"แจ๊บ" พ่อเลี้ยงโหดสารภาพสิ้น เปิดปากเล่าชนวนเดือด นาทีลงมือลูกเลี้ยง

จากกรณีคดีสะเทือนใจ พ่อเลี้ยงก่อเหตุสังหารลูกเลี้ยงวัย 12 ปี ก่อนนำร่างใส่ถังน้ำแข็งและโบกปูนทับ ต่อมาผู้ก่อเหตุคือนาย แจ๊บ ได้หลบหนีไปด้านภรรยาสาวถูกตำรวจควบคุมตัวไว้ กระทั่งต่อมาเมื่อช่วงเวลาประมาณ 16.00น. ตำรวจจะติดตามจับกุมตัวพ่อเลี้ยงโหดรายนี้ที่หนีไปกบดานในโรงแรมย่านอินทามระ และได้ควบคุมตัวมาสอบปากคำเข้ม 

ต่อมาเวลา 17.30 น. ฝ่ายสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ร่วมกับ ฝ่ายสืบสวนสน.บางเขน คุมตัว นายยุทธนา มาดี หรือ "แจ๊บ" อายุ 29 ปี  มายังห้องสืบสวนสน.บางเขน โดยนายยุทธนา มีสีหน้านิ่งเฉย ไม่สะทกสะท้าน ก่อนที่จะถูกนำตัวเข้าไปสอบสวน โดยมี พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 สอบสวนด้วยตนเอง

พล.ต.ต.อรรถพล เปิดเผยหลังสอบสวนนายแจ๊บ ว่า  ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยเล่าเหตุผลอ้างว่าไม่พอใจเด็ก ที่ขโมยของจึงทำร้ายด้วยไม้เบสบอล ตีไปนับ 10 ครั้งจนเด็กแน่นิ่งจึงลากร่างของน้องออกมาเพราะคิดว่าเสียชีวิตแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ นายแจ๊บมักจะทะเลาะกับเด็กและเคยใช้ไม้ตี แต่ไม่ใช่ไม้เบสบอล

ส่วนการอำพรางศพผู้ต้องหาอ้างว่ากลัวความผิดจึง ไปซื้อถังน้ำแข็งพลาสติกที่ตลาดไทย จากนั้นซื้อปูนและดินปลูกต้นไม้มาก่อเหตุอำพราง

ส่วนที่เด็กไม่สวมเสื้อผ้า นายแจ๊บอ้างว่าตอนก่อเหตุเสื้อผ้าเด็กเปื้อน ตั้งใจจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ แต่สุดท้ายไม่ได้ใส่ และปฏิเสธว่าไม่ได้คิดจะหั่นศพรวมถึงไม่ได้ล่วงละเมิดโดยตอนนี้ตำรวจพบเสื้อผ้าเด็กไม้เบสบอลและหลักฐานทั้งหมดแล้ว

ขณะที่จากการตรวจสอบประวัตินายแจ๊บพบมีประวัติการใช้ยาเสพติด ส่วนตัวเด็กหญิงนั้น น.ส.มิ้นท์ ภรรยานายแจ๊บรับอุปการะมา โดยการไปขอกับแม่ของเด็กที่ จ.อุทัยธานี ตั้งแต่เด็กอายุราว 7 ขวบ โดยอ้างว่าตั้งใจจะเอามาส่งเรียน

เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเสียชีวิตและซ่อนเร้นอำพรางศพส่วน ขณะที่ น.ส.มิ้นท์ ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน และจะพิจารณาในภายหลัง ส่วนผู้หญิงที่เจออยู่ด้วยกันตอนถูกจับไม่ได้เกี่ยวข้องทางคดี