โตโน่ ตอบทุกดราม่า เผยเหตุผลใช้วิธีว่ายน้ำเรียกระดมทุนช่วยเหลือ

โตโน่ ภาคินตอบทุกดราม่า เผยเหตุผลใช้วิธีว่ายน้ำเรียกระดมทุนช่วยเหลือ ชินแล้วเห็นชื่อตัวเองติดเทรนด์ทวิต

โตโน่ ตอบทุกดราม่า เผยเหตุผลใช้วิธีว่ายน้ำเรียกระดมทุนช่วยเหลือ จากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการเปิดเผยเอกสาร 33 รายการที่ระบุว่าเป็นการขออำนวยความสะดวกให้กับทีมงานโครงการ "One Man and The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้" ของ โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ นักร้องและนักแสดงชื่อดัง ที่ได้ตั้งใจอย่างมากว่า โตโน่ว่ายน้ำข้ามโขง เพื่อรับบริจาคนำเงินไปซื้อเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาลที่ขาดแคลน ซึ่งโตโน่จะว่ายน้ำวันที่ 22 ตุลาคม 2565 นี้

 

โตโน่ ตอบทุกดราม่า เผยเหตุผลใช้วิธีว่ายน้ำเรียกระดมทุนช่วยเหลือ ชินแล้วเห็นชื่อตัวเองติดเทรนด์ทวิต

 

โดยในรายละเอียดของเอกสาร 33 รายการดูแล โตโน่ว่ายข้ามโขง นั้นประกอบไปด้วย การจัดทีมแพทย์ ชุดป้องกันภัยทางน้ำ ติดตามทีมว่ายน้ำ, การจัดเวที แสง สี เสียง, อาหาร เครื่องดื่ม, ทีมนางรำบวงสรวง, การจัดการจราจร รถนำขบวน, การประสานงานข้ามแดนกับแขวงคำม่วน สปป.ลาว ฯลฯ ทำให้บางส่วนก็มองว่านี่เป็นการสร้างบุญหรือภาระกันแน่ 

(อ่านข่าว - แฮทแท็ก โตโน่ ระอุอีกครั้ง ว่อนเอกสารขอสนับสนุน ชาวเน็ตตั้งคำถามเดียวกัน)

โตโน่ ตอบทุกดราม่า เผยเหตุผลใช้วิธีว่ายน้ำเรียกระดมทุนช่วยเหลือ ชินแล้วเห็นชื่อตัวเองติดเทรนด์ทวิต


เกี่ยวกับเรื่องนี้ระหว่างที่ โตโน่ กำลังเตรียมตัวเพื่อว่ายน้ำข้ามโขงนั้น เจ้าตัวก็ตระเวนออกรายการต่างๆ มากมายเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ไปในตัว ทว่ารายการที่จะทำให้ แฮทแท็ก โตโน่ ร้อนแรงอย่างต่อเนื่องก็คือ รายการคุยกับอุ๋ย ของช่องยูทูบ อุ๋ย บุดด้าเบลส ซึ่งมีการเผยบทสัมภาษณ์ของ โตโน่ ภาคิน โดยเริ่มเข้าเรื่องจากคำถามที่ว่า ทำไมถึงเลือกวิธีนี้ 
 

ด้าน โตโน่ ก็เผยว่า ตนเคยทำมาหลายวิธีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง เก็บขยะ เล่นคอนเสิร์ต ตอนน้ำท่วมก็เข้าไปช่วยเหลือ ตอน PM 2.5 ก็ออกมาช่วยรณรงค์ แต่ทั้งหมดที่เคยทำมา ว่ายน้ำหาเงินได้มากสุด คราวที่แล้วได้เกือบ 20 ล้านบาท ซึ่งเงินที่ได้มาก็นำไปช่วยศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายาก ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน


นอกจากนี้ โตโน่ ยังเปิดเปยอีกว่า ถ้าเกิดกรณีที่แย่ที่สุดถึงขั้นจมน้ำ คนที่จะเข้าไปช่วยคือทีมที่ฝึกมาด้วยกันกับตน ซึ่งในทีมทั้งหมดมี 5 คน เป็นทีมที่ว่ายมาด้วยกันตั้งแต่โครงการ "ONE MAN & THE SEA หนึ่งคนว่าย หลายคนช่วย" โดยคนในทีม 2 คน เป็นนักกีฬาว่ายน้ำจากราชนาวี ที่เป็นทั้งเพื่อนและครูของโตโน่ อีก 1 คน เป็นผู้หญิงคนเดียวในทีม ซึ่งเป็นอดีตนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติ และอีกคนคือน้องเขยของโตโน่ ซึ่งเป็นนักกีฬาว่ายน้ำจากขอนแก่น
โตโน่ ตอบทุกดราม่า เผยเหตุผลใช้วิธีว่ายน้ำเรียกระดมทุนช่วยเหลือ ชินแล้วเห็นชื่อตัวเองติดเทรนด์ทวิต

ส่วนทีมกู้ภัย ก็เป็นทีมกู้ภัยของ โตโน่ ที่ทางบริษัทรถยี่ห้อดังส่งมาให้ เพราะโตโน่เป็นพรีเซ็นเตอร์ โดยจะมีทีมขี่เจ็ตสกีคอยมาตามดูแล ดังนั้นก็สบายใจได้ ถ้ากลัวว่าตนจะไปรบกวนใคร ซึ่งค่าใช้จ่ายทีมว่ายน้ำตนก็เป็นคนออก ส่วนทีมงานของรถยี่ห้อดังที่โตโน่เป็นพรีเซ็นเตอร์นั้น ทางนั้นก็ช่วยออกให้

 

พร้อมกันนี้ โตโน่ ยังอธิายอีกว่า ตนไม่ให้ทีมกู้ภัยมาเลย เพราะต้องการทีมที่ฝึกมาด้วยกัน อยากใช้ขบวนที่น้อย เพราะดูแลง่าย ไม่ต้องรบกวนใคร อยากใช้น้ำมันให้น้อยที่สุด ต้องการทีมที่ฝึกมาด้วยกันเพื่อการสื่อสาร รวมถึงจะได้ไม่ต้องไปกีดขวางเส้นทางแม่น้ำโขงทั้งลำน้ำ
โตโน่ ตอบทุกดราม่า เผยเหตุผลใช้วิธีว่ายน้ำเรียกระดมทุนช่วยเหลือ ชินแล้วเห็นชื่อตัวเองติดเทรนด์ทวิต

"แต่ในกีฬาต่างๆ มันต้องมีหน่วยกู้ภัยฉุกเฉินที่ต้องไปด้วยอยู่แล้ว ซึ่งทางโรงพยาบาล จ.นครพนม ก็ต้องการที่จะมาช่วยอยู่แล้ว ส่วนทางจังหวัด ทางเทศบาล ก็จะได้ในเรื่องของการท่องเที่ยวด้วย อีกทั้งติดต่อกับทางฝั่งลาวไว้หมดแล้ว ว่าจะมีการว่ายน้ำไป ซึ่งทางลาวก็ยินดีที่ โตโน่ จะไปช่วยเหลือโรงพยาบาลของลาว และทางประเทศลาวได้ส่งรถพยาบาลมาช่วยโตโน่ด้วย"
 

อีกทั้ง โตโน่ ยังได้ตอบถึงปม "นักบุญทุนคนอื่น" อีกด้วยว่าได้เห็นชื่อตัวเองติดเทรนด์ทวิตเตอร์ ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่ตนเจอแบบนี้ แต่เป็นห่วงคุณหมอกับพยาบาล เพราะตอนที่เอาพระเครื่องหลวงตามหาบัวมาให้กับมือ คุณหมอกับพยาบาลร้องไห้และกล่าวขอบคุณน้ำใจของโตโน่ที่จะมาช่วย ตนไม่สนว่าคนจะเข้าใจตนไหม แต่กลัวคนเห็นข่าวแล้วโครงการจะหยุดลงแค่นี้

 

"ยืนยันว่าการว่ายน้ำ การมาช่วยคนในครั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าผมเป็นคนดีกว่าใคร แค่อยากจะช่วยคุณหมอ คุณพยาบาล และคนที่ลำบาก ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ ผมก็ไม่เสียใจ ทุ่มเทเต็มที่ทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ไม่มีอะไรค้างคาใจ ไม่สำคัญว่าใครจะอยู่ได้นานกว่ากัน แต่สำคัญว่าระหว่างที่เราอยู่เราทำอะไร" โตโน่ ระบุทิ้งท้าย 

โตโน่ ตอบทุกดราม่า เผยเหตุผลใช้วิธีว่ายน้ำเรียกระดมทุนช่วยเหลือ ชินแล้วเห็นชื่อตัวเองติดเทรนด์ทวิต

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline