สหรัฐกลับลำ!! จากปฏิเสธไม่สนับสนุนกองทัพไทยเมื่อ"ยึดอำนาจ" ไม่ร่วมซ้อมคอบบ้าโกลด์!! หลัง"ทรัมป์"มาเปลี่ยนจึงมีภาพวันนี้!!??

พลเอก Robert B. Brown ผู้บัญชาการกองกำลังทหารบกสหรัฐอเมริกา ภาคพื้นแปซิฟิก Commanding General, U.S. ARMY PACIFIC (USARPAC CG) พร้อมคณะ ซึ่งเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของกองทัพบก 3-7 มิถุนายน 2560 เข้าพบ พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ในฐานะแขกของกองทัพ ซึ่งได้เปิด บก.ทบ. ต้อนรับ หารือ ความร่วมมือทางทหาร 

 

 

ล่าสุด  พลเอก Robert B. Brown ‪ได้พบกับพลโทอภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาค1 ก่อนพาไปเยี่ยม รบพิเศษ และ ร.31รอ.ที่ ลพบุรี‬ ซึ่ง

พลโทอภิรัชต์ เผยว่า ความสัมพันธ์ กองทัพไทย สหรัฐฯ ดีเยี่ยม จะเห็นได้ว่า ความสัมพันธ์ ดีขึ้น ท่าทีสหรัฐฯต่อเราก็ดีขึ้น การที่ ผบ.กกล.ทบ.ภาคพื้นแปซิฟิคสหรัฐฯ มาเยือน ก็ถือเป็นการสะท้อนความสัมพันธ์อันดี

นอกจากนี้ สหรัฐฯยังให้ ที่นั่งทหารไทย 8 คน ไปอบรม หลักสูตรผู้นำหน่วยทหารขนาดเล็ก โดยจะมีการคัดเลือก นายทหารยศ ร้อยตรี ร้อยโท ไปฝึกที่ทบ.สหรัฐฯ 20วัน กลับมา ลงไปทำหน้าที่ที่ ชายแดนใต้ หวังฝึกให้มีวิสัยทัศน์ ประสบการณ์ มีความคิดริเริ่ม

 

 

 

 

 

แต่ก่อนหน้านี้ท่าทีของสหรัฐเมริกากับไทย นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์รัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 สหรัฐก็แสดงออกมาโดยตลอดว่าต้องการที่จะลดระดับการฝึกปฏิบัติการนี้ร่วมกับไทย ถึงขั้นที่ครั้งหนึ่งเคยมีข่าวว่าการฝึกเมื่อปี 2558 จะย้ายไปที่ประเทศออสเตรเลียเลยทีเดียว แต่จากการที่จีนได้เข้ามากระชับสัมพันธุ์ไทยมากขึ้น ได้เข้าร่วมฝึกอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อปี 2558 ก็ทำให้ท่าทีของสหรัฐเปลี่ยนไป

ต่อมาจากคำพูดของนายกลิน ที. เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำ ประเทศไทย ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดการฝึก คอบร้าโกลด์ 2559 ด้วยการเหน็บแนมเรื่องการเลือกตั้งของไทย ก็สะท้อนภาพของสหรัฐฯภายใต้ฉากหน้าว่าเป็นมิตร แต่กลับมองไปถึงเรื่องผลประโยชน์แทบทั้งนั้น

นายกลิน ที. เดวีส์ ได้กล่าว สุนทรพจน์ในพิธีเปิดการฝึกซ้อมคอบร้าโกลด์ ตอนหนึ่งว่า "การเปิดการฝึกซ้อมคอบร้าโกลด์ 2559 เพื่อแสดงถึงพันธสัญญาอันยาวนาน ไม่คลอนแคลนของสหรัฐ ที่มีต่อภูมิภาคนี้ พันธสัญญานี้เข้มแข็งและยืนยง อันรวมถึง พันธสัญญาที่มีต่อประเทศไทยซึ่งสามารถข้ามผ่านอุปสรรคท้าทายชั่วคราวที่เกิดขึ้น ในความสัมพันธ์ของเรา

และท่าทีล่าสุดของนายกลิน เดวีส์ ภายหลังจากที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ครองตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45ต่อจากนายบารัก โอบามา ซึ่งมีท่าทีที่เปลี่ยนไป ถือเป็น"นัยยะสำคัญ" โดยออกมาใหเสัมภาษณ์ว่า  "สหรัฐฯ ต้องการเห็นความสมานฉันท์ในประเทศไทย และคิดว่าช่วงเวลาการเลือกตั้งของไทยเป็นเรื่องสำคัญอันดับรองลงมา"

"ไม่มีประเทศใดต้องการถูกสั่งสอน และว่าตนคิดว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันของไทยเข้าใจดีว่ากระบวนการประชาธิปไตยจะทำให้ไทยเข้มแข็งขึ้น"

ซึ่งนายกลิน เดวีส์ได้ย้ำอีกด้วยว่า" การที่สหรัฐฯ มีประธานาธิบดีคนใหม่เป็นโอกาสเร่งเครื่องสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ"

 

 

 

ขอบคุณข้อมูล Wassana Nanuam