- 06 ก.พ. 2560
ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th
กลายเป็นประเด็นดราม่าที่มีนัยยะทางการเมืองในระดับรุนแรง เพราะเป็นการแสดงข้อเขียนผ่านเวทีสาธารณะ โดยไม่มีการแยกแยะความถูกต้องชอบธรรม แต่เป็นการใช้อารมณ์นำความคิดตัวเองไปทำลายคุณค่าดี ๆ ของวันสำคัญทางวันประวัติศาสตร์อย่าง “วันทหารผ่านศึก 3 กุมภาพันธ์ ” จากนายประวิตร โรจนพฤกษ์ สื่อมวลชนสายแดง ที่หลายคนรู้จักดีกับพฤติการณ์ที่ผ่าน ๆ มา
โดยบทเริ่มต้นครั้งล่าสุดที่ทำให้เกิดวิวาทะ ระหว่างนายประวิตรกับหลาย ๆ กระแสเสียงในวงการสื่อมวลชน และคนไทยอีกเป็นจำนวนมากในโลกโซเชียล ก็คือการที่นายประวิตรทวิตข้อความในเชิงเสียดสี “วันทหารผ่านศึก” ตามรายละเอียดที่ปรากฏดังนี้
จากนั้นไม่นานเมื่อทวิตข้อความดังกล่าว ถูกแพร่กระจายออกไป ทำให้มีผู้รีทวิตแล้วแสดงความไม่เห็นด้วยเป็นจำนวนมาก กับมุมมองที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสุดคับแคบของนายประวิตร ในฐานะสื่อมวลชนสายแดงเพียงเพื่อต้องการเขียนข้อความกระทบกระเทียบคสช. เหมือนหลายๆครั้งที่ผ่านมา ทั้งที่คนไทยทุกคนรู้ดีว่า “ทหารผ่านศึก” มีความสำคัญอย่างไรต่อการดำรงสถานะความเป็นประเทศเอกราชมาถึงจนทุกวันนี้ และวันที่ 3 กุมภาพันธ์ของทุกปีมีความสำคัญอย่างไรกับชีวิตการได้เป็นทหารผ่านศึกและครอบครัวผู้สูญเสียบุคคลที่รักในสนามรบ
เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการรีทวิตข้อความของนายประวิตร แล้วแสดงความเห็นตอบโต้ด้วยถ้อยภาษารุนแรง กระทั่งบานปลายกลายจุดปะทะทางวิวาทะที่ดูเหมือนจะหาจุดจบไม่ได้ เพราะนายประวิตรเองก็ใช้วิธีการเขียนตอบโต้กับบุคคลที่เห็นต่างด้วยภาษาที่รุนแรงเช่นกัน
อย่างไรก็ตามจนล่าสุดการตอบโต้ไปมาระหว่างบุคคลที่เห็นว่านายประวิตรใช้วิธีการโจมตีคสช. โดยการนำดอกป็อปปี้ สัญลักษณ์สำคัญแทนองค์กรทหารผ่านศึก และรวมถึงชีวิต ความรู้สึกของทหารผ่านศึกมาเป็นเครื่องมือ เป็นเรื่องไม่ถูกต้องเหมาะสมกับความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของเหล่าทหารกล้า ยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่องและดูเหมือนจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ
ทั้งนี้ตามข้อมูลทางประวัติศาสตร์ระบุว่า “ หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือหลังสงครามมหาเอเซียบูรพาสิ้นสุดลง มีทหารไทยจำนวนมากที่ถูกปลดปล่อยจากการเป็นทหาร จึงได้มีเสียงเรียกร้องขอให้ทางการพิจารณาให้ความช่วยเหลือ ดังนั้นในปี พ.ศ.2490 กระทรวงกลาโหมอันเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบในด้านนี้โดยตรง จึงได้จัดตั้งหน่วยงานขึ้นเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ทหารที่ กลับจากปฏิบัติการรบ และช่วยเหลือครอบครัวทหารที่เสียชีวิตในการรบแต่ก็ยังเป็นหน่วยงานที่ไม่เป็นทางการ
ต่อมากระทรวงกลาโหมได้เสนอพระราชบัญญัติจัดตั้งองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกขึ้น โดยได้ผ่านการเห็นชอบจากรัฐบาล และได้มีการประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อไวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2491 ถือให้วันที่ 3 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันทหารผ่านศึก โดยมี พลโท ชมะบูรณ์ ไพรีระย่อเดช เป็นผู้อำนวยการคนแรก ในปี พ.ศ.2510 และองค์การทหารผ่านศึกได้ปรับเปลี่ยนฐานะมาเป็นองค์การเพื่อการกุศลของรัฐ และเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย โดยได้รับเงินอุดหนุนจากกระทรวงกลาโหมและเงินที่รัฐบาลกำหนดให้เป็นครั้งคราว ภารกิจหลักขององค์การทหารผ่านศึก ได้แก่ การให้การสงเคราะห์แก่ทหารที่ผ่านการปฎิบัติการรบ และครอบครัวของทหารที่ปฏิบัติการรบ
เรียบเรียง : นิตติยา สำนักข่าวทีนิวส์