ไม่เอาพวกหัวชนฝา!!! "สมชัย" ยันดีเบตเปิดกว้างทุกฝ่าย-ติงอย่างมีเหตุผล-ไม่ใช่ค้านหัวชนฝา

ติดตามข่าวสารที่ www.Tnews.co.th

 

ไม่เอาพวกหัวชนฝา!!! "สมชัย" ยันดีเบตเปิดกว้างทุกฝ่าย-ติติงอย่างมีเหตุผล-ไม่ใช่ค้านแบบหัวชนฝา ไม่มีเซ็นเซอร์ แต่ขอดูตัววิทยากรก่อน รับรองประชาชนได้ประโยชน์

 

วานนี้ (19 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชัย ศรีสุทธิยากร เปิดเผยถึงการดีเบตร่างรัฐธรรมนูญที่จะเกิดขึ้นว่า ตนได้ประสานส่วนตัวไปยังสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เพื่อให้จัดรายการ 10 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมงตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค. - 5 ส.ค. เวลา 13.00-14.00 น. ซึ่งจะเชิญวิทยากรทั้งฝ่ายที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยมาร่วมรายการฝ่ายละ 2 คน โดย กกต.จะไม่เซ็นเซอร์เนื้อหา แต่ขอร่วมพิจารณาตัวบุคคลที่จะเป็นวิทยากรในรายการ ส่วนประเด็น ตนได้ทำโมเดลไปให้ 10 ครั้ง เช่น 30 บาทรักษาทุกโรคยังอยู่หรือไม่ คนยังใช้สิทธิรักษาพยาบาลในราคาถูกหรือไม่ เรื่องการศึกษาฟรี 12 ปี เบี้ยผู้สูงอายุ ถ้ารัฐธรรมนูญผ่านจะหายไปหรือไม่ หรือเรื่องการทำสนธิสัญญากับต่างประเทศว่าถ้าจะไปยกดินแดนให้กับใครรัฐบาลทำได้เลยหรือไม่ ผ่านสภาแล้วถ้าไม่พิจารณาภายใน 50 วันจะมีผลบังคับใช้เลยหรือเปล่า

 

"เรื่องที่จะนำเสนอจะเป็นรูปธรรมจับต้องได้ เป็นปัญหาปากท้องที่ประชาชนยังเข้าใจไม่ชัดเจน จึงต้องเอาคนร่างและคนที่มีความห่วงใยมาพูด แต่ไม่ใช่เอาคนที่ค้านหัวชนฝามา ต้องเป็นคนที่ค้านอย่างมีเหตุผล ด้วยความห่วงใยว่าเรื่องไหนจะกระทบสิทธิประชาชน ผมไม่เซ็นเซอร์ แต่ขอดูตัววิทยากรเพื่อมีความเห็น และพร้อมช่วยประสานส่วนตัวกับวิทยากรให้ด้วย โดยขอให้จัดรายการที่ให้โอกาสอย่างเท่าเทียม ไม่เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง และถ้าสื่อมวลชนรายใดสนใจจะจัดรายการขอให้แจ้งมาที่ผมได้เช่นกัน" นายสมชัย กล่าว

 


 

 

 

 

ขณะที่ด้านนายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า กรธ.ยังไม่ได้รับหนังสือเชิญให้เข้าร่วม โดยวันที่ 22 ก.ค.นี้ จะมีการประชุมกรธ. หลังจากช่วงวันหยุดยาว หากได้รับหนังสือเชิญ จะหยิบยกเข้าหารือในที่ประชุมวันดังกล่าว ทั้งนี้ มองว่าหากเวทีถกแถลงร่างรัฐธรรรมนูญ เป็นลักษณะแลกเปลี่ยนความเห็นกันแบบนี้รับได้ ไม่มีปัญหา อีกทั้งพิธีกรต้องเป็นกลาง แต่ถ้าต้องขึ้นโพเดียมแลกหมัดกันอย่างเอาเป็นเอาตายคงไม่เหมาะ ซึ่งต้องรอว่าจะเป็นรูปแบบใด ส่วนที่ตนเคยบอกรับคำท้าดีเบตกับทุกฝ่ายนั้น ยังยืนยันรับคำท้าเหมือนเดิม และถ้าได้รับเชิญส่วนตัวจริงก็ต้องหารือในกรธ.ก่อน เพราะเป็นเรื่องส่วนรวม ส่วนที่บางคนบอกว่ากกต.ช้าไป ควรเปิดให้ถกเถียงตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้วนั้น ตนคิดว่าการจัดเวทีช่วงโค้งสุดท้ายมีความสมดุลแล้ว ไม่ถือว่าช้าไปหรือเสียของ