"รัฐบาล" ยัน ! ประเมินผล "ข้าราชการ" หวัง เสริมเกียรติเเละศักดิ์ศรี วอน "สื่อ" เสนอข่าวสร้างสรรค์

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม www.tnews.co.th

"รัฐบาล" ยืนยัน !! ประเมินผลข้าราชการเป็นการเสริมเกียรติและศักดิ์ศรี ไม่ใช่การรังแก ย้ำ ช่วยรักษาคนดีให้อยู่ในระบบ ขจัดพวกวิ่งเต้น วอน "สื่อ" นำเสนอข่าวอย่างถูกต้องและสร้างสรรค์ เพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง

 

วันนี้( 3 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 5/2559 เรื่องมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการว่า มาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อเป็นการเสริมแรงและให้กำลังใจผู้ปฏิบัติหน้าที่ราชการ ไม่ใช่การรังแกข้าราชการ อย่างที่สื่อมวลชนบางราย พยามที่จะนำคำถามของข้าราชการบางส่วน มาเปิดประเด็น ในรายการข่าววิทยุ และอาจทำให้สังคมเข้าใจผิด ในแนวทาง ของรัฐบาล ซึ่งไม่แน่ใจว่าผู้นำเสนอมีสิ่งใดแอบแฝงหรือไม่

 

“ข้าราชการทุกคนมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบต่อบ้านเมืองและประชาชน จึงถูกคาดหวังจากสังคมว่าจะต้องเป็นผู้ที่มีวิชาความรู้ ซื่อสัตย์ เสียสละ คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม และปฏิบัติงานด้วยความอุตสาหะ ดังนั้น การประเมินผลการปฏิบัติราชการจึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คนที่มุ่งมั่นตั้งใจสามารถอยู่ได้ ไม่รู้สึกกดดัน และได้รับความเป็นธรรม เพราะใช้ฝีมือและความสามารถในการทำงาน เว้นแต่พวกที่ชอบวิ่งเต้น ไม่มีผลงานเท่านั้นที่จะรู้สึกว่าถูกรังแก”

 

พลตรี สรรเสริญ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรียังระบุด้วยว่า การออกมาตรการดังกล่าวจะทำให้สังคมเห็นว่า รัฐบาลและ คสช. กระตุ้นให้ทุกภาคส่วนปรับตัวเพื่อรองรับการปฏิรูปประเทศ โดยเริ่มที่ตัวข้าราชการก่อน ที่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้ประชาชนเกิดความไว้วางใจ ไม่ได้มุ่งหวังจะทำลายข้าราชการ แต่กลับต้องการส่งเสริมความเข้มแข็ง ปลุกจิตสำนึก เสริมสร้างเกียรติและศักดิ์ศรี ให้เกิดความชัดเจนในการสร้างผลงานเพื่อความก้าวหน้า โดยมีหลักฐานและตัวชี้วัดที่ชัดเจน ไม่ให้นักการเมืองเข้ามาแทรกแซง แต่งตั้งเฉพาะพวกพ้อง เหมือนที่ผ่าน ๆ มา

 

“ท่านนายกฯ เรียกร้องให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญานของตนเองในการนำเสนอข่าวโดยคำนึงถึงประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเป็นสำคัญ หลีกเลี่ยงการรายงานข่าวบิดเบือนข้อเท็จจริงที่อาจสร้างความแตกแยก หรือวิพากษ์วิจารณ์แบบเลื่อนลอย "
 

อย่างไรก็ตามรัฐบาลและ  คสช.จะติดตามการทำงานของสื่อมวลชน ดังกล่าวข้างต้น เช่นกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสร้างความเข้าใจที่ผิดกับสังคมเช่นนี้อีก