เปิดชีวิต ลีน่าจัง อยู่คนเดียว 20 ปี พิธีกรเห็นบ้านแล้วอึ้ง อยู่ไปได้ยังไง

จากกรณีดราม่าร้อน เมื่อ แพรรี่ ไพรวัลย์ ได้ออกมาไลฟ์เดือดกลางดึก หลังจากที่ถูก ลีน่าจัง กระชากวิกผม แพรรี่ กลางรายการ ซึ่ง แพรรี่ ระบุว่าการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ต่ำทราม การให้เกียรติคนอื่น มันเป็นมารยาทพื้นฐาน LGBTQ ก็มีหัวใจมีความรู้สึก และจะไม่มีทางร่วมงานกับลีน่าจังอีกต่อไป

 

อย่างไรก็ตาม หากย้อนไปเมื่อช่วงวันที่ 26 มี.ค. 2566 รายการตีท้ายครัว ได้เปิดชีวิตจริงของลีน่าจัง พาชมบ้านที่อยู่จริงมา 33 ปี โดย ลีน่าจัง เผยว่าเป็นบ้านและเป็นคลินิกที่เปิดมา 4 ปี รักษาโรค แต่เป็นที่อยู่อาศัยอยู่มา 33 ปี พร้อมกับเล่าย้อนความหลังว่า วัยเด็กลำบาก ไม่มีจะกินเลย อยู่วรจักร ต้องเอาอาหารเหลือจากร้านอะไหล่มาเทรวมกันเป็นจั๊บฉ่ายให้เรากิน

ส่วนวันที่อู้ฟู่ของชีวิต ขายเสื้อผ้าปี31-32 ต่างประเทศสั่งซื้อ ปีละ 2 พันล้าน ได้กำไร 100 ล้าน วันหนึ่งผลิตเสื้อผ้าหลายหมื่นตัว ลูกน้องเกือบ 5 พันคน จนปี 33 อิรักบุกปิดน่านฟ้า เราก็เจ๊ง

ลีน่าจัง ยังระบุอีกว่า อยู่คนเดียว มา 20 ปี ลูกทนไม่ไหวเราปากร้าย ก็หนีไปอยู่ที่อื่น ในวัย 64 ก็ต้องอยู่อย่างมีความสุข พึ่งตัวเอง ตื่นมาตี 4 ก็ไลฟ์ เขาจ้างเป็นอินฟลูเอนเซอร์ เดือนพฤศจิกายน ฉันได้ตั้ง 10 กว่าล้าน แต่มา ธันวาคม มกราคม กุมภาพันธ์ ตกงาน

 

ลีน่าจัง ได้พาพิธีกรไปชมชั้นต่างๆของบ้าน ก่อนพิธีกรบ่นอุบกับบันไดวนกว่าจะขึ้นไปได้แต่ละชั้น ถึงกับถามว่าอยู่ได้ยังไง ก่อนจะเปิดตู้เย็นทำเอาพิธีกรถึงกับช็อกหนัก เพราะมีแต่อาหารที่เหลือเก็บแช่แข็ง ซึ่ง ลีน่าจัง ก็ยอมรับแช่ไว้เป็นปีก็มี เพราะชีวิตเคยจนมาก่อน กินอาหารเหลือก็มาเก็บไว้กินอีก ทำเอาพิธีกรอย่าง มดดำ คชาภา ถึงกับทนไม่ไหวต้องให้ทีมงานขนของเหลือในตู้เย็นไปทิ้งทั้งหมด

 

เมื่อเปิดห้องเสื้อผ้า เหล่าพิธีกรก็ต้องตกใจอีกเพราะไม่มีตู้เสื้อผ้า ใช้วิธีเก็บเสื้อผ้าใส่ถุงพลาสติกไว้ ซึ่ง ลีน่าจัง บอกว่าเพราะถ้าซื้อตู้ต้องเสียเงิน แล้วขนตู้ขึ้นมาลำบากเป็นบันไดวน เมื่อพาไปดูห้องนอนกว่าจะขึ้นมาได้ลำบาก แถมไม่มีห้องน้ำ จน มดดำ ถึงกับถามว่าทำไมมีเงินไม่ทำบ้านให้ดีๆอยู่สบายๆ

ลีน่าจัง ก็ตอบว่า ไม่มีตังค์ ตอนนี้อายุ 64 แล้ว ทำมาหากินไม่ไหวแล้วนะ เราต้องเก็บเงินไว้ เผื่อวันไหนโชคร้ายเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตจะได้จ้างพยาบาล 2 คนมาเช็ดอุจจาระปัสสาวะให้เรา