จบยกแรง!! ผลการเจรจา "ดีเอสไอ-ธรรมกาย" ถอยห่างทั้งสองฝ่าย ลดการปะทะซ้ำ

วันนี้ ( 20 พ.ย.)    เมื่อเวลา 12.00 น. พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ  เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับพระมหานพพร ปุญฺญชโย ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย  โดยได้ตกลงกันทั้ง 2 ฝ่าย ขยายแนวลดการเผชิญหน้าจากเดิม 2-3 เมตร ออกไปประมาณ 10-12 เมตร โดยตรงกลางจะมีรั้วเหล็กกั้น ซึ่งเป็นการลดผลกระทบ ซึ่งอาจมีผู้ไม่หวังดีเข้ามาสร้างสถานการณ์  และขอให้ทางวัดหยุดพร้อมกับห้ามคนปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียงปลุกระดม ซึ่งทางวัดยอมตกลงแต่ขอเปิดเสียงสวดมนต์และหลักธรรมคำสอน รวมทั้งขอให้มีการลำเลียงผู้บาดเจ็บออกจากวัดเพื่อไปทำการรักษา  ส่วนเรื่องการตัดน้ำตัดไฟยังอยู่ช่วงประเมินสถานการณ์ 
         
ด้าน พระมหานพพร กล่าวว่า เชื่อว่าหลังจากทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกันเชื่อว่าจะช่วยลดความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นได้  และทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงเช่นเดียวกัน ส่วนเรื่องการนำคนเจ็บออกไปรักษานั้น เป็นไปตามแนวทางหลักสิทธิมนุษยชน ซึ่งทางตำรวจเข้าใจดี  และทางวัดจะหยุดการปราศรัย แต่จะขอเปิดเสียงบทสวดมนต์  

เมื่อถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่า พระธัมมชโย ยังอยู่ในวัด  พระมหานพ กล่าวว่าไม่เคยยืนว่ายังอยู่ภายในวัดหรือไม่ ส่วนกรณีที่มีเครือข่ายชาวพุทธระดมมวลชนเข้ามาในวัดนั้นเป็นเรื่องของเครือข่ายไม่เกี่ยวข้องกับทางวัดพระธรรมกาย อาตมาไม่ได้รับผิดชอบในส่วนนี้ของให้สื่อมวลชนไปตรวจสอบกันเอง 

 

อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีการประทะกันเมื่อตอนเช้านั้น  พระมหานพพรบอกว่าไม่ได้เป็นการปะทะแต่เป็นเรื่องของความเข้าใจผิด และบอกว่าส่วนตัวไม่ทราบว่าพระกลุ่มนั้นจะออกมาเนื่องจากเป็นสถานการณ์กระทันหันที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าและจนถึงณขณะนี้ก็ยังไม่ได้มีการพูดคุยใดๆ กับ ตัวแทนพระสงฆ์ที่ออกมาเคลื่อนไหวเมื่อช่วงเช้า

ส่วนการที่เจ้าหน้าที่จะทำการตัดน้ำตัดไฟภายในวัดนั้น ถือว่าเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ เพราะขณะนี้ภายในวัดก็มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างยากลำบากอยู่แล้วทั้งพระและศิษย์ หากว่ามีการตัดน้ำตัดไฟจริงทรัพยากรภายในวัดที่มีอยู่อย่างจำกัดก็ยังจะสามารถเหลือใช้ได้อีกไม่นาน โดยพระมหานพพรได้ยกตัวอย่างว่าแบตเตอรี่ที่มีสำรองอยู่สามารถใช้งานได้เพียงครึ่งวันเท่านั้น

 

 

 

 

 

วิทย์ณเมธา   สำนักข่าวทีนิวส์