"พี่น้องครับอย่ากลับบ้านมือเปล่า"!เสียงสั่งข้ามโลกของ"นายใหญ่"เมื่อ8ปีก่อน ดันหลังให้"กี้ร์-แก้ว3ดวง"ล้มประชุมอาเซียน แล้วนอนคุก4 ปีในวันนี้

ติดตามข่าวสารที่ www.Tnew.co.th

 

อารมณ์ เคนหล้า สำนักข่าว Tnews


ดูเหมือนอิทฤทธิ์ของ "นายใหญ่-ทักษิณ" จะยังคงส่งผลสะเทือนต่อชีวิตลิ่วล้อของเขาอย่างไม่มีวันคลอนแคลน ล่าสุดวานนี้ "แก๊งลุยล้มประชุมอาเซียนที่พัทยาเมื่อปี 52 " อันมีแกนหลักคือ "พี่กี้ร์- นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง" แกนนำแดงสายบู๊ พร้อมพวก นปช.อีก 13 คน ถูกศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 4 ปี แถมไม่รอลงอาญาจากความผิดคดีดังกล่าว


ทำไมจึงมั่นใจว่า...เป็นการสั่งการของนายใหญ่...เรื่องนี้หาคำตอบได้ไม่ยาก เพราะหากไล่เลียงเวลาดูจะพบคำตอบที่ชัดเจน โดยช่วงต้นปี 2552 ราว ๆ เดือนต้นเมษายน ได้มีการสะสมกำลังคนที่บูชาทักษิณ ก่อนจะกลายมาเป็นการชุมนุมใหญ่ของเสื้อแดงในเวลาต่อมาของปีนั้น

เหนืออื่นใดก็คือ ช่วงก่อนมีการยกพลไปล้มการประชุมอาเซียนที่พัทยา เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2552 โดย "กี้ร์-แก้ว 3 ดวง" เป็นแกนหลักอย่างที่กล่าว ก่อนหน้านั้นนานนับสัปดาห์ "นช. ทักษิณ ชินวัตร" ได้มีการวิดีโอลิงค์เข้ามาปลุกระดมเสื้อแดง...ทำนองให้ต่อสู้...อ้างเพื่อลูกหลาน-เพื่อประชาธิปไตย...อย่างโน่นอย่างนี้อยู่ทุกคืน


โดยเฉพาะคืนวันที่ 8 เมษาฯ ก่อนที่เสื้อแดงจะยกพลไปทำลายภาพลักษณ์ของประเทศเพียงแค่ 3 วัน..."ทักษิณ"...ถึงกับใช้ประโยคเด็ดที่ว่า..."พี่น้องครับผมแพ้ไม่ได้ อย่ากลับบ้านมือเปล่า"


“เรามากันเยอะ ผมชื่นใจมากๆ ผมจะกลับบ้านไม่ได้กลับบ้านไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่เรื่องสำคัญพี่น้องได้ประชาธิปไตยเต็มใบ เราจะไม่กลับไปมือเปล่า เราจะกลับไปด้วยประชาธิปไตย เราขอสัมผัสประชาธิปไตยแท้ๆไม่ใช่ถูกหลอก ฝรั่งอ่าน Democracy เดม็อกเครซี แต่หลังเห็นอ่านว่า demo crazy แสดงความบ้า สองมาตรฐาน"

“พี่น้องครับ อดทน พวกเราเป็นพวกรักความจริง พวกเราไม่เคยกลัวความจริง พวกเราเป็นคนรุ่นใหม่ต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง ที่พิสูจน์ได้ เป็นสิ่งที่ความจริงต้องเป็นความจริง อำมาตยาธิปไตยที่เราไม่ต้องการเพราะพวกนี้บิดเบือนความจริง แทรกแซง สร้าง 2 มาตรฐาน ข่มขู่ผู้ทำมาหากิน มันหมดยุคนั้นไปแล้ว โลกเราไปถึงไหนแล้ว พวกคร่ำครึ ถ้าปล่อยไว้ ถ้าใครเป็นนายกฯ ที่เขาไม่รักก็ต้องมาเช่าห้องแถวเหมือนผม เขาต้องการนายกฯ ที่อยู่แล้วก็ไป แล้วก็ไป แล้วประเทศมันจะเจริญได้อย่างไร”

 

ข้างต้นนั่น...คือส่วนหนึ่งของเสียงปลุกเร้าจากนายใหญ่ที่สั่งข้ามมาจากอีกซีกโลกหนึ่งถึงม็อบคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ ในค่ำคืนวันที่ 8 เมษาฯ

จากนั้นอีก 3 วันต่อมา คือในวันที่11 เมษายน 2552 การล้มประชุมอาเซียนของคนเสื้อแดงก็เริ่มขึ้น โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงจากกรุงเทพฯ ราว 1.000 คน เดินทางโดยรถบัสและ รถตู้-รถยนต์จำนวนหลายคัน เพื่อร่วมกับคนเสื้อแดงพัทยาอีกเกือบ 1,000  และเมื่อพวกเขาทั้งหมดฝ่าแนวต้านของตำรวจและทหาร ที่ทำงานอย่างเหยาะแหยะเข้าไปถึงด้านหน้าโรงแรมรอยัล คลิฟท์ บีช รีสอร์ท พัทยา อันสถานที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนได้สำเร็จ จากนั้นความพินาศของประเทศก็เริ่มต้นขึ้น...เมื่อผู้นำของกลุ่มประเทศอาเซียนต้องหนีตายอย่างอลหม่าน ขณะที่ข้าวของเครื่องใช้ของโรงแรมฯ ก็พินาศย่อยยับไปด้วยน้ำมือสมุนแม้ว

 

...เหนืออื่นใดคือ...เสื้อแดงกลับฉลองชัยต่อการทำลายร้างครั้งนี้เป็นการเอิกเกริก...แถมมีการเชิดชูเกียรติ แกนนำอย่าง...อริสมันต์...เสียอีก


...แต่อย่างที่บอก...นั่นเป็นวีรเวร...ที่ "อริสมันต์" ทำไว้เมื่อ 8 ปีก่อน มาวันนี้ "กรรม" ได้ไล่ล่าเขาเสียแล้ว...และส่อจะต้องนอนคุกยาวตั้งแต่วันนี้...โดยอาจไม่มีสิทธิ์ฏีกาเสียด้วย...เพราะคดีนี้...เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืน และลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี จึงห้ามให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เว้นแต่ผู้พิพากษาซึ่งได้พิจารณาหรือลงชื่อในคำพิพากษาหรือทำความเห็นแย้งในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ อนุญาตให้ฎีกา หรืออัยการสูงสุดรับรองให้ฎีกา ทั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก และมาตรา 221 ว่าไว้


...นั่นแหล่ะ...อิทฤทธิ์ของ "นายใหญ่" หล่ะ