สืบเนื่องจากที่หลังมีการคุมตัวนายบารมี ชัยรัตน์ เลขาธิการสมัชชาคนจน ผู้ต้องหาลำดับที่ 18 มาสอบปากคำหลังร่วมม็อบเยาวชนปลดแอก เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ต่อมานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ได้เดินทางมาเพื่อขอพบนายบารมี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาต จึงมีการนั่งพูดคุยร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุม ที่เดินทางมารอให้กำลังใจกลุ่มแกนนำที่ สน.สำราญ​ราษฎร์

สืบเนื่องจากที่หลังมีการคุมตัวนายบารมี ชัยรัตน์ เลขาธิการสมัชชาคนจน ผู้ต้องหาลำดับที่ 18 มาสอบปากคำหลังร่วมม็อบเยาวชนปลดแอก เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ต่อมานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ได้เดินทางมาเพื่อขอพบนายบารมี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาต จึงมีการนั่งพูดคุยร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุม ที่เดินทางมารอให้กำลังใจกลุ่มแกนนำที่ สน.สำราญ​ราษฎร์ 

ขณะเดียวกัน นายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ หรือเสี่ยโป้ เน็ตไอดอลชื่อดัง เดินทางมาที่ สน.สำราญ​ราษฎร์ เชื่อกันเพื่อจะเข้าพูดคุยกับนายธนาธร โดยระบุว่า ตนจะมาพูดคุยหาทางออก เพื่อไม่ให้ประชาชนฆ่ากันเอง เพราะประชาชนออกมา สมมติถ้ามีเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นมา คนที่ตายคือใคร ประชาชน นักศึกษา อนาคตของชาติทั้งนั้น ทำไมท่านถึงไม่นำหน้า เพราะกลัวอะไรหรือเปล่า


"เราเป็นประชาชนคนหนึ่งที่มีสิทธิเหมือนเขา เราแค่ต้องการมาถาม ไม่ได้ต้องการมาหาเรื่อง เรามาแค่คนเดียว เราพูดในมุมว่า เราไม่ควรที่จะทำให้ประชาชนแตกแยกกันเอง เพราะวันนี้ในโซเชียลมีการพูดถึงสิ่งที่เรารักทุกคน" เสี่ยโป้ กล่าว


จากนั้นเสี่ยโป้จะเดินไปหานายธนาธร แต่ยังไม่ทันได้มีการพูดคุยอะไรกัน นายธนาธรได้เดินออกมาก่อน เสี่ยโป้จึงเดินออกจาก สน.สำราญ​ราษฎร์ และกลับไปทันที


ด้านนายธนาธร กล่าวว่า ไม่ทราบว่าที่เสี่ยโป้มาหาตนในวันนี้ (19 สิงหาคม 2563) เป็นเพราะเหตุใด และที่ตนเดินออกมาเพราะพรุ่งนี้ ( 20 สิงหาคม 2563) มีภารกิจในช่วงเช้า ส่วนที่เดินทางมาในค่ำคืนนี้ เพียงต้องการพบและให้กำลังใจนายบารมี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาต


เมื่อถามถึงกรณีที่มีคนมองว่าอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของนักศึกษา นายธนาธร กล่าวว่า ในการจัดกิจกรรมเรียกร้องประชาธิปไตยต่างๆ ตนก็ไปปรากฏตัวก่อนหน้านี้มาตลอด แต่พอมีสถานะทางการเมือง การไปปรากฏตัวต่างๆ ต้องระมัดระวังมากขึ้น เพราะเกรงว่าะทำให้เป็นโทษมากกว่าเป็นคุณ กับการเคลื่อนไหวของนักศึกษา แต่เจตนาที่แท้จริงแล้ว คือ อยากให้การเคลื่อนไหวของนักศึกษา ของคนรุ่นใหม่ เติบโตและงอกงามด้วยตัวเอง จะเป็นพลังที่เข้มแข็งกว่า

"ขอชื่นชมการออกมาต่อสู้เรียกร้องสังคมที่ดีกว่าด้วยกัน ตนเชื่อว่าครั้งนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง จะนำไปสู่การสร้างประชาธิปไตยที่ยั่งยืนให้กับประเทศในระยะยาว ขอให้กำลังใจทุกคน ขอบคุณในกล้าหาญของทุกคน" นายธนาธร กล่าว

 

เปิดนาทีเสี่ยโป้ ดั้นด้นไปสน. สำราญ​ราษฎร์  เพราะอยากคุยพี่เอก ร่วมหาทางออกเลี่ยงชุมนุมแรง

เมื่อถามถึงกรณีหมอวรงค์เปิดตัวกลุ่มไทยภักดี และมีการกล่าวพาดพิง รวมถึงบอกว่ามีคนอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของเยาวชน นายธนาธร กล่าวว่า เราไม่กลัวอะไร เราบริสุทธิ์ใจ กรณีของหมอวรงค์ ตนไม่ได้ตาม ไม่รู้มีการเคลื่อนไหวอะไร ยืนยันว่า ถ้าจะมาพูดเรื่องเดิมๆ เรื่องชังชาติ ตนยืนยันอีกครั้งว่า การชังรัฐบาลที่มาจากการสืบทอดอำนาจ จากการรัฐประหาร เมื่อปี 2557 กับการชังชาติมันคนละเรื่องกัน

 

"จุดยืนของผมที่แสดงออกในสังคม ตั้งแต่เริ่มทำงานการเมืองมา 2 ปี ชัดเจนว่าผมปฏิเสธการสืบทอดอำนาจ ต่อต้านรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจมาจากการทำรัฐประหาร ผมเรียกร้องรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชน เรียกร้องประชาธิปไตย เชื่อว่าสิ่งต่างๆ ที่ผมเรียกร้อง ไม่เท่ากับชังชาติ การต่อสู้กับรัฐบาลที่เป็นเผด็จการ ไม่เท่ากับการเกลียดประเทศแน่นอน กลับกันเรามาทำงานการเมืองตรงนี้ เพราะเรารู้สึกรักและห่วงใอนาคตของประเทศ อนาคตของคนรุ่นต่อไป ไม่งั้นเราไม่มาทำงานตรงนี้" นายธนาธร กล่าวปิดท้าย


หลังจากนั้น เสี่ยโป้ อานนท์ เน็ตไอดอลชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “นั่งอยู่บ้าน วิจารณ์ธนาธร” เป็นภาพขณะที่เจ้าตัวเดินทางไปที่ สน.สำราญราษฎร์ เพื่อตามหา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า ระหว่างเดินทางไปให้กำลังใจ นายบารมี ชัยรัตน์ ผู้ประสานงานสมัชชาคนจน หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมข้อหายุยงปลุกปั่นตามมาตรา 116 พร้อมข้อความระบุว่า “ไปคนเดียว #แค่อยากรู้เรื่องสิทธิเสรีภาพ #และพี่จะหาทางสันติวิธีอย่างไร #แต่พี่ธรมองโป้แบบ...กลับบ้าน #โป้เสียใจ” โดยมีแฟนคลับให้กำลังใจจำนวนมาก ซึ่งในภาพจะเห็นว่านายธนาธรพยายามเอามือกุมประสานกันแล้วยิ้มให้กับนายอภิรักษ์แบบแห้งๆ

 

เปิดนาทีเสี่ยโป้ ดั้นด้นไปสน. สำราญ​ราษฎร์  เพราะอยากคุยพี่เอก ร่วมหาทางออกเลี่ยงชุมนุมแรง

 

เปิดนาทีเสี่ยโป้ ดั้นด้นไปสน. สำราญ​ราษฎร์  เพราะอยากคุยพี่เอก ร่วมหาทางออกเลี่ยงชุมนุมแรง

 

 

ก่อนหน้านั้น  นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แสดงความเห็นถึงการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มนิสิตนักศึกษาของกลุ่มประชาชนปลดแอก ในวันที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา ว่า การชุมนุมเป็นการแสดงออกตามสิทธิเสรีภาพที่ได้รับคุ้มครองตามกฏหมาย ขอเรียนกลุ่มคนที่ต้องการสร้างความเกลียดชังในสังคม และต้องการจับกุมปราบปรามนักศึกษาอย่างเด็ดขาดว่า นั่นไม่ใช่วิธีการแก้ไข และไม่ใช่ทางออก แต่เป็นการราดน้ำมันลงในกองไฟลุกโชน พวกเราเชื่อว่า สิ่งที่จะเป็นทางออกให้สังคมได้จริงๆ คือ การรับฟังสิ่งที่นักศึกษาพูดอย่างสติและมีเหตุผล แม้สิ่งที่นักศึกษาพูด อาจจะเป็นความจริงที่กระอัดกระอ่วน แต่นี่คือความท้าทายของสังคมไทยว่า มีวุฒิภาวะและมีความเป็นผู้ใหญ่พอหรือไม่ที่จะรับฟังความจริงเหล่านี้อย่างตรงไปตรงมา

"เรายืนอยู่ข้างนักศึกษาในการต่อสู้เพื่อให้บรรลุข้อเรียกร้อง 3 ข้อหลัก 1.หยุดคุกคามประชาชน 2.แก้ไขรัฐธรรมนูญ และ 3.ยุบสภา ซึ่งตนคิดว่า สิ่งที่เราต้องทำในวันนี้คือการมองสิ่งที่เขาเรียกร้องด้วยความหวังดี การไม่ฟังนักศึกษาไม่เปิดโอกาสให้สังคมมองเห็นทางออกจากความขัดแย้งเพื่อนำไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยอย่างไรต่างหากที่จะทำบ้านเมืองไปสู่วิกฤตและทางตัน ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจว่า พร้อมที่จะรับฟังและประนีประนอมแค่ไหน หากไม่ประนีประนอม ไม่รับฟังนักศึกษาเลย สังคมก็จะไม่มีทางออก

นอกจากนี้นายธนาธร  ยังกล่าวถึงข้อเรียกร้อง 10 ข้อ ของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ว่า  อาจทำให้กลุ่มคนบางกลุ่มไม่สบายใจ แต่ในขณะเดียวกันต้องยอมรับข้อเท็จจริงด้วยเหมือนกันว่า นี่คือความจริงที่กระอัดกระอ่วน ทุกคนตระหนักรู้อยู่แล้ว แต่ไม่มีใครออกมาพูดเรื่องนี้ในที่สาธารณะ พวกเขาเป็นคนกลุ่มแรกๆ ที่เอาเรื่องนี้มาพูดในที่สาธารณะ นับว่าเป็นกลุ่มคนที่มีความกล้าหาญมาก หากตัดเรื่องท่าทีในการนำเสนอออกไป โดยมองเนื้อหาที่เขานำเสนอ คำถามสั้นๆ คือ เราพร้อมหรือเปล่าที่จะพูดคุยเรื่องเหล่านี้ด้วยเหตุผล ด้วยสติ เราเป็นผู้ใหญ่และมีวุฒิภาวะพอหรือเปล่า  "นี่สิทธิขั่นพื้นฐานของประชาธิปไตย สังคมควรจะนำเรื่องนี้มาคุยกันอย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมา"

 

เปิดนาทีเสี่ยโป้ ดั้นด้นไปสน. สำราญ​ราษฎร์  เพราะอยากคุยพี่เอก ร่วมหาทางออกเลี่ยงชุมนุมแรง

 

 

คลิกเพื่อชมคลิป