รอดยุคเลือกตั้งมาหลายสมัย แต่รอบนี้จบแล้ว!!"ป.ป.ช." ฟันหนักตามยึดทรัพย์"จุฑามาศ" พบซุกต่างแดน5 ปท.ก็ไม่รอด สั่นสะเทือนพวกอ้าง ปชต.แต่ปาก

"จุฑามาศ"จบแล้ว!!! "ป.ป.ช." ฟันหนักตามยึดทรัพย์-พบซุกต่างแดน 5 ประเทศก็ไม่รอด เรื่องนี้ผ่านยุคเลือกตั้งมาหลายสมัย แต่มาลงเอยในยุค "เผด็จการ" ที่ถูกค่อนขอด

 

วันนี้ (5 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการเพื่อเร่งรัดคดีสินบนข้ามชาติ ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการป้องและปราบปรามการทุจริต ทั้งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และกระทรวงยุติธรรมว่า ในที่ประชุมได้หารือถึงเรื่องการดำเนินคดีทุจริตระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกรณีการให้สินบนข้ามชาติที่มีมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก

 

โดยกรณีของนางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่พบว่าทุจริตต่อหน้าที่ และร่ำรวยผิดปกติ กระทั่งมีการสรุปแนวทางการดำเนินการติดตามทรัพย์สินคืนโดยเห็นควรให้มีการยึดทรัพย์ ทั้งในทางอาญาและตามคำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และทั้งทางแพ่งตามที่กรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดกรณีร่ำรวยผิดปกติ ทาง ป.ป.ช.กำลังประสานงานกับ อสส.เพื่อแปลคำพิพากษาสองร้อยกว่าหน้าและส่งคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับการอายึดและริบทรัพย์นางจุฑามาศ และบุตรสาว ที่ซุกซ่อนอยู่ในประเทศและต่างประเทศ จำนวน 5 ประเทศ ตามเส้นทางการเงิน เพื่อติดตามนำทรัพย์กลับคืนโดยเร็วที่สุด เพราะคดีดังกล่าวถือเป็นคดีสินบนข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดคดีแรกของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยทางธนาคารแห่งประเทศไทย และ อสส.ได้แนะนำแนวทางว่าจะต้องดำเนินการตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ.2003 ซึ่ง ป.ป.ช.สหรัฐ (อัยการประจำประเทศไทย) และ อสส.จะได้นัดหารือกันอีกครั้งภายในเร็วๆ นี้

 

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีมติมอบหมายศูนย์ประสานงานคดีระหว่างประเทศ สำนักการต่างประเทศของ ป.ป.ช.ให้ดำเนินการประสานงานเรื่องความร่วมมือในการริบทรัพย์สินและส่งคืนให้กับประเทศผู้เสียหาย เพื่อที่จะให้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่างของสังคมไทยในระดับประเทศและระดับโลก เป็นการชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยเอาจริงกับเรื่องการขจัดปัญหาการทุจริต ไม่ให้ผู้กระทำหนีรอดจากการลงโทษไปได้ มีการนำทรัพย์คืนสู่แผ่นดิน โดยให้ศูนย์ประสานงานคดีระหว่างประเทศทำงานร่วมกับหน่วยงานของไทยและหน่วยงานในต่างประเทศ ให้มีผลโดยเร็วที่สุด

 

"มั่นใจว่าจะสามารถเรียกทรัพย์สินที่อยู่ในต่างประเทศกลับคืนมาได้ เพราะรัฐบาลสหรัฐทราบดีว่าเงินเหล่านี้เป็นเงินของรัฐบาลไทยที่จ่ายไป ซึ่งถูกนำไปจ่ายสินบน ทั้งนี้ในที่ประชุม ทาง ป.ป.ช.ได้รายงานวามคืบหน้าคดีระหว่างประเทศที่กำลังดำเนินการอยู่ 10 กว่าเรื่อง เพื่อย้ำนโยบาย ป.ป.ช.และหลายเรื่องที่เคยตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนขณะนี้ก็ได้ยกระดับให้อยู่ในความรับผิดชอบขององค์คณะคือ กรรมการ ป.ป.ช.ทั้ง 9 คน ดูแลรับผิดชอบไต่สวน เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว โดยคดีต่างๆเหล่านี้ ปปง.จะเป็นคู่ทำงานที่สำคัญของ ป.ป.ช.ในการติดตามสินบนระหว่างประเทศ และในวันศุกร์ที่ 7 เม.ย.นี้ จะมีการประชุมร่วมกันระหว่าง ป.ป.ช.และ ปปง.ถึงแนวทางการดำเนินงานร่วมกันในหลายๆ คดี" ประธาน ป.ป.ช. ระบุ 

 

อารมณ์ เคนหล้า สำนักข่าว Tnews