วรพจน์ เพชรขุ้ม เตรียมลาออก ยังจำพระบรมราโชวาท พ่อหลวงร.9 เทิดทูนเหนือเกล้า

ยังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก สำหรับการเลื่อนยศ "ผู้กองนางงาม" ซึ่งต่างจาก วรพจน์ เพชรขุ้ม อดีตเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2004 ที่เป็นข้าราชการทหาร 23 ปี ไม่ได้เลื่อนขั้น ทั้งที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ จบปริญญาโทก็ไร้ประโยชน์

 

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ทางเพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว อดีตฮีโร่กำปั้นทีมชาติไทย วรพจน์ เพชรขุ้ม เจ้าของเหรียญเงินจากโอลิมปิกเกมส์ 2004 เตรียมยื่นใบลาออก ไม่ขอทนระบบราชการ แล้วหลังเข้ารับราชการทหารตั้งแต่ปี 2543 แต่ก็ยังไม่ได้เลื่อนยศใดๆ มา 23 ปี

 

โดย วรพจน์ บอกด้วยน้ำเสียงท้อแท้ว่า 23 ปีแล้ว ที่ตนรับราชการมา แทบไม่ค่อยได้รับโอกาสเลื่อนยศเลย แรกเริ่ม รับตำแหน่ง สิบตรี ตอนนั้นตนจบแค่วุฒิม.6 ก็ ไปแข่ง ได้เหรียญมา ก็ไม่ได้เลื่อนขั้นอะไร จากนั้นตนไปศึกษาเพิ่มเติมเรื่อยมา จนจบปริญญาโท แต่ก็ไม่ได้เลื่อนยศ ทั้งที่ เรียนจบปริญญาโท ปัจจุบันนี้  ได้ยศ จ.ส.ต  

 

"สำหรับผมเองอีกไม่นานก็จะลาออก จากราชการแล้ว ไม่ทนอีกแล้ว ที่ผ่านมา ไม่เคยถามหัวหน้าหน่วยว่าเหตุใด ทำไมไม่ได้เลื่อนยศ หากจะมองว่าเพราะขาดคุณสมบัติการศึกษา ผมก็จบปริญญาโทตั้งแต่ปี 51 แล้วก็มาทำงาน ซึ่งการที่นักกีฬารับราชการทหาร ก็ช่วยเรื่องกีฬา สอนกีฬามวยและกีฬาต่างๆ ที่ทำได้ และมีการศึกษาระดับปริญญาโท ก็ช่วยงานอื่นๆ ได้" 

อย่างไรก็ตามในเฟซบุ๊กของ วรพจน์ เขายังได้โพสต์ข้อความระบุอีกเมื่อไม่นานนี้ว่า "พ่อหลวงร.๙ เทิดทูนเหนือเกล้า ครั้งหนึ่งเคยถวายเหรียญโอลิมปิคให้พ่อ

 

ไม่ใช่เฉพาะเราคนเดียวนะที่เชียร์ คุณทองแดงนอนอยู่ข้างๆ เวลานักชกไทยได้คะแนนคุณทองแดงยังเห่าเชียร์เสียงดังมาก อยากบอกให้รู้ว่าคนไทยทุกคนเชียร์นักกีฬาไทยที่แข่งขันที่มีการถ่ายทอดสดทุกครั้ง

#พระบรมราโชวาท ให้นักกีฬาโอลิมปิค 2004"

ภาพจาก Worapoj Petchkoom