ม็อบเหิมเกริมหนัก ทำลายสตช.ไม่พอ พ่นสีหยาบพระบรมสาทิสลักษณ์ ย่ำยีหัวใจไทย ดี้ นิติพงษ์ เกินทนจาบจ้วง

กลายเป็นความเหิมเกริมที่ดูเหมือนนับวันจะมากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าคณะราษฎร นับจากความพยายามบุกไปในพื้นที่ควบคุมบริเวณหน้ารัฐสภา  จนนำไปสู่การใช้มาตรการต่าง ๆ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ  แต่ไม่วายเกิดสารพัดปัญหาชนวนความรุนแรง  ถึงขั้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก จากจุดเริ่มต้นในสิ่งที่ทุกคนเห็นว่ามีการปลุกระดมให้กระทำในสิ่งผิดกฎหมายจากแกนนำและช่องทางโซเชียลที่เป็นศูนย์กลางการเคลื่อนไหว

 

( คลิกอ่านข่าวประกอบ :   เปิดคำยุยงแกนนำ ก่อนนาทีปะทะเดือด พูดยากขอพลังเงียบ..รักสถาบันฯอยู่เฉยๆ )

ล่าสุดในการนัดหมายรวมตัวแยกราชประสงค์ก่อนขยับไปที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  สภาพที่เกิดขึ้นคือความเสียหายอย่างหนักจากสิ่งที่มวลชนกระทำไว้ บนพื้นผิวถนนโดยรอบ ประตูรั้ว ฯลฯ   ไม่เว้นแต่พระบรมสาทิสลักษณ์  ในบริเวณดังกล่าวพบหลักฐานภาพบุคคลขึ้นไปพ่นสีด้วย ข้อความ  หยาบคาย จาบจ้วง   หรือกระทั่งกำแพงวัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร ก็ยังถูกพ่นสีด้วยข้อความต่าง ๆ   

 

 

 

 

 

ทั้งนี้  พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ให้ข้อมูลในช่วงเกิดเหตุว่า  "นับตั้งแต่ช่วงเวลา 16.00 น.เป็นต้นมา กลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎรเริ่มเข้าพื้นที่แยกราชประสงค์ ซึ่งทางพ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผกก.สน.ลุมพินี    ได้แจ้งให้กลุ่มผู้ชุมนุมยุติการชุมนุม  แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้เชื่อฟังคำสั่ง   ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไปยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งเพื่อให้ยุติการชุมนุม   จากนั้นกลุ่มได้เคลื่อนย้ายมายังหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

 

 

กระทั่งเวลา   20.04 น  .กลุ่มผู้ชุมนุมได้ขว้างปาส่งของเข้ามาภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ   ในส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นบริเวณป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงทรัพย์สินต่างๆ ยังต้องตรวจสอบ สำรวจความเสียหายว่ามีอะไรบ้าง  จากนั้นมีการมอบหมายผู้ที่ได้รับอำนาจไปแจ้งความร้องทุกข์  เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด  สำหรับกรณีการยิงแสงเลเซอร์เข้ามาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประเด็นที่ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน   หากการใช้เลเซอร์มีเจตนาเล็งเห็นผล ให้ส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายได้รับบาดเจ็บ ซึ่งต้องพิจารณาอีกครั้งมาเจตนาที่แท้จริงเป็นอย่างไร โดยเท่าที่ได้รับการรายงานไม่มีเหตุปะทะระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับทางเจ้าหน้าที่

 

ขณะที่กลุ่มแกนนำประกอบด้วย  นายพริษฐ์ ชิวารักษ์  หรือ เพนกวิน ,  นายอานนท์ นำภา ,  น.ส.ปนัสยา หรือ  รุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล  และ นายภานุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์   หลังจากปราศรัยปลุกเร้าให้ผู้ชุมนุมร่วมกันสาดสี   พ่นสี ขว้างกระป๋องสี และก้อนหิน เข้าไปภายในสำนักงานแห่งชาติ  จนถึงเวลาประมาณ 20.20 น.  ได้ประกาศชัยชนะและยุติการชุมนุม  พร้อมนัดให้ไปรวมตัวกันที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์  ในวันที่ 25 พ.ย.ที่จะถึงนี้  

 

ก่อนที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ    พร้อมด้วยตำรวจกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรือ อีโอดี นำสุนัข K9 เข้าตรวจสอบและเก็บรวบรวมหลักฐาน บริเวณด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพื้นที่โดยรอบ   หลังจากที่แกนนำ นำกลุ่มผู้ชุมนุมทำกิจกรรมเชิงสัญญลักษณ์ ด้วยการสาดสีใส่ป้ายและบริเวณพื้นที่ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  โดยมีการระดมเจ้าหน้าที่รักษาความสะอาด สำนักงานเขตปทุมวัน  เข้าฉีดน้ำทำความสะอาดพื้น และทาสีทับข้อความที่มีการเขียนไว้ในพื้นที่ชุมนุม

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถฉีดน้ำแรงแรงดันสูง ฉีดทำความสะอาดป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผนัง ประตู และฟุตบาท พร้อมทั้ง รื้อลวดหนาม และเคลื่อนย้ายรถบรรทุก 2 คัน ออกจากประตูทั้งสองฝั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้น ฝ่ายโยธาธิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะตรวจสอบอีกครั้งเพื่อดำเนินการซ่อมแซมแก้ไขต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

และจากสภาพการณ์ที่เกิดขึ้น "ดี้ นิติพงษ์  ห่อนาค"  นักประพันธ์เพลงชื่อดัง  ถึงกับต้องโพสต์ข้อความว่า  "ตักบาตรอย่าถามพระ..ม.112 อย่าถามในหลวง..#ได้เวลาแล้ว #ได้เวลาแล้ว"

 

 

 

 

 

 

 

 

 

>> Lazada ช้อปดีลเด็ดลดต่อเนื่องจาก 11.11 แจกส่วนลด 150฿ คลิกเลย <<