- 11 เม.ย. 2560
ติดตามข่าวเพิ่มได้ที่ www.tnews.co.th
จากกรณีหนุ่มพ่อค้าข้าวเงินหายไปจากบัญชี 2 ล้าน 7 แสน 8 หมื่นบาท หลังทำรายงานถอนเงินจากตู้ ATM เมื่อตรวจสอบในระบบออนไลน์ของธนาคารพบว่า มียอดเงินที่ถอนไป มากกว่าที่ทำรายการจริง หลายครั้ง ส่วนทางธนาคาร ระบุว่าเป็นความผิดพลาดของระบบและจะคืนเงินให้ แต่ผ่านมาเกือบปี ยังไม่ได้รับเงินคืน
ล่าสุด วันนี้ ( 11 เม.ย.) ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อเวลา 15.30 น. นายมนัส ชื่นชวน อายุ 31 ปี พ่อค้าข้าว ชาวจังหวัดลพบุรี ได้นำหลักฐานสมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารแห่งหนึ่ง พร้อมเอกสารรายการฝากถอนเงินในบัญชี เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวัน หลังเงินหายไปจากบัญชีจำนวน 2,700,000 บาท
นายมนัส เปิดเผยว่า ตนเองมีอาชีพเป็นพ่อค้าขายข้าว โดยนำข้าวจากชาวนาไปขายให้โรงสี และตนได้เปิดบัญชีโดยใช้ชื่อของ น.ส.นภารัตน์ ปุ้งสลุง ภรรยา เพื่อรับโอนเงินจากเถ้าแก่โรงสี มีเงินหมุนเวียนอยู่ในบัญชีกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งตนจะเบิกถอนเงินไปให้กับชาวนา โดยมักใช้วิธีกดเงินจากตู้เอทีเอ็มที่ตั้งอยู่หน้าโรงงานเย็บผ้าแห่งหนึ่งอำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี
จนกระทั่งในเดือนเมษายนปี 2559 ตนพบความผิดปกติของตู้เอทีเอ็ม เนื่องจากกดเงินออกมา แล้วยอดที่ถูกหักไม่ตรงกับเงินที่ได้รับออกมา เช่น กดออกมา 20,000บาท แต่เมื่อตรวจสอบบัญชีกลับพบว่ายอดหายไป 40,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ธนาคารก็ยอมรับว่าเป็นเพราะระบบขัดข้อง และแจ้งว่าจะมีการคืนยอดเงินที่หายไปในการปรับสมุดบัญชี ด้วยความเชื่อใจธนาคารจึงยังใช้บริการของธนาคาร แต่ก็ยังพบปัญหาระบบขัดข้องลักษณะเดียวกันนี้หลายครั้ง จึงไปร้องขอให้ธนาคารตรวจสอบและคืนเงินที่หายไป ซึ่งพบว่าตั้งแต่เมษายน-สิงหาคม 2559 ปรากฏรายการเบิกถอนจากตู้เอทีเอ็มกว่า 400 รายการ ทำรายการไม่สำเร็จถึงกว่า 200 รายการ มีเงินหายไปครั้ง 20,000-40,000บาท รวมเป็นเงินกว่า 2,7800,000 บาท แต่ทางธนาคารยอมรับว่าระบบขัดข้องเพียง 4 รายการ รายการละ 20,000บาท ตนจึงได้เงินคืนมาเพียง 80,000บาท ยังเหลืออีก 2,700,000บาท ที่ธนาคารยังไม่รับผิดชอบ จึงไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ม่วงค่อม จังหวัดลพบุรี วันนี้จึงเดินทางมาร้องตำรวจกองปราบให้ช่วยสอบสวนความผิดปรกติของธนาคาร