"ชินวัฒน์" ตัดพ้อ ชิงดีชิงเด่นในหมู่เสื้อแดง !! เตือนระวังเหลือแต่ชื่อ

ติดตามข่าวสารข้อมูล www.tnews.co.th


 
"ชินวัฒน์ หาบุญพาด" โพสต์ FB ดราม่าก่อกำเนิดเสื้อแดง ก่อนตัดพ้อพวกพ้องตนเอาแต่แบ่งแยกของแท้-ของเทียม เตือนสุดท้ายไม่มีคนสนับสนุน    

 


   
วันนี้ ( 14 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  นายชินวัตน์ หาบุญพาด แกนนำนปช.  เล่าเท้าความเหตุการณ์ทางการเมืองตั้งแต่ปี 49   พร้อมประวัตินปช.   มีเนื้อหาระบุว่า "สวัสดีครับพี่น้องที่รักทั้งหลาย วันนี้ขอเขียนประวัติความเป็นมาของ นปช.(แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ)เพื่อเก็บไว้ในความทรงจำของพี่น้องที่ร่วมอุดมการณ์กันมา

 

 

 


พี่น้องครับเมื่อปลายปี2548 มีกลุ่มการเมืองกลุ่มหนึ่งซึ่งมีนายสนธิ ลิ้มทองกุลออกมาชุมนุมเพื่อขับไล่นายกฯทักษิณ ชินวัตร ตอนนั้นผมและพรรคพวกได้ก่อตั้ง"วิทยุชุมชนคนแท็กซี่"(มาจากการรวมตัวของคนขับรถแท็กซี่) มีความเห็นต่างกับกลุ่มของนายสนธิ(พันธมิตร)เราใช้วิทยุชุมชนแสดงความคิดเห็นอีกมุมหนึ่ง และต่อมาต้นปี49(7กพ.49)ผมและเพื่อนผู้ขับแท็กซี่ประมาณ500คันออกมาเคลื่อนไหวแจ้งความจับนายสนธิและพวก(แจ้งความสน.ดุสิต) ต่อมา7มีค.49ตั้งเวทีปราศรัยที่หมอชิต2 แล้วย้ายเวทีเข้าสวนจตุจักรตามลำดับ ในขณะนั้นยังไม่มีนปช เพราะบางคนเขายังอยู่การเมืองกัน มีเพียงคุณวิภูแถลง พัฒนภูมิไทที่ต่อสู้อยู่กับ ร.ต.ฉลาด วรฉัตร ที่หน้ารัฐสภา ต่อมาก็มีการเลือกตั้ง(2เมย.49)เวทีจตุจักรจึงปิดลง

 

 

 

 


พอเวทีจตุจักรปิดแล้วพวกผมและเพื่อนก็กลับมาสถานีวิทยุชุมชนจนกระทั่งถึงวันที่19กย.49 ทหารก็ยึดอำนาจ วิทยุชุมชนก็ปิดชั่วคราว
เอาละ! หยุดตรงนี้ไว้ก่อน เรามาว่ากันถึงประวัติ นปช. ตามที่ได้เริ่มต้นไว้ดีกว่าเดี๋ยวมันจะยาวเกินไป นปช. เดิมชื่อ นปก.(แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ)มีท่านวีระ มุสิกพงศ์ คุณจักรภพ เพ็ญแข คุณจตุพร พรหมพันธุ์ คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ คุณก่อแก้ว พิกุลทอง เป็นผู้ก่อตั้ง เปิดเวทีครั้งแรกที่ลานคนเมือง(เดือนมีค.50) ตอนนั้นมีกลุ่มต่างๆมากมายมาเข้าร่วม รวมทั้งกลุ่มของวิทยุชุมชนคนแท็กซี่ด้วย แล้วต่อมา นปก.ก็จัดประชุมที่ธรรมศาสตร์เพื่อเลือกตั้งแกนนำ การเลือกตั้งวันนั้นได้อาจารย์มานิตย์ จิตจันทร์กลับเป็นประธาน ส่วนแกนนำ(กรรมการ)มีผม และอีกหลายคนเช่นครูประทีป หมอเหวง วิภูแถลง ฯ

 

 

 


ต่อมาประมาณกลางปี50 แกนนำระดับหัวแถว9คนถูกจับติดคุกคดีบ้านสี่เสา เวทีนปก.สนามหลวงขาดประธานและแกนนำไปบางส่วน ที่จำได้เหลือผมกับครูประทีป เราจึงได้เชิญดร.เมธาพันธ์ โพธิธีรโรจน์ มาเป็นประธาน สุรชัย แซ่ด่านรองฯ คุณสมยศ พฤกษาเกษมสุข คุณสมบัติ บุญงามอนงค์ คุณนพรุธ วรวุฒิกุล คุณสรรเสริญ ศรีอุ่นเรือน(ตอนนี้อยู่ในคุกมีใครคิดถึงเขาเปล่า?หรือจะบอกว่าเขาแดงเทียม) เรารักษาเวทีสนามหลวงเพื่อรอแกนนำที่ติดคุกออกมาร่วมกันอีกครั้ง

 

 

 


พอมาถึงปลายปี50(23ธค.)มีการเลือกตั้ง พรรคพลังประชาชนชนะได้ท่านสมัคร สุนทรเวช เป็นหัวหน้าจัดตั้งรัฐบาลเวทีนปก.สนามหลวงมีการเปลี่ยนแปลง แกนนำสำคัญไปเป็นสส.ไปเป็นรัฐมนตรี ไปเป็นรองโฆษกฯไปจัดรายการความจริงวันนี้ทางข่อง11(NBT)แต่เวทีสนามหลวงยังตั้งอยู่ พวกเราที่เหลือยังคงปราศรัยกันทุกวันแม้จะมีอุปสรรคกับกทม.ในสมัยนั้น

 

 

 


หลังจากนั้นแกนนำที่เหลือ(ในภาพ)มาคิดกันว่าเราควรจะเปลี่ยนชื่อ นปก.(แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ)เสียใหม่ เพราะเผด็จการไปแล้ว(มีรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งแล้ว)แกนนำที่เหลือจึงนัดประชุมกันที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ได้ข้อสรุปให้เปลี่ยนชื่อ นปก.เป็น นปช.(แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ)คือเปลี่ยนจากขับไล่เป็นต่อต้านเพราะมีรัฐบาลแล้วเผด็จการไปแล้ว แต่ไปไม่ไกลเดี๋ยวคงจะมาอีกจึงใช้คำว่า"ต่อต้าน"แทนคำว่า"ขับไล่"และยกระดับขึ้นเป็นแห่งชาติ ต่อมาประมาณกลางปี51การเมืองเริ่มแรงขึ้นทางกลุ่มพันธมิตรฯเริ่มขยับหนักขึ้น และทางรายการความจริงวันนี้ต้องงดออกอากาศทางช่อง11 พวกเราแกนนำนปช.ผู้ก่อตั้ง(ไม่มีประธาน)เห็นควรเชิญแกนนำสำคัญ(สามเกลอ)มาร่วมอีกครั้ง จึงนัดหมายประชุมสัมมนากันที่เมืองกาญจน์และเลือกตั้งท่านวีระ มุสิกพงศ์เป็นประธาน นปช. ตั้งแต่วันนั้น และพอถึงปี53 ก็มีการสลายการชุมนุม นปช.ก็ถูกสลายไปด้วย คือแกนนำพวกหนึ่งถูกจับ อีกพวกหนึ่งหนีไปอยู่ที่อื่น ในกรุงเทพฯไม่มีเวทีนปช.แล้ว มีเพียงคุณสมบัติ บุญงามอนงค์ที่พาคณะไปผูกผ้าแดงที่ราชประสงค์ ว่าที่นี่มีคนตายป็นสัญลักษณ์ แล้วหลังจากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยกเลิกพรก.และแกนนำที่ติดคุกออกจากคุก ส่วนที่หนีไปที่อื่นก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง แล้วก็ถูกสลายอีกครั้งเมื่อ 22 พ.ค. 57 จนถึงทุกวันนี้

 

 

 


พี่น้องครับวันนี้กลุ่มพันธมิตร ฯก็คงยุติบทบาท โดยสังเกตได้จากแกนนำของกลุ่มไม่ค่อยพูดถึงกลุ่มแล้วหรือจะยังมีอยู่อย่างสงบนิ่งก็ไม่ทราบ.กปปส.ก็เปลี่ยนแปลงเป็นมูลนิธิซึ่งเป็นนิติบุคคล แต่.นปช.แม้ว่าจะเหลืออยู่ไม่กี่คนจากที่เคยอยู่ร่วมกันเต็มเวที วันนี้ยังอยู่ครบและคนที่อยู่เพียงไม่กี่คนก็ยังหวงเหมือนสมบัติส่วนตัว คนที่เคยร่วมอุดมการณ์กันมาไม่ว่าจะอยู่บนเวทีหรือผู้ฟังข้างล่างจะคิด จะต่อสู้ ตามความคิดของตัวเองไม่ได้ ยังไม่ทันรู้ข่าวว่าอะไรเป็นอะไร ใครจะไปทำอะไร ที่ไหนอย่างไร ออกมาตะโกนแบ่งแยกว่าคนนั้นคนนี้ไม่ใช่นปช.นักต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ เป้าหมายประชาธิปไตย ความเป็นธรรม ไม่ใช่เก่งเฉพาะพูดเอามันบนเวทีเท่านั้น นักคิด นักเขียน อยู่ในเมือง อยู่บ้านนอก ในประเทศนอกประเทศ หรืออยู่หลังตู้เย็น ถ้ามีอุดมการณ์ตามที่กล่าว แม้ว่าจะใส่เสื้อสีแดงหรือสีอะไร เขาก็คือนักสู้ อย่าไปจัดแบ่งเขาว่าใช่คนของเราหรือไม่ใช่คนของเรา นปช.ตั้งขึ้นจากกลุ่มคนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิไตยเท่านั้น องค์กร หรือสัญลักษณ์ ไม่ใช่ตัวกำหนด แม้จะไม่มีองค์กรอยู่แล้ว ถ้าอุดมการณ์มันฝังอยู่ในความคิดเขา อย่าไปชี้หน้าว่าเขา หรืออย่าไปแบ่งเขาว่าแท้หรือเทียม องค์กรจะมีได้ต้องมีคนสนับสนุน มีเพื่อนร่วมงาน ถ้ามัวมานั่งแบ่งพวกสุดท้ายจะเหลือแต่ตัวนะครับ(ชินวัฒน์ หาบุญพาด๑๔มค.๕๙)