หนุ่มจีนกระหายน้ำ ซัดน้ำอัดลม 1.5 ลิตร ก่อนถูกหามตัวส่งรพ.ด่วน แต่ก็สายเกินไป

หนุ่มจีน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจ้าวหยาง ในกรุงปักกิ่ง หลังมีอาการปวดท้องรุนแรง และท้องบวม ซึ่งเขาบอกกับแพทย์ว่า เมื่อ 6 ชั่วโมงก่อน เขาดื่มน้ำอัดลม "Coca Cola" ขนาด 1.5 ลิตร หมดใน 10 นาที เพื่อบรรเทาความกระหาย เนื่องจากอากาศร้อน ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่า การดื่มน้ำอัดลมในปริมาณที่มากและรวดเร็วขนาดนั้น ทำให้เกิดการสะสมของแก๊สในลำไส้ และรั่วเข้าไปในหลอดเลือดดำพอร์ทัล ซึ่งเป็นหนึ่งในหลอดเลือดหลักที่ไปเลี้่ยงตับ และไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายอีกด้วย 

*เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น*

แพทย์ระบุด้วยว่า ไม่คิดว่าชายคนนี้จะมีปัญหาสุขภาพอื่นแฝงอยู่  ซึ่งจากการทดสอบหลายครั้ง ตอนที่ประเมินอาการเบื้องต้น ได้พบสัญญาณที่น่าเป็นห่วงหลายจุด อัตราการเต้นหัวใจสูงขึ้น ความดันโลหิตต่ำและหายใจถี่ เมื่อทำ CT scans ก็พบว่า มีก๊าซเข้าไปอยู่ในผนังลำไส้ และหลอดเลือดดำพอร์ทัล นายแพทย์เฉียง เหอ ผู้ทำรายงานเคสนี้ บอกว่า ทางทีมแพทย์ได้พยายามที่จะระบายแก๊สออกมาจากระบบย่อยอาหารของชายผู้นี้ และยังให้ยาเพื่อช่วยป้องกันตับและพยายามรักษาการทำงานอื่นๆ ของร่างกายให้กลับมาคงที่ ไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติม  

*เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น*

แพทย์บอกว่า หลังจากผ่านไป 12 ชั่วโมง ผลการทดสอบเลือดแสดงให้เห็นว่าชายคนนี้ ตับเสียหายรุนแรง อาการก็ทรุดลงเรื่อยๆ และเสียชีวิตหลังจากเข้ารับการรักษา 18 ชั่วโมง ด้านผู้เชี่ยวชาญอังกฤษ ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง โดยยืนยันว่า แค่โคคา-โคลา 1.5 ลิตร ไม่น่าจะถึงตายได้ โดยศาสตราจารย์เนธาน เดวี่ส์ นักชีวเคมีจาก University College London ให้ความเห็นว่า โอกาสที่การดื่มน้ำอัดลมรวดเดียว 1.5 ลิตร หรือ มากกว่านี้่สักหน่อย ไม่น่าจะทำให้เสียชีวิตได้ ยังต้องมีข้อมูลที่มากกว่านี้ โดยอาจเป็นไปได้ว่า จะเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุให้เกิดการสะสมแก๊ส เพราะเคยมีคนที่ติดเชื้อแบ็คทีเรียแบบนี้ และมีอาการลักษณะเดียวกันกับชายคนนี้ ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต

*เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น*