"บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ไม้เด็ด"คสช." ใช้ย้อนเกล็ด"ทักษิณ" โดนใจชาวบ้าน จนมีคนตาร้อนถึงกับกุข่าว"ดิสเครดิต"  

"บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ไม้เด็ด"คสช." ใช้ย้อนเกล็ด"ทักษิณ" โดนใจชาวบ้าน จนมีคนตาร้อนถึงกับกุข่าว"ดิสเครดิต"  

"บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ไม้เด็ด"คสช." ใช้ย้อนเกล็ด "ประชานิยมทักษิณ" ยิ่งโดนใจชาวบ้าน ยิ่งมีคนตาร้อน และหวาดผวาว่าจะสูญเสียฐานคะแนน ถึงกับมีการกุข่าว "ดิสเครดิต คสช." แบบไร้ข้อเท็จจริง  


 

ภาพชาวบ้านผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เข้าคิวยาวเหยียดเพื่อรอกดเงินสดจำนวน 500 บาทที่ตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทยสาขาต่าง ๆ ทั่วประเทศที่รัฐฯ โอนให้เมื่อ 3 - 4 วันก่อน เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยนั้น...ถือเป็นกระจกส่องสะท้อนว่า...ชาวบ้านให้การยอมรับมาตรการช่วยเหลือระยะสั้นนี้...มากน้อยเช่นไร...กระทั่งตู้ ATM บางแห่งถึงกับเงินหมดตู้...คนต่อแถวหลายคนต้องรอเก้อ


แน่นอน มาตรการที่มันใหญ่โตเช่นนี้...ย่อมมีผิดพลาดรั่วไหลไปบ้าง กระนั้นภาครัฐฯ ก็ยืนยันแล้วว่า พร้อมจะแก้ไข เตรียมปรับเกณฑ์ลงทะเบียนใหม่ ไม่ปล่อยเลยตามเลย ขณะพวกได้ไปแล้ว หากเช็คแล้วว่า...ไม่จนจริง...จะริบบัตรคืน และเรียกเงินทุกบาททุกสตางค์คืน เพราะอย่าลืมว่า รอบแรกที่รัฐฯ โอนให้นั้นมีผู้ถือบัตรฯ ถึง 11.4 ล้านคน หรือคิดเป็น 1 ใน 6 ของคนไทยทั้งประเทศ และต่อให้ตรวจสอบรายได้อย่างรัดกุมเช่นไร...ความผิดพลาดย่อมเกิดขึ้นได้


ผู้สังเกตการณ์บางคน ฟันธงว่า หากไม่นับ "โครงการ อีอีซี" ซึ่งเป็นนโยบายเรือธงทางเศรษฐกิจของรัฐบาล คสช. แล้ว "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" หรือบางคนเรียกสั้น ๆ ว่า “บัตรคนจน” นี่แหล่ะ ที่จะสร้างความสั่นสะเทือนให้กับเศรษฐกิจฐานราก ระดับ "เจ้าพ่อประชานิยมอย่างทักษิณ" ยังนั่งไม่ติด เพราะมันกำลังสั่นคลอน "ระบอบทักษิณ" ที่หากินกับ..."บุญเก่า" จากการลด แลก แจก แถมผ่านนโยบาย "ประชานิยมสุดโต่ง" ในอดีตแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

 

แถมรัฐบาลยังปูพรม อัดแคมเปญจะ "ช่วยค่าเช่าบ้านให้แก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยอีก 400 บาท/เดือน  รวมทั้งจะช่วยเหลือค่าเดินทางไปรับการรักษาพยาบาลให้กับผู้สูงอายุ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เกี่ยวกับสุขภาพอีกคนละ 1,000 บาท...นั่นยิ่งทำให้กลุ่มการเมืองบางกลุ่ม...อดรนทนไม่ได้ ต้องหาช่องทางโจมตีรัฐบาล คสช.กรณีนี้

 


 

...จริง...ไม่จริงแค่ไหน ก็ดูได้จากการที่ "นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา" ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ต้องออกมาโต้เรื่องนี้ด้วยตนเอง หลังมีไอ้โม่งผู้ไม่หวังดี...หยิบประเด็นดังกล่าวไป....แล้วพยายามกระพือ (แบบสร้างข่าวเท็จ) ว่า...มาตรการช่วยเหลือของ คสช.นั้น...."กำลังทำลายวินัยการเงินการคลังของประเทศ" โดย "นายเดชาภิวัฒน์" ยืนยันว่า กระแสข่าวที่ว่า รัฐบาลใช้เงินเกินตัวนั้น ตนยืนยันว่า ทุกอย่างยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังของคณะกรรมการฯ ซึ่งมีการพูดถึงการขาดดุลงบประมาณ และตนอยากจะเรียนว่า ในปีงบประมาณ 2562 มีการตั้งงบขาดดุล 4.5 แสนล้านบาท ภายใต้วงเงินงบประมาณ 3 ล้านล้านบาท ก็ต้องเรียนว่า สัดส่วนงบขาดดุลอยู่ที่ 15% เท่านั้น ตามกรอบงบประมาณ


ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 1 แสนล้านบาท ผู้อำนวยการสำนักงบฯ ยืนยันว่า ไม่ผิด พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง เพราะเป็นงบประมาณรายจ่ายประจำปีรองรับไว้ ไม่ได้ไปกู้มา ยืนยันว่า...ยังอยู่ในกรอบงบประมาณ


"ยังอยู่ในกรอบงบประมาณ" ผอ. สำนักงบฯ ย้ำ...และแทบจะเป็นการจับโกหก...ไอ้โม่งที่กุข่าวเรื่องนี้ขึ้นมาไปด้วยในตัว  


 

ว่ากันว่า...ก่อนหน้าที่จะมีการโยนประเด็น "ทำลายวินัยการเงินการคลัง" ออกมา ผู้ไม่หวังดีก็ออกแรงเซี้ยมมารอบหนึ่งแล้ว โดยสร้างข่าวเท็จว่า..."เงิน 500 ที่รัฐโอนให้ หากไม่รีบกดออกมา...จะถูกริบคืน" เรื่องนี้ไม่มีอื่น นอกจากจงใจหลอกผู้ไม่รู้เท่าทัน...ต่อว่ารัฐบาลถึงความใจแคบ..."ที่ให้แล้ว-ยังเอาคืน" 

 

กระทั่ง "นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์" โฆษกรัฐบาลต้องออกโรงมายืนยันถึงเรื่องนี้ว่า "เงิน 500 บาท ที่รัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่าย โดยโอนเข้าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (อี-มันนี่) นั้น สามารถกดเป็นเงินสดไปใช้จ่ายเมื่อใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องกดภายใน 3 วันนี้"...ประเด็นดังกล่าวจึงตกไป และมีเรื่อง "ทำลายวินัยการเงินการคลัง" ขึ้นมาแทน

 

ไม่ว่าจะอย่างไร จนถึงวินาทีนี้  "โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ก็สั่นสะเทือนสังคมไทย...ในระดับที่ "เครือข่ายทักษิณ" ซึ่งเป็น "ต้นตำรับประชานิยม" เกิดอาการนั่งไม่ติดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว...ไม่เช่นนั้น...คงไม่มีไอ้โม่ง...มากุข่าว "ดิสเครดิต" มาตรการนี้ถึง 2 ครั้ง 2 ครา ในช่วงไม่ถึง 3 วันแน่...และยังไงการเดินหน้าโจมตี คสช. ก็คงเกิดขึ้นอีกหลายระลอกแน่ เพราะว่าไปแล้ว...แทบไม่เคยมีรัฐบาลขั้วตรงข้ามทักษิณ...รัฐบาลไหนทำได้เช่นนี้มาก่อน...