มาแรงแซงโค้งทั่วไทย!!! "องอาจ" ขึ้นแท่น "นักปลุกระดมเบอร์1-แกนนำแดงยังซูฮก" ไม่เลิกอาจโดน ม.116 ฐานพูดชั่ว

ติดตามข่าวสารที่ www.Tnew.co.th

 

อารมณ์ เคนหล้า สำนักข่าว Tnews
 

 

วันนี้ (13 ธ.ค.) นับว่ามาแรงแซงทางโค้งนักปลุกระดมทุกคนในเมืองไทยในทันที เมื่อ "องอาจ ธรรมนิทรา" โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ได้แถลงท่าทีของเครือข่ายคณะศิษยานุศิษย์ฯ ต่อทั่วโลก ที่เป็นข้อความที่แสนจะมดเท็จ และยิ่งกว่านั้นคือ พยายามดึงให้ความผิดของ "พระผู้เต็มไปด้วยความโลภ และทำผิดกฎหมาย" รูปหนึ่งกลายมาเป็นความขัดแย้งระหว่างสถาบันชาติและสถาบันพระพุทธศาสนาตามที่เขากล่าวอ้าง โดยนายองอาจระบุว่า

 

ขณะนี้ปรากฏข่าวในสื่อมวลชนว่าทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และตำรวจ ได้สนธิกำลังกับทหารและฝ่ายปกครองกว่า 3,000 นาย พร้อมด้วยเฮลิคอปเตอร์ สุนัขตำรวจ รถคลื่นเสียงแรงสูงทำลายแก้วหู รถฉีดน้ำความดันสูง หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด เตรียมบุกเข้าวัดพระธรรมกายต่อเนื่องเป็นเวลา 4 วัน โดยได้ประสานสั่งการให้โรงพยาบาลใกล้เคียงทุกแห่งเตรียมแพทย์-พยาบาลไว้ให้พร้อม ส่อให้เห็นว่าจะใช้ความรุนแรงเข้าปราบปรามจับกุมคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายที่มาสวดมนต์นั่งสมาธิอยู่ในวัดจำนวนหลายหมื่นคนด้วยความเป็นห่วงพระธัมมชโย ซึ่งจะทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก จะกลายเป็นข่าวอื้อฉาวสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ประเทศในสายตาชาวโลกอย่างยิ่ง และจะเป็นบาดแผลความขัดแย้งลึกซึ้งระหว่างสถาบันชาติและสถาบันพระพุทธศาสนาอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทย

 

ว่าไปแล้วเนื้อความของนายองอาจ ทำให้ "10 เหวง 100นกแสก 1000 ณัฐวุฒิ 10000 ตุ๊ดตู่" ยังต้องอายม้วนไป เพราะถือว่าเป็นการ "เล่นใหญ่เกินตัว" ที่โฆษกฯ ชั่วโมงบินยังไม่มากอย่างนายองอาจ...กล้าออกมาจับแพะชนแกละ "ปั้นน้ำเป็นตัวหลอกลวงคนทั้งสังคม" โดยไม่แยแสว่า...จะมีคนรู้เช่นเห็นชาติ...และจับได้ไล่ทันออกมา "ถลกหนังหัวในความมดเท็จ" นั้นแน่

 

ความปลิ้นปล้อนขององอาจ ทำให้ พ.ต.ต.วรนันท์ ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ต้องออกมาตอบโต้ว่า การดำเนินการของดีเอสไอและตำรวจเป็นไปตามกฎหมาย ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง หากมีการดำเนินการอันมิชอบด้วยกฎหมาย เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี


นอกจากนี้ ยังบอกด้วยว่า ขณะนี้ดีเอสไอกำลังดำเนินการตรวจสอบว่า พฤติการณ์ของนายองอาจเข้าข่ายความผิดฐานยุยงปลุกปั่นตามมาตรา 116 หรือไม่ ถ้าพบมีพฤติการณ์ก็จะดำเนินการทางกฎหมาย ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง


พฤติการณ์มืดบอดแบบถาวร และพูดโดยไร้ข้อเท็จจริงของ "องอาจ" ดูจะนำภัยมาสู่ตัวผู้พูดเสียแล้ว หาก DSI เอาจริง สอดคล้องกับสิ่งที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวไว้ไม่มีผิดว่า

 

"สังคมควรต้องจับตามองข้ออ้างของนายองอาจ โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ในประเด็นที่กล่าวอ้างถึงคณะศิษย์ที่เข้ามายังวัดพระธรรมกายเพื่อปฏิบัติธรรม หากเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติการบุกค้นจับกุมพระธัมมชโยในชั่วโมงแรก หากศิษย์ยังคงปฏิบัติธรรมอย่างสงบไม่เข้าไปขัดขวางการดำเนินการของเจ้าหน้าที่จะเป็นสิ่งที่เหมาะสม แต่ถ้าศิษย์เปลี่ยนจากการปฏิบัติธรรมมาเป็นลุกเข้าไปขัดขวางเจ้าหน้าที่ สถานะจะเปลี่ยนแปลงกลายเป็นม็อบในการชุมนุม ซึ่งจะทำให้ผิดกฎหมายในทันที เชื่อว่าสังคมจะสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่เดินหน้าบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ เพื่อให้การจับกุมตัวพระธัมมชโยสำเร็จลุล่วง แม้ว่าจะต้องฝ่าศิษย์เข้าไปในวัดพระธรรมกาย"


นาทีนี้...ไม่มีใครรู้ว่า ทางการไทยจะเข้าเผด็จศึก และจับ "ธัมมชโย" ได้วันไหน...แต่ที่แน่ๆ ระหว่างกลางศึก...เราพบ "ตัวละครใหม่" นั่นคือ "องอาจ ธรรมนิทรา" โฆษกคณะศิษยานุศิษย์ฯ ที่เล่นบท " ทำทุกอย่าง...เพื่อหลวงพ่อ" โดยยอมลงทุนโกหกคนทั้งโลก...ชนิดแม้แต่ "แกนนำแดงผู้เอกอุ" เรื่องนี้...ยังอาย