บิ๊กโจ๊ก เผย "คดีแอม" พบเล่นพนันออนไลน์วันละ 10 ล้าน เตรียมรวบเจ้าของเว็บ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เผย "คดีแอม ไซยาไนด์" พบเล่นพนันออนไลน์วันละ 10 ล้านบาท เตรียมออกหมายจับเจ้าของเว็บพนันเร็วๆ นี้

วันนี้ (19 พ.ค. 66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยหลังจากที่เมื่อวานนี้ (18 พ.ค.) ได้เข้าไปสอบปากคำ "นางสาวสรารัตน์" หรือ "แอม ไซยาไนด์" ภายในทัณฑสถานหญิงกลาง ซึ่งแอมไม่ยอมให้การเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน และไม่ยอมลงลายมือชื่อในคำให้การที่ให้ไว้เดิม

บิ๊กโจ๊ก เผย คดีแอม พบเล่นพนันออนไลน์วันละ 10 ล้าน เตรียมรวบเจ้าของเว็บ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ไม่เหนือความคาดหมายที่ผู้ต้องหาไม่ให้การ หลังจากที่ได้รับคำปรึกษาจากทนายความซึ่งยังคงเป็น นางสาวธันย์พิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือ ทนายพัช และยังไม่มีการเปลี่ยนตัวทนายความ และแม้ว่าผู้ต้องหายังไม่ได้รับสารภาพในข้อหาฆ่าผู้อื่น แต่รับในข้อเท็จจริง ซึ่งก็ยังยืนยันว่าตำรวจมีพยานหลักฐานที่แน่นหนา สามารถดำเนินคดีในชั้นศาลได้

ส่วนการกลับคำให้การไปมาของ นางสาวแอม ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาในการดำเนินคดี แต่จากการเข้าไปสอบปากคำด้วยตัวเองในเรือนจำ ยังพบว่า นางสาวแอม ยังไม่สำนึกผิด ส่วนจะมีที่ปรึกษาทางกฎหมายให้กับ นางสาวแอม จะมีความผิดหรือ ขณะนี้ยังไม่พบความผิด

 

นอกจากนี้ยังได้สืบสวนถึงแหล่งที่มาของไซยาไนด์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมที่ปล่อยปละละเลย และกลุ่มเว็บไซต์พนันออนไลน์ที่พบว่าแอมโอนเงินไปเล่นพนันกว่า 78 ล้านบาท ขณะนี้ทราบถึงเจ้าของเว็บไซต์ทั้งหมดแล้วและพบว่าไม่มีความเคลื่อนไหว

ทางด้าน นางสาวแอม ยอมรับว่า เล่นการพนันมาตั้งแต่ปี 2563 โดยรวมเงินจากกลุ่มเพื่อน และวงแชร์ วงจำนำรถ และกลุ่มเงินกู้ เพื่อไปเล่นพนัน โดยบางวันเข้าเว็บพนันมียอดเงินสูงถึง 10 ล้านบาท และจากการตรวจสอบยังไม่พบว่าพันตำรวจโทวิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตสามีของนางสาวแอม เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเล่นพนัน แต่ได้ช่วยเหลือด้านการเงิน ทั้งกู้เงินจากสหกรณ์ และจำนองบ้าน เพื่อเอาเงินไปให้นางสาวแอม

บิ๊กโจ๊ก เผย คดีแอม พบเล่นพนันออนไลน์วันละ 10 ล้าน เตรียมรวบเจ้าของเว็บ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยว่า สำนวนคดีนี้ได้ปรึกษาร่วมกับอัยการอยู่โดยตลอด เพื่อให้การส่งสำนวน และการตรวจสอบสำนวนไปในทิศทางเดียวกัน และพร้อมที่จะส่งสำนวนคดีทั้ง 15 คดี ไปให้อัยการพิจารณาภายในสัปดาห์หน้า โดยคดีนี้จะรวมทั้ง 15 สำนวน ดำเนินคดีศาลอาญา

 

ทั้งนี้ จะมีการมอบหมายให้ พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะหัวหน้ารวบรวมสำนวนคดี และพันตำรวจเอกเนอก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม ซึ่งเป็นผู้ทำคดีและเป็นผู้มีประสบการณ์ในการร้อยเรียงสำนวนทั้ง 15 สำนวนขึ้นเบิกความให้ศาลรับฟัง