สุดยอด...โกอินเตอร์!!! "ผอ.อนามัยโลก-WHO" ซูฮก "บิ๊กตู่" พาออกกำลังกาย-เห็นความสำคัญสุขภาพ-แบบอย่างให้ปท.อื่น

ติดตามข่าวสารที่ www.Tnew.co.th

 


สุดยอด...โกอินเตอร์!!! "ไก่อู" เผย "ผอ.อนามัยโลก" หรือ WHO ซูฮก-ชม "บิ๊กตู่" ที่ผลักดันการออกกำลังกาย โดยระบุการกระทำของนายกฯ จะเป็นตัวอย่างแก่ประเทศอื่น


 

วันนี้ (26 พ.ย.) พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ดร.มาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) แสดงความยินดีกับรัฐบาลไทยที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศนโยบายสร้างเสริมสุขภาพเจ้าหน้าที่รัฐด้วยการชักชวนให้ออกมาทำกิจกรรมทางกายเป็นประจำระหว่างสัปดาห์ของการทำงาน และกล่าวชื่นชมว่าการริเริ่มของนายกรัฐมนตรีจะเป็นตัวอย่างให้แก่ประเทศอื่น โดยถือว่านายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำการส่งเสริมกิจกรรมทางกายในระดับโลก


“เช่นเดียวกับประธานสมาพันธ์นานาชาติด้านการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย และผู้อำนวยการ WHO ภูมิภาคเอเชียตะวันออกและใต้ ที่ขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้ความสำคัญกับกิจกรรมทางกาย โดยดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมทันที ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญของปฏิญญากรุงเทพว่าด้วยกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาวะโลกและการพัฒนาที่ยั่งยืน”

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังยกร่างแผนยุทธศาสตร์กิจกรรมทางกายชาติ ตั้งเป้าให้คนไทยมีกิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้นอย่างเพียงพอจากร้อยละ 68 ในปัจจุบัน เป็นร้อยละ 75 ในอีก 5 ปีข้างหน้าเรียกว่า ยุทธศาสตร์ 5 ยกกำลัง 3 หรือ 5x5x5 คือ 1.ดำเนินการใน 5 กลุ่มวัย ทั้งทารกในครรภ์ เด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน และผู้สูงอายุ 2. ส่งเสริมให้ 5 สถานที่จัดให้มีกิจกรรมทางกาย คือ สถานพยาบาล สถานประกอบการ สถานศึกษา สวนสาธารณะ และสถานีขนส่ง 3.สนับสนุนการมีกิจกรรมทางกาย คือ มีระบบสนับสนุน มีการวิจัย มีการติดตามประเมินผล มีการพัฒนาศักยภาพ และมีการสื่อสารรณรงค์


“นายกฯ กล่าวว่า ประเทศไทยมีศักยภาพและความก้าวหน้าทางการแพทย์และการสร้างเสริมสุขภาพที่นานาชาติยอมรับและชื่นชม รัฐบาลจึงพร้อมต่อยอดพัฒนากฎระเบียบและโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่เอื้ออำนวยให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี โดยเฉพาะการมีกิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้นในทุกช่วงวัย เพื่อลดความเสี่ยงจากการเสียชีวิตจากโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง ความดัน เบาหวาน ซึ่งมีสาเหตุหนึ่งมาจากพฤติกรรมเนือยนิ่งหรือขาดกิจกรรมทางกายที่เหมาะสม”


ทั้งนี้ รัฐบาลขอเชิญชวนเจ้าหน้าที่รัฐทั่วประเทศร่วมออกกำลังกายทุกวันพุธ เวลา 15.30 – 16.30 น. และรณรงค์ให้ภาคเอกชนและพี่น้องประชาชน หันมาให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพในสถานที่และระยะเวลาที่สะดวก โดยสามารถเลือกประเภทของการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับช่วงวัย เช่น การยืน นั่ง เดินระยะสั้น เดินเร็ว ขี่จักรยาน วิ่ง แอโรบิค หรือเล่นกีฬาทุกชนิด