ยูทูบเบอร์สาว อยากพิสูจน์ความศักดิ์สิทธิ์แม่น้ำคงคา ก่อนแช่ตัวลงในน้ำ

ยูทูบเบอร์สาวชื่อดัง อยากพิสูจน์ความศักดิ์สิทธิ์แม่น้ำคงคา ก่อนแช่ตัวลงในน้ำ ก่อนลงไปแช่แค่ชั่วโมงเดียวรู้เรื่องเลย!

ยูทูบเบอร์สาวชาวญี่ปุ่นวัย 22 ปี เมกุมิโกะ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า เมกุ (Megu) โดยปกติแล้วเธอมักจะโพสต์คลิปวิดีโอแชร์การใช้ชีวิตของเธอในประเทศอินเดีย จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ คลิปวิดีโอของเธอได้กลายเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์ ภายหลังจากเธอทดลองประสบการณ์ แช่ตัวในแม่น้ำคงคา

ยูทูบเบอร์สาวชื่อดัง อยากพิสูจน์ความศักดิ์สิทธิ์แม่น้ำคงคา ก่อนแช่ตัวลงในน้ำ

สำหรับแม่น้ำคงคา แม้จะเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวท้องถิ่น แต่ทั่วโลกต่างทราบดีว่า แม่น้ำแห่งนี้ได้ชื่อว่า เป็นแม่น้ำที่สกปรกและมีมลพิษมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ทว่ายูทูบสาวรายนี้อยากจะลองสัมผัส "พิธีชำระล้าง" ในแม่น้ำคงคาด้วยตัวเอง
ยูทูบเบอร์สาวชื่อดัง อยากพิสูจน์ความศักดิ์สิทธิ์แม่น้ำคงคา ก่อนแช่ตัวลงในน้ำ

ซึ่งเมกุมิโกะแต่งกายด้วยชุดอินเดียดั้งเดิม ก่อนที่จะเดินลงแม่น้ำคงคา โดยหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ตามตำแหน่งพระอาทิตย์ขึ้นในประเพณีอินเดีย จากนั้นได้จุ่มศีรษะลงในแม่น้ำ แล้วใช้มือกวักน้ำขึ้นมาล้างหน้าและถูซ้ำหลายครั้ง ส่วนรอบข้างก็มีชาวท้องถิ่นจำนวนมากไปร่วมพิธีกรรม
ยูทูบเบอร์สาวชื่อดัง อยากพิสูจน์ความศักดิ์สิทธิ์แม่น้ำคงคา ก่อนแช่ตัวลงในน้ำ

ยูทูบเบอร์สาวชื่อดัง อยากพิสูจน์ความศักดิ์สิทธิ์แม่น้ำคงคา ก่อนแช่ตัวลงในน้ำ

แต่ปรากฏว่า หลังจากผ่านพิธีดังกล่าวไปเพียงแค่ 1 ชั่วโมง ยูทูบเบอร์สาวเผยว่า เธอเริ่มมีอาการแสบจมูกอย่างรุนแรง ก่อนที่จะลามไปเจ็บคอมาก และในคืนนั้นเธอก็มีไข้สูง อย่างไรก็ตาม โชคดีที่อาการป่วยของเธอบรรเทาและดีขึ้นใน 2 วัน หลังจากที่รับการรักษา

ยูทูบเบอร์สาวชื่อดัง อยากพิสูจน์ความศักดิ์สิทธิ์แม่น้ำคงคา ก่อนแช่ตัวลงในน้ำ

จากนั้น เมกุมิโกะได้อัปโหลดคลิปวิดีโอดังกล่าว พร้อมเตือนภัยให้คนอื่น ๆ ที่คิดอยากจะทดลองประสบการณ์นี้ระมัดระวัง และทางที่ดีก็ไม่ควรทำตาม โดยเธอระบุข้อความใต้คลิปวิดีโอว่า "(คำเตือน) เชื้อโรคจำนวนมากอาศัยอยู่ในแม่น้ำคงคา คนญี่ปุ่น หรือแม้แต่ชาวอินเดียเอง ก็อาจจะป่วยได้เมื่อลงไปในแม่น้ำ ฉันเตรียมใจมาแล้วและยอมรับความเสี่ยงเอง แต่ไม่ควรเลียนแบบ"

ยูทูบเบอร์สาวชื่อดัง อยากพิสูจน์ความศักดิ์สิทธิ์แม่น้ำคงคา ก่อนแช่ตัวลงในน้ำ

ชมคลิป

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ thainewsonline