ศาลสั่งจำคุก3ปี "ร.ต.อ."หมอ รพ.ตร. เมาซิ่งปอร์เช่ป้ายแดง ชนดับ 2 ปรับอีก1แสน

ศาลสั่งจำคุก 3 ปี ปรับ 101,000 บาท "หมอ รพ.ตร." เมาแล้วขับ ซิ่งปอร์เช่ชนเก๋งดับ 2 สาหัส 1 เมื่อเดือนส.ค.ปี64 โทษจำคุกรอลง 2 ปี

  จากกรณีอุบัติเหตุเมื่อช่วงเช้าวันนี้ 29 ส.ค. 64  โดย ร.ต.ท. แพทย์ศัลยกรรมรพ.ตำรวจ ซิ่งปอร์เช่ คาเยนน์ ป้ายแดง ชนท้ายเก๋งดับ2ชีวิต เจ็บ1 เหตุเกิดบริเวณใต้สถานีบีทีเอสบางหว้า ถนนราชพฤกษ์ขาออกมุ่งหน้าตลิ่งชัน แขวงบางจาก เขตภาษาเจริญ  โดยผู้ขับปอร์เช่คือ  ร.ต.อ.ภาณุรักษ์ รัตนไพศร นายแพทย์ (สบ.1) กลุ่มงานศัลยกรรม รพ.ตำรวจ

ศาลสั่งจำคุก3ปี "ร.ต.อ."หมอ รพ.ตร. เมาซิ่งปอร์เช่ป้ายแดง ชนดับ 2 ปรับอีก1แสน
   คืบหน้าล่าสุดวันที่ 7 พ.ย.65 ทาง"เนชั่นออนไลน์" มีรายงานว่า ที่ศาลอาญาธนบุรี ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ.153/2565 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด(สำนักอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 4) โจทก์ร่วม น.ส.ผ่องเพชร สิริอิสสระนันท์ ที่ 1 กับพวกรวม 4 คน ฟ้อง ร.ต.อ.นพ.ภาณุรักษ์ รัตนไพศร นายแพทย์(สบ1) กลุ่มงานศัลยกรรม รพ.ตำรวจ เป็นจำเลย

ศาลสั่งจำคุก3ปี "ร.ต.อ."หมอ รพ.ตร. เมาซิ่งปอร์เช่ป้ายแดง ชนดับ 2 ปรับอีก1แสน

(ข่าวที่เกี่ยวข้อง เปิดผลตรวจวัดเเอลกอฮอล์ ร.ต.ท.ซิ่งปอร์เช่ ชนเก๋งดับ2  )

ในความผิดฐานขับรถขณะเมาสุรา และโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัส ขับรถเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนด และขับรถที่มีไว้เพื่อขายหรือเพื่อซ่อมในเวลาต้องห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา291, 300 พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522

ศาลสั่งจำคุก3ปี "ร.ต.อ."หมอ รพ.ตร. เมาซิ่งปอร์เช่ป้ายแดง ชนดับ 2 ปรับอีก1แสน
   ด้าน นายกานต์พงศ์ สิริอิสสระนันท์ ลูกชายผู้เสียชีวิตกล่าวว่า คดีนี้ศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย ในความผิดฐานขับรถขณะเมาสุรา และโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัส เป็นเวลา 6 ปี ปรับ 202,000 บาท แต่จำเลยรับสารภาพจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 3 ปี ปรับ 101,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี

ศาลสั่งจำคุก3ปี "ร.ต.อ."หมอ รพ.ตร. เมาซิ่งปอร์เช่ป้ายแดง ชนดับ 2 ปรับอีก1แสน

โดยส่วนตัวน่าจะยื่นอุทธรณ์คดีขอให้ศาลเพิ่มโทษจำคุกและไม่รอการลงโทษเพราะเห็นว่าฝ่ายจำเลยไม่ได้รู้ในการกระทำโดยมารับสารภาพในการสืบพยานชั้นศาล แต่ก่อนหน้านี้ให้การปฎิเสธมาโดยตลอด

cr.nationonline

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ thainews