ทำไม...ประชาชนต้องมาเสพขยะ...!!! "พล.อ.ประยุทธ์" หมายถึงใคร ที่ต้องร่วมมือกันจัดการ เพราะเป็นพวกขยะสังคม (ข้อมูล)

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม www.tnews.co.th

เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจการลงพื้นที่จ.เชียงรายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ว่า นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม และคณะ เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์จากท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง มาถึงโรงเรียนอนุบาลป่าแดด ต.โรงช้าง อ.ป่าแดด ในเวลา 09.15 น. ก่อนที่นายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยรถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด เลขทะเบียน กง 5959 เชียงราย มายังโรงเรียนบ้านโป่ง อ.ป่าแดด จ.เชียงราย โดยมีข้าราชการ นักเรียนและประชาชนให้การต้อนรับ เพื่อเป็นประธานการเปิดศูนย์เรียนรู้หมู่บ้านปลอดขยะ Zero Waste โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมคณะกรรมการให้การต้อนรับ ก่อนที่จะเยี่ยมชมนิทรรศการและสินค้าโอท็อปของต.โรงช่าง จ.เชียงราย

 

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้พบปะพูดคุยกับประชาชน โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ชื่นใจที่ได้รับรอยยิ้มจากทุกคน และได้รับเสียงปรบมือที่ได้หด้มายากการบังคับและการซักซ้อม ที่ผ่านมาได้ส่งใจ และสั่งนโยบายลงมาในทุกจังหวัด ซึ่งตนใฝ่ฝันมาตลอดว่าอยากมาพักผ่อนหลังชีวิตเกษียณที่นี่ แต่ 2 ปีกว่าแล้วยังไม่ได้มา วันนี้จึงมาสร้างความเข้าใจว่าเราจะเดินหน้าประเทศกันอย่างไร โดยตนมาในฐานะชาวบ้านไม่ใช่เจ้านาย ทั้งนี้จากการรายงานของผู้ว่าฯ ก็ได้มองเห็นอนาคตตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี วันนี้ก้าวสู่ระยะที่ 1 ของช่วง 5 ปี เพื่อให้อีก 20 ปี ประเทศชาติไปได้ และทุกรัฐบาลที่จะเข้ามาก็ต้องอยู่ในกรอบที่วางไว้ สิ่งสำคัญคือการลดความเหลื่อมล้ำให้ทุกคนยืนหยัดด้วย และนำไปสู่การเป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ในการใช้เทคโนโลยีเข้ามาประกอบ โดยเป็นช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงได้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่รอฝนฟ้าและรวมกลุ่มให้ได้ และร่วมมือเดินไปด้วยประชารัฐที่เอาประชาชน ประชาสังคมขึ้นก่อน ไม่ใช่รัฐประชา และมีรัฐบาลเป็นคนสนับสนุน เหมือนพระราชดำรังของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ซึ่งรัฐบาลไม่ได้บังคับ แต่อยากทุกคนสมัครใจไปสู่สิ่งที่ดีกว่าให้ได้ แต่มีคนพยายามบิดเบือน

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ตนพยายามขับเคลื่อนทุกอย่างไม่ใช่ดีแต่พูด แต่ทำอย่างเต็มที่ ส่วนการเดินหน้าประเทศเป็นตามขั้นตอนเดิม ขออย่าเชื่อคำบิดบือน แต่ขึ้นกับประชาชนว่าต้องการให้เดินหน้าประเทศอย่างไร อำนาจอยู่กับประชาชนไม่ได้อยู่ที่ตน และต้องทำให้คนที่เข้ามาทำต่อให้ได้ ทั้งนี้รัฐบาล คสช. เข้ามาบริหารประเทศ 2 ปี หลายคนบอกยังไม่เห็นประโยชน์ เพราะยังไม่เกิดประโยชน์กับตัวเอง แต่เนื่องจากโครงสร้างยังไม่เกิด แต่ขณะนี้รัฐบาลกำลังทำให้เกิดขึ้นแล้ว สิ่งสำคัญคือความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยปลอดภัยของบ้านเมือง โดยต้องสร้างความมั่นคงให้มีเสถียรภาพ ซึ่งตั้งแต่รัฐบาลเข้ามาการทะเลาะเบาะแวงลดลงได้ ยกเว้นเรื่องส่วนตัว ซึ่งจะกลับไปสู้ความขัดแย้งแบบเก่าอีกไม่ได้อีกแล้ว เพราะทุกคนอยู่ใต้ร่มพระบารมีของสถาบันพระมหากษัตริย์  ซึ่งพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เสด็จสู่สวรรคาลัย ทำให้ทุกคนเสียใจ แต่ต้องนำสิ่งที่พระองค์ทำกว่า 70 ปีมาทำให้เกิดประโยชน์ ทั้งเรื่องความมั่นคง การรักษาสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งรัฐบาลก็พยายามนำมาสานต่อ แม้บางเรื่องจะติดขัดเรื่องเวลาและงบประมาณที่มีอยู่ไม่สามารถทำทั้งหมดได้ จึงต้องมีโรดแมป เป็นแผนที่นำทาง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ขออย่าสนใจแต่โรดแมปการเมือง ตนไม่มีการเมือง ไม่ต้องการให้ใครมารักตน แต่ต้องการให้รักประเทศ และแผ่นดิน เพราะแผ่นดินให้ที่ยืนและให้อิสระเสรี แม้มีปัญหาอยู่ แต่อยู่ที่การจัดการ จึงอย่าให้ใครบิดเบือนว่าไม่ได้อะไรจากแผ่นดิน และที่ตนบอกว่าขอเวลาอีกไม่นาน แต่ 2 ปีแล้วยังทำไม่ทันเพราะปัญหามีมาก แต่ต้องทำให้เสร็จและอยากให้ใช้โอกาสที่โศกเศร้าเสียใจรวมพลังให้ได้ทุกเรื่อง และวันนี้ยังมีขยะสังคมอยู่มาก ประชาชนต้องมาเสพขยะเหล่านั้น ตนไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอีก ตนต้องปลุกแรงใจให้ตนเอง ไม่เช่นนั้นคงเลิกไปนานแล้ว หากตนทำดี แต่กลับมาติติงกัน เป็นธรรมดาที่ไม่ชอบ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นมีมาตั้งแต่อดีต แต่ตนไม่โทษใคร แต่โทษที่ไม่ได้สร้างการเรียนรู้และอย่ารังเกียจข้าราชการเพราะการเมืองเป็นคนนำข้าราชการ ในช่วงนี้ขอความร่วมมือ และต้องอยู่กับทหารและข้าราชการไปสักพักด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจเพื่อเดินหน้าประเทศให้พ้นกับดักที่มีอยู่ขณะนี้

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลทุ่มเทศักยภาพทุกอย่าง สิ่งที่ให้ไปเช่น มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ซึ่งจะผิดหรือถูกอยู่ที่กฎหมาย ประชาชนได้ประโยชน์ และจะทุจริตไม่ได้ เพราะโอนเงินผ่านบัญชีโดยตรงจะต้องยื่นคำขอด้วยตัวเอง และขอให้ประชาชนบอกข้อเท็จจริงจะได้จัดสรรงบประมาณได้ตรงกลุ่ม อย่างไรก็ตามในการลงพื้นที่วันนี้ ยินดีที่จะมีการเปิดศูนย์ปลอดขยะที่ได้รับรางวัลพระราชทานจากในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อปี 58 ซึ่งถือเป็นต้นแบบไปสู้การขจัดมูลฝอยของประเทศ และสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ถือเป็นวาระแห่งชาติของประเทศ แต่ต้องคิดยอดต่อไป เพื่อไปสู่การปฏิบัติ และให้ความสำคัญเรื่องการปฏิรูปสิ่งแวดล้อม ซึ่งเชื่อมโยงกันทั้งหมด ขณะที่การสร้างโรงงานขยะยังมีข้อขัดแย้ง แต่ต้องดูว่าเกิดประโยชน์กับคนส่วนใหญ่หรือไม่ แต่โรงงานใดที่ทำไม่ถูกระเบียบก็ต้องปรับปรุง แต่หากไม่ดีขึ้นก็จะสั่งปิด และคนที่มีหน้าที่ตรวจสอบขออย่าปล่อยปะละเลยเพราะหากมีระเบียบและกฎหมายแต่ใช้ไม่ได้จะมีไว้ทำไม จะเอาแต่สิทธิเสรีภาพร้อยเปอร์เซ็นต์จะเดินไปได้หรือไม่ หากไปได้ตนคงไม่ต้องมายืนพูดอยู่ตรงนี้ แต่ในอนาคตก็ต้องเดินไปตามนั้น