เปิดปมหนุ่มวัย 18 ปี คลั่งไลฟ์สดกราดยิงดับ 10 รายในสหรัฐฯ

เปิดปมหนุ่มวัย 18 ปี คลั่งไลฟ์สดกราดยิงดับ 10 รายในสหรัฐฯ อีกหนึ่งเหตุการณ์สุดระทึกที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา เมื่อหนุ่มวัย 18 ปีเปิดฉากกราดยิงทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย ในซูเปอร์มาร์เก็ตในรัฐนิวยอร์กของสหรัฐฯ เมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมา (14 พ.ค.65) พร้อมกับไลฟ์สดผ่านออนไลน์ ซึ่งตำรวจจับตัวไว้ได้ เร่งสอบปมความเกลียดชังทางเชื้อชาติ 

โดยตำรวจท้องที่เมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก เปิดเผยว่า หนุ่มผู้ก่อเหตุพกปืนไรเฟิล สวมเสื้อเกราะกันกระสุนเดินเข้าไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ท็อปส์ เฟรนด์ลี มาร์เก็ต ที่มีคนพลุกพล่าน เมื่อเวลา 14.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนเปิดฉากกราดยิงนิวยอร์ก และยังใช้กล้องถ่ายทอดสดเหตุการณ์ผ่านออนไลน์อีกด้วย 

 

ตามรายงานระบุว่า เขายิงผู้เคราะห์ร้าย 4 คนที่ลานจอดรถ ก่อนเข้าไปภายใน และยิงยามรักษาความปลอดภัยเสียชีวิต และตรงเข้าไปกราดยิงคนภายในร้าน

 

นอกจากนี้ ตำรวจ ระบุอีกว่า เขายิงผู้เคราะห์ร้ายรวม 13 คน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 รายในที่เกิดเหตุ ผู้เคราะห์ร้าย 4 คนเป็นพนักงานของซูเปอร์มาร์เก็ต และ 3 คนบาดเจ็บและยามรักษาความปลอดภัยเสียชีวิต และในจำนวนผู้เคราะห์ร้าย 13 คนเป็นคนผิวสี 11 คน และคนผิวขาวอีก 2 คน
 

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่สามาถจับกุมผู้ก่อเหตุผิวขาววัย 18 ปีไว้ได้ หลังจากเผชิญหน้ากันในจุดเกิดเหตุ ระบุชื่อ เพย์ตัน เกนดรอน เขาขับรถจากบ้านนานหลายชั่วโมงไปยังย่านที่อยู่อาศัยของคนผิวสีเพื่อก่อเหตุ

 

เจ้าหน้าที่สำนักงานสืบสวนสอบสวนกลาง หรือ FBI กำลังมุ่งสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเด็นการก่ออาชญากรรมด้วยความเกลียดชัง และการกระทำแบบสุดโต่งรุนแรงด้วยเหตุจูงใจทางเชื้อชาติ

ขณะเดียวกัน Twitch ที่เป็นแพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมยอดนิยมสำหรับการเล่นเกม ยืนยันว่า ผู้ต้องสงสัยใช้แพลตฟอร์มแห่งนี้ในการถ่ายทอดสดระหว่างก่อเหตุ ระหว่างนั้นมือปืนถูกนำตัวขึ้นศาลเมืองบัฟฟาโล และถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

โดยมีนัดขึ้นศาลครั้งต่อไปในวันพฤหัสบดีหน้า ข้อหาดังกล่าวมีโทษสูงสุดถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต โดยไม่มีทัณฑ์บน และเขาถูกคุมขังโดยไม่อนุญาตให้ประกันตัว

 

อย่างไรก็ตาม ไบรอน บราวน์ นายกเทศมนตรีเมืองบัฟฟาโล แถลงว่า "เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นฝันร้ายที่สุดเท่าที่ชุมชนนี้เคยเผชิญมา" และ "เราไม่อาจปล่อยให้คนที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังเช่นนี้แบ่งแยกชุมชน หรือ ประเทศของเรา"

ภาพจาก เนชั่นทันโลก NTV World News