- 04 ม.ค. 2559
ติดตามข่าวเพิ่มเติมได้ที่ www.Tnews.co.th
สตช.แถลงผลการอำนวยความสะดวกการจราจรช่วงเทศกาลปีใหม่ มีปชช.ใช้เส้นทางเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกว่า 1 ล้านคน ระบุยอดจับกุม 7 แสนคน เพิ่มขึ้น 1 แสนคนจากปี 57 ขณะผิดเมาแล้วขับลดลง ยันจะนำมาตรการยึดรถผู้ที่เมาแล้วขับไปใช้ในทุกเทศกาล
วันนี้ (4 ม.ค.) ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รอง โฆษก ตร. แถลงภาพรวมการดูแลความปลอดภัยและการจราจรให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย และหน่วยร่วมปฏิบัติ เช่น ทหาร กรมการปกครอง และหน่วยอื่นๆ ที่ช่วยกันดูแลความปลอดภัยและการจราจรของพี่น้องประชาชนทุกคนในช่วงเทศกาลปีใหม่เดินทางไปและกลับด้วยความเรียบร้อย จนได้รับคำชมเชยจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
พล.ต.อ.เดชณรงค์ กล่าวว่า ในการดูแลงานเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลปีใหม่ แบ่งออกเป็น 2-3 เรื่องด้วยกัน เรื่องแรกคือการดูแลพื้นที่ให้ปลอดภัย ตำรวจได้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมอย่างต่อเนื่อง จนทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยดี โดยในส่วนของ กทม. มีพื้นที่จัดงานเค้าท์ดาวน์จำนวนมาก โดยภาพรวมการเค้าท์ดาวน์หรือการสวดมนต์ข้ามปีสงบเรียบร้อยดี ทุกคนปิติสุขร่วมเฉลิมฉลองปีใหม่ไปด้วยกันนี่คือมิติของการดูแลในส่วนของ กทม. ในส่วนของการนำผู้คนออกจาก กทม. เดินทางไปต่างจังหวัดไปเยี่ยมพ่อแม่พี่น้องประชาชนและท่องเที่ยวในปีนี้ จำนวนประชาชนที่ใช้เส้นทางตลอดเส้นทางเพิ่มเติมจากปีที่แล้วจำนวนมาก จำนวนตัวเลขที่ได้รับการยืนยันจากตำรวจทางหลวงประมาณ 3 ล้านกว่าคน ซึ่งปีที่แล้วมีประมาณ 2 ล้านกว่าคน
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ กล่าวว่า สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลต่างๆ นั้น ซึ่งผลการวิจัยนั้นระบุไว้ว่ามาจากความเมา ฉะนั้นมาตรการหลักในการดำเนินการก็จะเน้นการตรวจสอบความเมา ก็จะพบว่าปีนี้เราบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก 7 แสนกว่าราย ซึ่งปีที่แล้วจับกุมได้ 5 แสนกว่าราย เพิ่มขึ้นมาอีกแสนกว่าราย ปรากฎว่าตัวเลขที่พบยอดจับกุมความเมาในปีนี้น้อยลงมาก เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นข้อหาที่จับน้อยที่สุด ข้อหาที่โดนจับส่วนใหญ่จะอยู่ที่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย และ ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ฉะนั้นปีนี้มาตรการในการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับข้อหาเมาสุราน้อยลงมาก แสดงว่าการประชาสัมพันธ์และมาตรการป้องกันเราได้ผล ส่วนยอดคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในปีนี้อยู่ที่ 343 ราย เทียบกับปีที่แล้ว 341 ราย เพิ่มขึ้นมา 2 ราย
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการขยายมาตรการในการยึดรถผู้ที่เมาแล้วขับต่อไปหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า มาตรการนี้ตนเห็นว่าควรจะนำมาใช้ในทุกๆ เทศกาล เพราะเป็นการช่วยได้เยอะมาก ถ้าพี่น้องประชาชนปฏิบัติตามกฎจราจรหรืออะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวกับความปลอดภัย ตนเชื่อว่าจะช่วยได้เยอะ แต่ที่เกิดอุบัติเหตุเพราะว่าการฝ่าฝืนกฎจราจร เรื่องการขอความร่วมมือในเรื่องของการยึดรถเชื่อว่าในอนาคตจะช่วยลดยอดผู้เสียชีวิตในแต่ละปีแต่ละครั้งได้เยอะ อย่างไรก็ตามการบังคับใช้กฎหมายก็ดี การปฏิบัติตามกฎจราจรตามที่กฎหมายกำหนดผมถือว่ายังต้องปฏิบัติอยู่ ส่วนมาตรการเสริมของ คสช ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ไม่ได้เป็นการริดรอน แต่เป็นการรักษาชีวิตของพี่น้องประชาชน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะดูแลรถให้อย่างดี ทั้งนี้รถที่ถูกยึดไว้จะเริ่มทยอยส่งคืน หลังยึดไว้ 7 - 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ถูกยึด
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังได้กล่าวถึงโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจว่า ปีนี้ก็ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนฝากเพิ่มขึ้นกว่า 4000 หลัง ขณะนี้บ้านทุกหลังที่ฝากไว้ในโครงการฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่ได้รับรายงานเหตุอาชญากรรม ทั้งนี้การที่ประชาชนฝากบ้านไว้กับตำรวจเพิ่มขึ้น ไม่มีผลกระทบต่อกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลความปลอดภัยให้กับบ้านที่ฝากไว้ กลับกันยิ่งฝากเยอะยิ่งดี แสดงว่าพี่น้องประชาชนไว้ใจในการดูแลความปลอดภัยทรัพย์สินของท่านกับตำรวจ ทั้งนี้ฝากประชาสัมพันธ์ด้วยว่า กำลังเจ้าหน้าที่พร้อมที่จะดูแลอยู่แล้วหากไม่พร้อมก็เรียกหน่วยข้างเคียงที่ไม่ได้อยู่ในหน้าที่หลัก เช่น ตชด. มาช่วยเสริมได้