เจอจะจะ!! ตำรวจบุกตรวจคอนโด"หญิงไก่" คดีแจ้งลูกจ้างลักทรัพย์ พบพิรุธอื้อ

ติดตามข่าวเพิ่มได้ที่ www.tnews.co.th

ผบก.น.2 พร้อมด้วย รองผบก.ป บุกตรวจคอนโด "หญิงไก่" เผยเวลาเดินจากหน้าห้องพักถึงลิฟท์สอดคล้องกับภาพจากกล้องวงจรปิด ส่อพิรุธเอาเวลาไหนไปขโมยของ อีกทั้งน้ำหนักของที่แจ้งหายกับอาการคนถือไม่สอดคล้องกัน
         

 

วันนี้ (4 ก.ค.)   เมื่อเวลา 13.00 น. พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 (ผบก.น.2)  พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รองผู้บังคับการกองปราบปราม (รองผบก.ป.) และพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ลงพื้นที่ตรวจสอบคอนโดที่พักของ หญิงไก่ หรือนางวันทนีย์ หยกวิริยะกุล ที่บ้านพักประชานิเวศน์ 1 ย่านถนนประชาชื่น ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุที่หญิงไก่นายจ้างอ้างว่าภาพวงจรปิดสามารถจับภาพ น.ส.ประภาวรรณ หรือ น้องก้อย ขณะนำทรัพย์สินออกจากห้องพัก โดยถือกระเป๋าเดินทางออกมาจากบันไดหนีไฟ และในลิฟต์
         

พ.ต.อ.ชาคริต กล่าวว่า จากการจำลองเหตุการณ์พบว่าระยะเวลาที่ออกจากลิฟต์ไปยังหน้าห้องพักและย้อนกลับมาเป็นระยะทางรวม 50 เมตร ใช้เวลา 1.30 นาที  ซึ่งตรงกันกับภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ  แสดงให้เห็นว่าทางครอบครัวน้องก้อย ไม่มีเวลาเหลือที่จะเข้าไปภายในห้องพักเพื่อนำเอาทรัพย์สินออกมาแต่อย่างใด  นอกจากนี้ในส่วนทรัพย์สินที่อดีตนายจ้างอ้างว่าครอบครัวน้องก้อยลักไปนั้นเป็นทองคำแท่ง หนัก 400 บาท เงินสดอีก 3 ล้านบาท ซึ่งหากรวมเป็นหนักน้ำจะพบว่าหนักกว่า 10 กิโลกรัม  แต่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าลักษณะการถือกระเป๋าเดินทางนั้น ดูมีน้ำหนักเบา จึงไม่น่าเป็นไปได้  เพราะหากมีน้ำหนัก 10 กว่ากิโลกรัมนั้น ผู้ขนน่าจะใช้วิธีลากกระเป๋ามากกว่า

เจอจะจะ!! ตำรวจบุกตรวจคอนโด\"หญิงไก่\" คดีแจ้งลูกจ้างลักทรัพย์ พบพิรุธอื้อ

 

ส่วนข้อพิรุธที่พบทั้งคดีของครอบครัวน้องก้อย และคดีของ นางสุกัญญา นั้น จะมีผู้นำทรัพย์ที่มีการแจ้งความไว้มาวางคืนที่ด้านหน้าห้องพักภายในคอนโด  ซึ่งหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะต้องตรวจสอบย้อนหลังว่าใครเป็นผู้นำทรัพย์สินมาวางไว้  ขณะที่การตรวจหนังสือเดินทางของหญิงไก่ ที่ระบุว่าเป็นหนังสือเดินทางของข้าราชการ  ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ประสานไปยังกระทรวงต่างประเทศว่าหนังสือเดินทางดังกล่าวออกมาได้อย่างไร  ซึ่งในเบื้องต้นจากการตรวจสอบหญิงไก่ไม่ได้เป็นข้าราชการ 
         

ด้าน พล.ต.ต.เจริญ  กล่าวว่า ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ได้ดำเนินคดีไปตามขั้นตอนที่มีผู้เสียหายมาแจ้งความว่าถูกขโมยทรัพย์ และได้มีการสอบปากคำพยาน และออกหมายเรียกให้ผู้ต้องหามาพบ  แต่ผู้ต้องหาไม่ได้มีการติดต่อเข้าพบ  จึงได้มีการออกหมายจับ แต่ในส่วนคดีของนางสุกัญญา ที่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนและรับสารภาพจึงได้ถูกคุมขัง

ขอบคุณภาพจากเว็ปไซต์มติชน