ตำรวจ 21 นาย โดน ม.157 สำนวน"คดีกำนันนก" ถึงมืออัยการสูงสุดแล้ว

   16 พ.ย.66 ความคืบหน้าคดีกำนันนก จ้างวานฆ่า"สารวัตรแบงค์"ที่ห้องประชุม 100 ปี สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้จัดการแถลงข่าวการรับสำนวนคดีของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก พร้อมพวก  จาก พ.ต.อ. เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม

   สืบเนื่องจากกรณี "สารวัตรแบงค์"พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองบังคับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ถูกนายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ หน่อง ท่าผา ใช้อาวุธปืนยิงจนถึงแก่ความตายขณะที่อยู่ในงานเลี้ยงที่บ้านของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก ซึ่งเหตุดังกล่าวเกิดต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ภายในงานเลี้ยงจำนวนมาก โดยเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 6 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา

   โดยในคดีนี้สำนวนคดีอาญาที่ 24/2566 มีผู้ต้องหาจำนวน 2 คนคือ

1.1 นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือหน่อง (ถูกวิสามัญถึงแก่ความตาย) เป็นผู้ต้องหาที่ 1 

1.2 นายปวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก ผู้ต้องหาที่ 2 ที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่น ทั้งนี้นายประวีณ จันทร์คล้าย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยขณะนี้พนักงานสอบสวนได้มีการฝากขังไว้ที่ศาลอาญา โดยจะครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 6 ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2566 ที่จะถึงนี้

โดยสำนวนคดีอาญาที่ 25/2566 ยังระบุถึงการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ขณะที่มีการยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว รวมทั้งมีการกล่าวหาพลเรือนรวมทั้งกำนันนก (ผู้ต้องหาที่ 27 ในคดีนี้) โดยคดีกำนันนก มีผู้ต้องหารวม 28 คน

โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา 157 กว่า 21 คน

สำหรับผู้ต้องหาที่ 1-6 จะฝากขังตามหมายขังของศาลอาญา ครบฝากขังครั้งที่ 6 ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 ส่วน กำนันนก ผู้ต้องหาคนที่ 27 ถูกฝากขังตามหมายขังของศาลอาญา ในคดีที่ 24/2566 ซึ่งครบฝากขังครั้งที่ 6 ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2566 ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวน ซึ่งพนักงานสอบสวนได้นำตัวมาส่งให้พนักงานอัยการในวันนี้ โดยสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต นัดมาฟังคำสั่งในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 เวลา 09.00 น.

   ด้วยคดีนี้เป็นคดีสำคัญ สำนักงานคดีอาญาและสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ได้รายงานให้อัยการสูงสุดทราบและเนื่องด้วยสื่อมวลชนและประชาชนให้ความสนใจในการติดตามความคืบหน้าของคดีนี้อย่างต่อเนื่องเพราะการก่อเหตุในครั้งนี้ถือเป็นการกระทำที่มีความอุกอาจ ผู้เสียชีวิตเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและเกิดเหตุต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมสก ถือเป็นคดีสำคัญตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด

  ซึ่งพนักงานอัยการที่รับผิดชอบภายใต้การควบคุมของอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญาและอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต จะเร่งรัดการตรวจสำนวนด้วยความละเอียดรอบคอบและรวดเร็ว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ผลคืบหน้าทางคดี สำนักงานอัยการสูงสุดจะแถลงให้ทราบต่อไป