"อากู๋" เร่ง! "กสทช."  เคลียร์ปัญหา ทีวีดิจิตอล ก่อนจ่ายเงินค่างวดที่3 ลั่น! "แกรมมี่" มีเงินพร้อมจ่าย

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.tnews.co.th

          เมื่อวานนี้ (25 ม.ค. 59) นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ กล่าวว่า ภาพรวมของธุรกิจทีวีดิจิตอลยังมีศักยภาพเติบโตได้ดี เนื่องจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รายได้เติบโตถึง 100% หากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ  สามารถทำได้ตามเงื่อนไขและสัญญาที่กำหนดไว้ใน 3 เรื่องหลัก ไดแก่

          1. การแจกคูปองรับแลกซื้อกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลให้ครบ 22 ล้านครัวเรือนตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าประชาชนได้รับคูปองแท้จริง

          2. การเรียงช่องฟรีทีวีดิจิตอล เรียงเลขช่องเหมือนกันทุกแพลตฟอร์ม พบว่า เคเบิลและทีวีดาวเทียมบางรายยังไม่ได้เรียงช่องตามกฎกติกา โดยที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติไม่สามารถควบคุมดูแลได้

          3. ราคาค่าเช่าโครงข่ายทีวีดิจิตอล เป็นราคาที่สูงเกินไป คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ควรจะเป็นองค์กรกลางที่เข้ามามีบทบาทช่วยปรับลดราคาให้เหมาะสม เป็นเรื่องเร่งด่วนที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ควรเร่งแก้ไขปัญหาก่อนที่จะถึงกำหนดจ่ายเงินค่าประมูลทีวีดิจิตอลงวดที่ 3 ในเดือน พฤษภาคมนี้ เพราะหากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติไม่สามารถแก้ไขได้จะสร้างความไม่ยุติธรรมต่อผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล 24 ช่อง

          สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ จะส่งเรื่องให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ พิจารณาและจะออกเป็นคำสั่งตามมาตรา 44 นั้น มองว่าเป็นแนวทางที่ดีหากจะทำให้ปัญหาต่างๆ ได้รับการแก้ไข และเราไม่ได้จะไม่จ่ายค่างวดที่ 3 ซึ่งแกรมมี่ มีเงินและยินดีจ่าย หากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติทำงานไม่ได้ตามที่สัญญา ทั้ง 24 ช่องไม่ควรจ่ายค่าใบอนุญาตงวดต่อไป

          นายไพบูลย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ประกอบการ 5 ราย ที่ทำได้ดีและมี 10 รายที่ทำแล้วอยู่ได้ สำหรับทีวีดิจิตอลแกรมมี่มีทิศทางการเติบโต แม้ปัจจุบันยังอยู่ในภาวะขาดทุน แต่มั่นใจว่าภายใน 5-7 ปี จากนี้ธุรกิจจะถึงจุดคุ้มทุนและสร้างกำไรในอนาคต เพราะทั้งสองช่อง ได้แก่ ช่องวัน กับช่องจีเอ็มเอ็ม 25 มีจุดยืนที่แตกต่างกัน