รวบแล้ว ช่างกล คนชูนิ้ว-ใช้เท้าเหยียบดอกบัว ก่อนสารภาพสิ้น

เจ้าหน้าที่ รวบผู้ต้องหาช่างกล คนที่ 4 รับสิ้น เป็นคนชูนิ้วกลาง และใช้เท้าเหยียบดอกบัว เป็นตัวการสำคัญที่ยั่วยุในการก่อเหตุครั้งนี้

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 31 ม.ค. 67 เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวนายเพชรมงคล ภัทรไพลิน อายุ 28 ปีอยู่บ้านเลขที่ 388 หมู่ 5 ต.หนองหัวฟาน อ.ขามสะแก จ.นครราชสีมา โดยผู้ต้องหารายนี้เป็นบุคคลตามหมายจับลำดับที่ 5 เป็นคนชูนิ้วกลาง และใช้เท้าเหยียบดอกบัว ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.89/2567 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันพาอาวุธเข้าไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมของกลางเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ สามารถจับกุมได้ที่ ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา

รวบแล้ว ช่างกล คนชูนิ้ว-ใช้เท้าเหยียบดอกบัว ก่อนสารภาพสิ้น

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยว่า นายเพชรมงคลถือเป็นตัวการสำคัญที่ยั่วยุในการก่อเหตุครั้งนี้รับสารภาพตามภาพกล้องวงจรปิดว่าเป็นคนชูนิ้วกลาง และใช้เท้าเหยียบดอกบัว ทำไปเพราะความคึกคะนองเท่านั้น จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมด 4 คน ยังไม่มีใครบอกว่ามือแทงผู้เสียชีวิตคือใคร ทั้งนี้ในช่วงบ่ายวันนี้ทนายความประสานมาว่าจะนำผู้ต้องหาที่เหลือเข้ามามอบตัว จำนวน 3 คน อีก 2 คน ไม่มามอบตัวในวันนี้ โดยเจ้าหน้าที่ไม่หนักใจว่าจะมามอบหรือไม่ เพราะตำรวจยังคงติดตามไล่ล่าจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดี จากการสืบสวนคดีนี้มีผู้ก่อเหตุ 9 คน แต่หากผลการสืบสวนขยายผลพาดพิงถึงใครไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือให้ที่พักพิง หรือสนับสนุนในเรื่องเงินทุน ก็จะดำเนินคดีทุกรายไม่ละเว้น โดยตำรวจจะทำให้เป็นเหมือนกับการจับกุมผู้ก่อเหตุคดีน้องหยอดและครูเจี๊ยบ

ต่อมาเวลา 12.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 4 บก.สส.บช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร. รอง ผบก.น.6 ร่วมกันสอบปากคำนายเพชรมงคล ภัทรไพลิน อายุ 28 ปี ซึ่งถูกจับกุมได้เป็นรายที่ 4 นายเพชรมงคล ให้การว่า ตนเองพ้นสภาพนักศึกษาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยในวันเกิดเหตุนั้นได้เข้าไปหาเพื่อนที่ในอุเทนถวาย แต่ถูกอาจารย์ไล่ให้ออกไปจากสถาบัน จากนั้นก็เดินออกมากัน 3 คน จนมาเจอกลุ่มเพื่อนพี่อยู่ข้างนอกอีก 6 คน

จากนั้นก็เดินไปที่หน้าสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ก่อนจะไปแสดงกิริยาท่าทางที่ไม่เหมาะสม เพื่อไปถ่ายรูปเก็บไว้ ตนเองได้ชูนิ้วกลางและใช้เท้าเหยียบไปที่ดอกบัวบนรั้ว เพราะความคึกคะนอง ไม่ได้ทำคอนเท้นต์ หรือไปเยาะเย้ยเพื่อให้มีเรื่อง เพราะทราบมาว่าสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันหยุดเรียนในวันนั้น พอถ่ายรูปเสร็จก็จะเดินทางกลับกัน ระหว่างนั้นฝ่ายผู้เสียชีวิตได้เดินออกมาจากรั้วสถาบัน แล้วชักมีดออกมาเพื่อจะเข้าทำร้ายกลุ่มพวกตน จึงเข้ารุมทำร้ายเพื่อปัองกันตัว

นายเพชรมงคล ยอมรับว่า เคยบริจาคเงินช่วยเหลือค่าข้าว ค่าน้ำ เป็นจำนงนเงิน 40-50 บาท ให้แก่กลุ่ม แต่เอาเงินไปใช้อย่างอื่นหรือเปล่า ตนเองไม่ทราบ ตนเองรู้สึกผิดและเสียใจกับสิ่งที่ทำไป จึงอยากขอโทษพ่อแม่ ญาติพี่นัอง และเพื่อนผู้เสียชีวิต ที่มีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากฝากรุ่นน้องว่า จะทำอะไรควรคิดกันให้ดี สิ่งที่ทำไปอาจจะแก้ไขไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องรับสภาพมัน และคนที่เดือดร้อนก็คือพ่อแม่ และคนข้างหลัง

รวบแล้ว ช่างกล คนชูนิ้ว-ใช้เท้าเหยียบดอกบัว ก่อนสารภาพสิ้น

พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่า บาดแผลแผลของผู้เสียชีวิตนั้น มีทั้งหมด 7 บาดแผล ประกอบด้วย ด้านหน้า 3 แผล ด้านหลัง 4 แผล ส่วนเป็นมีดเล่มใดนั้น อยู่ระหว่างรอผลชันสูตรของแพทย์ ซึ่งหลังก่อเหตุนายเพชรมงคลได้ไปตัดผมให้สั้นลงเพื่ออำพรางในการหลบหนี และหลบเลี่ยงหลีกหนีไม่ให้ฝ่ายอริตามล้างแค้นเอาคืน ส่วนผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 5 คน ที่ยังหลบหนีนั้น มี 3 คน ติดต่อผ่านทนายความเพื่อขอมอบตัวในวันนี้ ส่วนผู้ที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือหลบหนีนั้น ยืนยันว่าจะต้องถูกดำเนินคดีด้วย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง หลังจากสอบปากคำแล้วเสร็จ พนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลฝากขัง พร้อมกับคัดค้านการประกันตัว โดยให้เหตุผลว่าเป็นคดีร้ายแรงเกรงว่าจะหลบหนี

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่วันพรุ่งนี้ 1 กุมภาพนธ์ จะเป็นวันคล้ายวันสถาปนาของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย หรือ “Blue day” ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้กำชับกองบังคับการตำรวจนครบาล 6, กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191, ตำรวจควบคุมฝูงชน หรือ คฝ. ชุดเครื่องเร็วของฝ่ายสืบสวนเตรียมกำลังไว้ดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งได้เตรียมการมาก่อนหน้านี้หลายวันแล้ว ซึ่งมีการเข้าตรวจค้น และตั้งจุดตรวจ รอบสถาบันและสถานที่ใกล้เคียง อีกทั้งยังมีจุดตรวจค้นร่างกายที่ทางเข้าสถาบัน โดยประสานครู อาจารย์ และผู้ปกครอง ให้เข้าใจแล้ว และหากมีเหตุเกิดขึ้นภายในรั้วสถาบัน หรือภายนอกก็ตาม กำลังที่เตรียมไว้ก็พร้อมปฏิบัติเข้าระงับเหตุทันที เป็นมาตรการมีทั้งการป้องกันและการปราบปรามควบคู่กันไป