัติของนายสุเทพนั้น เป็นการกระทำตามข้อเสนอของ ผบ.ตร.ซึ่งมีเหตุผล และที่มาที่ไปตามความเหมาะสมและจำเป็น" ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ "นายธาริต" เก็บซ่อนอยู่นาน หลังเขาถูกนายสุเทพ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทในกรณีดังกล่าว และถึงแม้ศาลชั้นต้น และศาลอุทรณ์ จะยกฟ้องก็ตาม แต่นายสุเทพยื่นฎีกา และศาลฯ กำลังจะพิพากษาในวันที่ 14 ธันวาคม 2561 ที่จะถึงนี้ 


ถ้อยคำของ "นายธนากร แหวกวารี" ซึ่งเป็นทนายความ และเป็นตัวแทนที่นำคำพูดของ "นายธาริต" ออกมาเผยแพร่นั้น มีบางประโยคที่น่าสนใจยิ่ง...ถึงที่มาที่ไปของกรณีดังกล่าว

 

“กระผม นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ขอแถลงข่าวต่อสาธารณชนผ่านสื่อมวลชนว่า เมื่อครั้งผมดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น 
ผมได้เคยแถลงข่าวและตอบคำถามสื่อมวลชน เมื่อระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2556 เกี่ยวกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ว่าเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยกเลิกและรวมสัญญาก่อสร้างโรงพัก 396 แห่งทั่วประเทศ เป็นสัญญาเดียว อันเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการเอื้อประโยชน์ให้ผู้รับเหมาและยังได้แถลงข้อความอื่นๆ อีก การแถลงข่าวของผมดังกล่าวได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายสุเทพเป็นอย่างมาก ท่านจึงได้ยื่นฟ้องผม ฐานหมิ่นประมาท ที่ศาลอาญา เป็นคดีดำที่ อ.๔๙๕/๒๕๕๖ คดีแดงที่ อ.๑๑๖๖/๒๕๕๘ ศาลอาญา และศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ขออนุญาตฎีกาและได้รับอนุญาต ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา 

 

บัดนี้ หลังจากได้พ้นตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว ผมได้ทบทวนเรื่องราวต่างๆ จึงพบว่าการแถลงข่าวของผมดังกล่าวเป็นการกระทำต่อนายสุเทพโดยไม่บังควร เป็นการจาบจ้วงและละลาบละล้วงต่อท่าน ทั้งที่ท่านเคยเป็นผู้บังคับบัญชาและมีพระคุณอย่างมากต่อผม คำแถลงของผมมีลักษณะกล่าวหาและให้ร้ายต่อนายสุเทพ ซึ่งตามข้อเท็จจริงแล้วการออกคำสั่งของนายสุเทพดังกล่าว เป็นการกระทำตามข้อเสนอของ ผบ.ตร.ซึ่งเป็นข้าราชการประจำ โดยมีเหตุผลและที่มาที่ไปตามความเหมาะสมและจำเป็น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีดังกล่าว นายสุเทพยังไม่เคยถูกฟ้องและมีคำพิพากษาใดๆ ตัดสินว่าท่านได้กระทำผิดเลย รวมถึงกรรมการ ป.ป.ช.ก็ไม่ได้ชี้มูลว่าท่านกระทำผิดใดๆ 

 

ผมจึงขอถือโอกาสนี้ แสดงความสำนึกผิดและขอกราบขอขมาลาโทษต่อนายสุเทพ โดยแถลงให้สาธารณชนทราบเป็นการทั่วไป และขอกราบขอบพระคุณนายสุเทพที่จะได้เมตตายกโทษในคดีดังกล่าวต่อผม ตามที่นายสุเทพจะเห็นสมควรด้วย จึงขอแถลงมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน

 

อนึ่ง เนื่องจากคดีนี้เป็นที่สนใจของประชาชน ศาลฎีกาท่านจึงได้นัดอ่านคำพิพากษาว่าจะลงโทษผมหรือไม่ อย่างไร โดยจะอ่านคำพิพากษาที่ศาลฎีกาเลย ไม่ส่งไปอ่านที่ศาลอาญา เหมือนคดีทั่วๆ ไป ในวันที่ 14 ธันวาคมนี้ เวลา 09.00 นาฬิกา จึงขอเชิญสื่อมวลชนและผู้สนใจ เข้ารับฟังด้วย…”...นั่นคือ ถ้อยความทั้งหมดที่ "นายธนากร แวกวารี" ทนายความได้อ่านคำแถลงแทนนายธาริต...ซึ่งไม่ได้มาเอง 


และอย่างที่กล่าว..ถ้อยความเหล่านั้นนับว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะประโยคที่ว่า "หลังพ้นตำแหน่งฯ ผมได้ทบทวนเรื่องราวต่างๆ จึงพบว่า คำแถลงของผมมีลักษณะกล่าวหาและให้ร้ายต่อนายสุเทพ ซึ่งตามข้อเท็จจริงแล้วการออกคำสั่งของนายสุเทพดังกล่าว เป็นการกระทำตามข้อเสนอของ ผบ.ตร.ซึ่งเป็นข้าราชการประจำ โดยมีเหตุผลและที่มาที่ไปตามความเหมาะสมและจำเป็น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีดังกล่าว นายสุเทพยังไม่เคยถูกฟ้องและมีคำพิพากษาใดๆ ตัดสินว่าท่านได้กระทำผิดเลย รวมถึงกรรมการ ป.ป.ช.ก็ไม่ได้ชี้มูลว่าท่านกระทำผิดใดๆ ผมจึงขอถือโอกาสนี้ แสดงความสำนึกผิดและขอกราบขอขมาลาโทษต่อนายสุเทพ โดยแถลงให้สาธารณชนทราบเป็นการทั่วไป"

 

...นั่นชัดจนไม่ต้องตีความใด ๆ เลยว่า กรณีคดีโรงพักร้าง 396 แห่งนั้นมีเรื่องของการเมืองอยู่มาก เพราะอย่าลืมว่า ขณะ "ประชาธิปัตย์" เป็นรัฐบาลในช่วงปี 52 - 53 นั้น นายธาริตก็คือหนึ่งในกลไกสำคัญที่ต่อกรกับ "เสื้อแดง" ที่ชุมนุมแน่นหนาในช่วงนั้น ต่อเมื่อ "ประชาธิปัตย์" หมดอำนาจไป และ "เพื่อไทย" พลิกขั้วขึ้นมา นายธาริตเป็นบุคคลแรก ๆ ที่ถูกหมายหัวในทันที จนเมื่อเขายอม "เปลี่ยนสี" หันกลับมาเป็นมือเป็นไม้ให้ "เพื่อไทย" และขุดคดีโรงพักร้างมา และโยงไปที่นายสุเทพ...เก้าอี้อธิบดี DSI จึงไม่ถูกกระชากไปจากก้น...และเป็นที่มาของการถูกนายสุเทพฟ้องหมิ่นประมาทจากคดีดังกล่าว


เรื่องนี้ยิ่งชัดเจนขึ้นอีก เมื่อ เฟซบุ๊ก "พรรครวมพลังประชาชาติไทย - ACT Party"  ได้โพสต์ข้อความพร้อมวีดีโอถึงกรณีการให้สัมภาษณ์ของนายสุเทพ ในการออกมาขอขมาของนายธาริต ล่าสุดว่า

 

ไม่รับคำขอโทษ ! ไม่ยอมความ ! ลุงกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ ย้ำชัดธาริตตั้งใจใส่ความ หวัง“ประจบสอพลอ”ผู้มีอำนาจ เป็นเรื่องที่สังคมไม่ควรอภัย


ถ้อยความสั้น ๆ ดังกล่าว ที่เฟซบุ๊ก "พรรครวมพลังประชาชาติไทยฯ" ระบุไว้ แทบจะเปลื้อยเปลือยที่มาที่ไป...ของการกล่าวหา รวมทั้งล่วงเลยมาถึงการขอขมานายสุเทพของนายธาริต...จนหมดสิ้น...และไม่จำเป็นต้องตีความใด ๆ เพิ่มอีกเลย เพราะนายสุเทพก็ย้ำชัดผ่านการสัมภาษณ์ว่า...."ธาริตตั้งใจใส่ความ หวัง“ประจบสอพลอ”ผู้มีอำนาจ เป็นเรื่องที่สังคมไม่ควรอภัย" 

 

"ธาริต" ขอขมา "กำนันสุเทพ" วานนี้ ความจริงกรณีโรงพักร้าง 396  แห่งที่ถูกซ่อนอยู่นาน