- 04 มี.ค. 2559
อ่านต่อ www.tnews.co.th
กลายเป็นกระแสฮือฮาไม่น้อย สำหรับการเผยโฉมหน้ากระชากวัยของ "สุรชัย สมบัติเจริญ" ในโครงการเฟซออฟ บาย ดร.เซปิง ซึ่งสร้างความฮือฮาให้กับสื่อมวลชนที่มารอติดตามความเคลื่อนไหวเป็นจำนวนมาก เนื่องจากใบหน้าของนักร้องลูกทุ่งชื่อดูสดใสและอ่อนกว่าวัย 59 ปี และวันเดียวกันนี้เอง "น็อต แม็กซิม" บรรณาธิการบริหารแฟชั่นนิตยสารแม็กซิม ก็ถูกพาดพิงเรื่องทำศัลยกรรมด้วย เพราะเขาคือคนที่ทำหน้าคนแรกๆในโครงการของ ดร.เซปิง
โดยน็อต เปิดใจที่ สตูดิโอช่อง 2 ถึงกรณีที่ ถูกพาดพิงเรื่องทำศัลยกรรมว่า
"วันนี้อยากจะบอกก่อนว่าเพิ่งจะทราบเรื่องเมื่อวานนี้ ที่มีรูปเราออกไปจาก ดร.เซปิง ว่าเราไปทำเฟซล็อค แล้วคนที่ทำไม่ใช่คุณหมอแต่เป็นพยาบาล ถามว่าตนจะฟ้องร้องไหมขอตรวจสอบก่อนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไรกันแน่ สิ่งที่ ดร.เซปิงพูดถูกต้องหรือเปล่า อยากทราบข้อเท็จจริงมากกว่า ถามว่าตอนที่เราทำทราบไหมว่าไม่ใช่หมอชลธิศ เป็นผู้ลงมือทำ คือ ตอนแรกเข้าไปในห้องก็ยังเจอหมอ ทักทายกันปกติ หลังจากนั้นก็หลับไปเพราะต้องดมยาสลบ พอตื่นขึ้นมาก็เข็นออกมาแล้ว ไม่เห็นคุณหมอแล้ว ถ้าถามว่าแน่ใจไหม ไม่แน่ใจ เพราะถ้าเป็นเมื่อสมัยก่อนตอนที่ทำจมูกคือยังตื่นอยู่ ก็ยังมองเห็นหน้าคุณหมอ ยังสามารถรับรู้ว่าเขาทำอะไร แต่พอครั้งนี้เราหลับไป ไม่เห็นเลย"
เรื่องนี้เพิ่งได้ทราบเมื่อวาน ก็ได้สอบถามไปยัง ดร.เซปิง หรือเปล่า?
"อยากจะเล่าว่าหลังจากทำมาเสร็จแล้ว รู้สึกได้เลยว่าหน้าเราห้อย เราก็มีไปต่อว่า ว่าทำไมมันไม่ตึง ทำไมมันไม่กระชับ ไม่ดูเด็ก ไม่เป๊ะ ดร.เซปิงบอกว่า จริงๆทราบมาตั้งนานแล้ว แต่ไม่ได้บอกเรา ก็รู้สึกว่าทำไมไม่บอก มีต่อว่าไปนิดหน่อย รู้สึกเสียใจเหมือนกัน แต่ถือว่าเราโชคดีมากที่เราไม่ได้เป็นอะไร ในกรณีสมมติว่าถ้าคนอื่นดวงไม่ดีขึ้นมา เขามีสิทธิ์ตายได้นะ เพราะการดมยาวิสัญญีแพทย์สำคัญที่สุด ต้องเป็นแพทย์เฉพาะทาง"
หลังจากทราบเรื่องได้มีการโทรไปสอบถามที่คลินิกหรือยัง ?
"ยังไม่ได้โทรและทางคลินิกก็ยังไม่ได้โทรมาเคลียร์อะไร วันนี้เป็นวันที่ 2 ที่ทราบเรื่อง"
ความรู้สึกตอนนี้ที่รู้ว่าพยาบาลทำรู้สึกยังไง?
"ก็เสียใจทุกคนที่เขาทำศัลยกรรมอะไรก็แล้วแต่ เขาคัดเลือกและเขาต้องคาดหวังกับคุณหมอคนนั้นที่ทำ ว่าต้องทำออกมาดี แล้วเราเองเป็นเจ้าแม่ศัลยกรรมอยู่แล้ว ทำทั้งตัว เราก็อยากให้มันออกมาวิเศษที่สุดแต่พอบอกว่าเป็นพยาบาลทำให้ก็รู้สึกเสียใจมันไม่ดีมันผิดหวังมากกว่า"
ตอนทำออกมาทีแรกชอบใจไหม ?
"ก็เป๊ะมาก แต่พอถามกับเพื่อนๆ พวกเขาก็บอกว่าเป็นเพราะบวมหรือเปล่า เลยทำให้หน้าเราตึง ประมาณอาทิตย์แรกนอนดูกระจกทุกวันเลยมันดีมาก แต่พอหลังจากนั้น หนึ่งเดือนมันก็หย่อนคล้อยลงมา ซึ่งเขาบอกว่าหลังจากที่ทำเสร็จแล้วมันอีกยาวไกลเลยนะมันจะล็อคหน้าอยู่ตลอดเราถึงทำเราดูแล้วมันคุ้มนะหรืออยู่ซักอีก 5 ปีก็ได้ ถามว่า ณ วันนี้จะดำเนินการอย่างไร ก็ต้องดูต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ น็อตคงทำให้ตัวเราเองเป็นอุทาหรณ์ สำหรับคนที่ชอบทำศัลยกรรมทุกคนก็คาดหวังว่าเราจะคัดแต่สิ่งดีๆ แต่วันนี้เรากลับเจอเรื่องผิดหวังก็รู้สึกเสียใจ กับตรงนี้ก็เปลี่ยนจากวิกฤตให้เป็นโอกาสคือให้ตัวเราเป็นอุทาหรณ์ ว่าเวลาทำศัลยกรรมทั้งทีต้องศึกษาให้ดีและต้องดูด้วยว่าหมอทำจริงหรือเปล่าหรือถ้าเพื่อนหรือผู้ปกครองสามารถเข้าไปในห้องผ่าตัดก็ขออนุญาตเข้าไปดู มาถึงตอนนี้ก็อยากทำใหม่ อยากจะบอกว่าโครงการเฟซอ๊อฟของ ดร.เซปิง น็อตเป็นรุ่นแรกเลย แต่ตอนนั้นเขาทำแบบเงียบๆ ตอนนั้นทุบหน้าใหม่หมด ดึงหน้าผากกรีดตาขึ้น เปลี่ยนจมูก ดูดไขมัน เย็บปาก ใส่กราม 5 รายการหลักนี้ ทำทีเดียวเลย เจ็บมาก"
อยากให้หมอคนที่ทำออกมารับผิดชอบอะไรบ้าง ?
"ถ้าเป็นจริงอย่างที่ ดร.เซปิงพูด คงต้องออกมารับผิดชอบแหละ แต่จะให้ไปทำกับเขาอีกคงไม่ทำ และไม่ได้เรียกร้องอะไร เราอยู่วงการบันเทิงไม่ได้อยู่วงการศาล จะไปเดินขึ้นลงเล่นๆ คงไม่เอา ส่วนตัวถือว่าพลาดไปแล้วไม่เป็นไร เราไม่ตายก็เดินหน้าหาสิ่งดีๆต่อไป แค่เอาครั้งนี้มาเป็นอุทาหรณ์ เป็นวิทยาทานให้กับคนทุกคนไว้ดูเป็นตัวอย่าง"
ก่อนหน้านี้ ดร.เซปิง ได้ระบุว่า มีคลิปที่กำลังผ่าตัด ถ้ามีคลิปตอนทำอยากจะเห็นหรือไม่ ?
"ยังไม่เคยเห็น แต่ถ้ามีก็อยากเห็น"
วันจันทร์ที่จะถึงนี้ ดร.เซปิง จะไปแจ้งความ จะไปด้วยไหม ?
"คงไม่ไป ให้เป็นกระบวนการของ ดร.เซปิง ทำคนเดียวไปเลย พูดจากใจเลย เราเป็นคนไม่ชอบ เรื่องการฟ้องร้อง เรื่องที่ต้องไปต่อว่ากัน ไม่ใช่ตัวเรา และถ้าต้องไปเป็นพยาน หรือเจ้าหน้าที่เรียกเข้าไปให้ปากคำก็คงจะต้องไป แต่จริงไม่อยากไป ไม่อยากไปยุ่ง จริงๆก็ไม่อยากให้ทะเลาะกันเลย เราคนไทยด้วยกัน อยู่ประเทศเดียวกัน ถ้าเรื่องนี้ปรับความเข้าใจกันได้ก็อยากจะขอให้ปรับความเข้าใจซึ่งกันและกันดีกว่าและเริ่มต้นใหม่ดีกว่า แต่ถ้าในกรณีที่เราจะต้องไปเพื่อปกป้องสิทธิ์ก็ควรจะไปเพื่อให้เป็นอุทาหรณ์เป็นวิทยาทานต่อไป"
ขอบคุณ IG notty_krittin ,ช่อง2 , dodeden.com