- 30 มี.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันนี้ ( 30 มี.ค.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ร.ต.อ.รุ่งศักดิ์ นันตะเวช พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ได้ควบคุมตัว นายนราธร หรือ “จ๊อต” โสดติยัง อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีทำร้ายร่างกายลุงซาเล้ง มายื่นคำร้องฝากขังผัดแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม- 10 เมษายน นี้ พร้อมทั้งคัดค้าการประกันตัวเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีก 4 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา ประวัติการต้องโทษ และอื่น ๆ
โดยพนักงานสอบสวนระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 12 มีนาคมเวลากลางคืน ขณะที่ผู้ต้องหาขี่ จยย.ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สวนทางมาและเกิดเฉี่ยวชนกับรถสามล้อซาเล้ง ที่ นายจรูญ มณีพันธ์ อายุ 82 ปี อาชีพเก็บของเก่า เป็นเหตุให้รถ จยย.ที่ผู้ต้องหาขี่มาล้มลง ขณะที่นายจรูญมาดูรถซาเล้ง ซึ่งไม่เสียหาย จึงขี่รถซาเล้งช้าๆต่อไป ขณะที่ นายนราธร มีอาการโกรธแค้น เดินตามมาเตะนายจรูญบริเวณหน้าอกอย่างแรง 1 ครั้ง และชกที่ใบหน้าอีก1 ครั้งจนนายจรูญตกจากรถลงไปนอนบนถนนมีแผลแตกบริเวณหางคิ้วขวาแล้วจะเข้ามาทำร้ายซ้ำอีก แต่มีพลเมืองดีมาห้ามไว้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู จะนำร่างนายจรูญไปรักษา ที่ รพ.ราชวิถี ส่วนผู้ต้องหาถูกพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ดำเนินคดีข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บเป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจนำตัวไปผัดฟ้องฝากขังต่อศาลแขวงพระนครเหนือ และได้รับการปล่อยชั่วคราว
ส่วน นายจรูญ หลังจากออกจาก รพ.ราชวิถี ก็กลับมาพักฟื้นรักษาตัวต่อที่บ้าน แต่อาการกลับทรุดหนักมีอาการไข้ แผลกดทับ ไม่สามารถลุกเดินได้ตามปกติ กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ญาติต้องนำตัวไปรักษาอีกครั้งที่ รพ.ราชวิถี และเสียชีวิตเมื่อเวลา 21.30 น.คืนวันที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหาดำเนินคดีเพิ่ม ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 โดยผู้ต้องหาได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา โดเหตุเกิดภายในซอยชานเมือง 2 ถนนประชาสงเคราะห์ แขวงและ- เขตดินแดง กรุงเทพฯ ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพเฉพาะข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บเป็นอันตรายแก่กายและจิตใจเท่านั้น และปฏิเสธข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวน ขอคัดค้านการประกัน เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่า ผู้ต้องหาจะหลบหนี ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้จากกรณี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ น.ส เมย์ ซึ่งเดินทางมาเยี่ยมสามีที่ศาลมีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก หลังจากอดหลับอดนอนมาตลอดทั้งคืน โดย น้องเมย์ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ทราบข่าวตอนเย็นว่าลุงอาการไม่ดี ตนก็ไปเยี่ยม พร้อม นายจ๊อด แฟนหนุ่ม เมื่อไปถึงที่ รพ . ราชวิถี แต่ไม่สามารถเข้าไปเยี่ยมได้ เพราะหมดเวลาเยี่ยม และทราบว่าอาการลุงไม่ดี จนกระทั่งลุงเสียชีวิต ตอน21.00น เศษ และรู้สึกเสียใจมาก ตลอดเวลาที่ลุงเข้ารพ. จ๊อดแฟนหนุ่ม ก็ไม่ได่ทอดทิ้งตามที่สังคมโซเซียโจมตีว่า จ๊อดไปเยี่ยมลุงวันเว้นวัน หลังจากที่ลุงกลับมารักษาตัวที่บ้าน จ๊อดยังไปเยี่ยมลุง และจะพาลุงไปกายภาพบำบัดด้วย ก่อนลุงจะเสียชีวิต
หลังจากที่ลุงเสียชีวิตแล้ว ทางพนักงานสอบสวนได้โทรมาบอกว่า จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับจ๊อดซึ่ง จ๊อดก็เข้าไปพบ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และไม่คิดจะหลบหนี ซึ่งตอนที่จ๊อดทราบว่าลุงเสียชีวิตแล้ว เค้ามีความรู้สึกแย่มากๆ และเสียใจ ตั้งแต่ตอนแรกที่กระทำลุงจรูญแล้ว เมื่อได้รับการประกันตัว ก็จะไปร่วมงานศพลุง ที่ จ.พระนครศรีอยุธยาด้วย
ภายหลัง ทนายความของ นายนราธร หรือ จ๊อด กล่าวว่า จากข้อหาที่ถูกแจ้งเพิ่มเติม ถ้าหากข้อเท็จจริงปรากฎว่ามีความผิด ก็ต้องรับผิดชอบ ทุกอย่างเกิดขึ้นจากอารมณ์ชั่ววูบ แต่ทำไปแล้ว ก็ต้องรับผิดต่อสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ที่ผ่านมาผู้ต้องหาได้ตกลงเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียหาย แต่เมื่อมีกรณีเสียชีวิต ก็ต้องเยียวยามากขึ้น จากนี้ตนก็จะอธิบายข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายให้นายนราธรได้เข้าใจ
“ทุกอย่างจากนี้ถือเป็นเรื่องที่ต้องรับผิดชอบ เมื่อมีการกระทำผิดก็ต้องรับผิดไม่ว่าข้อกฎหมายจะเป็นอย่างไร ส่วนเรื่องสาเหตุการเสียชีวิตจะมาจากการถูกทำร้ายร่างกายหรือไม่นั้น เราคงไปมองเฉพาะในข้อกฎหมายว่า จะมีหนทางสู้คดีอย่างเดียวก็ไม่ได้ ยืนยันว่าจะต้องรับผิดชอบ ส่วนการเยียวยาต่างๆ ข้อเท็จจริงก็จะปรากฏในชั้นศาล คนเสียชีวิตทั้งคนเราต้องดูแลอยู่แล้ว”
ขณะที่ภายหลังได้รับการปล่อยชั่วคราว นายนราธร หรือ จ๊อด เดินออกมาด้วยมีใบหน้าเคร่งเครียด และไม่ยอมตอบคำถามสื่อมวลชน พร้อมยกมือปาดใบหน้า 2 ครั้ง ก่อนจะขึ้นรถยนต์กลับไปทันทีพร้อมแฟนสาวและทนายความ น.ส.ศรีสมร หรือเมย์ อายุ 23 ปี เเฟนสาวนายนราธร กล่าวว่าหลังจากนี้ทนายความจะเดินไปพูดคุยเกี่ยวกับการเยียวยา กับผู้เสียหาย ซึ่งแฟนมีความตั้งใจว่าจะบวชให้กับผู้เสียชีวิต แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูฝ่ายญาติผู้เสียชีวิตว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ ส่วนการเยียวยาก็จะต้องคุยกับญาติผู้เสียชีวิตก่อน แฟนสาวกล่าว