กรรมสนองโกง!! คุก 12 เดือนไม่รอลงอาญา "เกษม"คนสนิท"เจ๊แดง" -สั่งยึดทรัพย์กว่า168ล้านตกเป็นของแผ่นดิน 

ติดตามข่าวเพิ่มได้ที่ www.tnews.co.th

วันนี้ ( 16 มี.ค.)  ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อเวลา 14.00 น.องค์คณะผู้พิพากษา 9 คน ได้พิพากษาคดีริบทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน หมายเลขดำ อม.97/2559 ที่ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด  ยื่นคำร้องขอศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นผิดปกติของ นายเกษม นิมมลรัตน์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ คนสนิท นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ผู้ถูกกล่าวหา ระหว่างดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายก อบจ.เชียงใหม่ และตำแหน่ง ส.ส.รวมมูลค่า 186,620,637 บาท ให้ตกเป็นของแผ่นดิน ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 38 วรรคสอง โดยคดีนี้ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด เมื่อวันที่ 13 พ.ค.59 ว่า นายเกษม มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ 8 รายการ ได้แก่หุ้น 2 บริษัท , เงินจากการขายหุ้น 3 บริษัท , เงินลงทุน , รถยนต์โตโยต้า และที่ดิน
          

          

 

ทั้งนี้ องค์คณะผู้พิพากษาได้พิเคราะห์ พยานในชั้นไต่สวนของ ป.ป.ช. มีมติเป็นเอกฉันท์ 9 เสียง ให้ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติโดยไม่สามารถชี้แจงหรือมีหลักฐานมาแสดงที่มา ที่ไป ของเงินนำมาซื่อทรัพย์สินว่าเป็นเงินที่ได้มาโดยสุจริต  ส่วนที่อ้างว่าเป็นเงินรายได้จากธุรกิจโรงสีข้าว โรงน้ำแข็ง เงินค้าทองคำ หจก.แม่ริม จำกัดฯ ที่เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างนั้น ฟังไม่ขึ้น เพราะบางส่วนผลประกอบการขาดทุน และธุรกิจโรงสีข้าว - โรงน้ำแข็ง ก็ไม่มีรายได้มากขนาดนำมาเสียภาษี จึงไม่น่าเชื่อว่า ผู้ถูกกล่าวหา และผู้คัดค้านทั้งสองจะมีรายได้เพียงพอกับทรัพย์สินนั้น และที่อ้างว่ามีเงินจากการขายกิจการเก็บเป็นเงินสดเกือบ 100 ล้านบาท หากนำมาเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายประจำวัน เงินนั้นย่อมลดลง และไม่มีความจำเป็นที่จะเก็บเงินสดจำนวนมากไว้ในบ้านโดยไม่ได้รับประโยชน์ดอกผล ข้อต่อสู้จึงไม่น้ำหนักและเป็นการกล่าวอ้างลอยๆ โดยไม่มีหลักฐานเอกสารมาชี้แจงละเอียด
          
จึงมีคำสั่งให้ทรัพย์สิน จำนวน 7 รายการ และดอกเบี้ย มูลค่า 168,453,245.70 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน  หากผู้ถูกกล่าวและผู้คัดค้าน ไม่สามารถชดใช้เงินจำนวนนี้คืนได้ ก็ให้บังคับเอาทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหาและผู้คัดค้าน ให้ตกเป็นของแผ่นดินภายในอายุความ 10 ปี โดยให้คืนทรัพย์สินที่เป็นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน กก 111 เชียงใหม่ มูลค่า 700,000 บาท และหุ้น MSC จำนวน 9,780 หุ้น คืนแก่เจ้าของ

ส่วนคดีอาญาแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จเมื่อครั้งเป็นที่ปรึกษานายกฯ อบจ.นั้น ให้จำคุก 12 เดือน โดยไม่รอลงอาญา

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับทรัพย์สิน 7 รายการ ที่ให้ตกเป็นของแผ่นดิน ประกอบด้วย  1.หุ้น บริษัทแอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) (ASCON) ในชื่อของนางบุญทอง มารดา ผู้คัดค้าน ที่ 2 หุ้นบริษัทแอสคอนฯ ในชื่อของนางดวงสุดา คู่สมรส ผู้คัดค้านที่ 1 ที่ขายไป 3 ล้านบาทเศษ  2.หุ้นบริษัท วินโคสท์ อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด (มหาชน) (WIN) ที่เหลือจากการขายในตลาดหลักทรัพย์ จำนวน 1,000,168 หุ้น มูลค่า 390,065 บาท  3.เงินที่ได้จากการขายหุ้นบริษัท เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (MLINK) ของนางดวงสุดา คู่สมรส ผู้คัดค้านที่ 1จำนวน 4,187,700 หุ้น เป็นเงิน 5,407,163 บาท
          
4.เงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นของนายเกษม ผู้ถูกกล่าว และนางดวงสุดา คู่สมรส ผู้คัดค้านที่ 1 กรณีนายเกษมพ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษานายก อบจ.เชียงใหม่ รวมมูลค่า 8,585,953 บาท   5.ที่ดินโฉนดเลขที่ 19767 อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ เนื้อที่ 25.6 ตารางวา มูลค่า 1.2 ล้านบาท ของนางดวงสุดา คู่สมรส ผู้ตัดค้านที่ 1   6.เงินลงทุนในบริษัทหลักทรัพย์ ที่เพิ่มขึ้นของนายเกษม ผู้ถูกกล่าวหา และนางดวงสุดา คู่สมรส ผู้คัดค้านที่ 1 กรณีนายเกษม พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษานายก อบจ.เชียงใหม่ มาแล้วเป็นเวลา 1 ปี รวมมูลค่า 20 ล้านบาทเศษ  และ 7.เงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นของนางดวงสุดา คู่สมรส ผู้คัดค้านที่ 1 กรณีนายเกษม พ้นจากตำแหน่ง ส.ส. รวม 8 แห่ง มูลค่า 55,141,500 บาท