จับตา!! แคนดิเดต หัวหน้าพรรค"เพื่อไทย" ภายใต้ "ระบอบทักษิณ"!! หลัง"หญิงหน่อย"ก้าวพลาดสะเทือนตัวเต็ง หัวหน้าพรรค!!

ต้องถูกพูดถึงไปอีกนาน สำหรับพฤติกรรมฉวยโอกาสของคุณหญิงหน่อย " สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ "  ตัวเต็งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่จัดกิจกรรมเชิญชวนประชาชนปลูกดอกดาวเรือง ขึ้นรถกะบะแห่เชิญคนทั่วลาดปลาเค้า แต่กลับมีเจตนาแอบแฝงนัยทางการเมือง จนผลที่ออกมา "เสียมากกว่าได้" !!  หรือเรียกได้ว่า นี่คือความผิดพลาดครั้งใหญ่ แบบถล่มทลายกลับบ้านไม่ถูก  

ทางเจ้าตัวได้ออกมาแถลง"กราบขอโทษ และขอน้อมรับผิดจากใจ" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า  ตนก็ขอกราบขอโทษคณะกรรมการทุกคนที่ตนเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดข่าวแบบนี้ขึ้น และขอยืนยันว่า รถที่เห็นไม่ใช่รถหาเสียง แต่เป็นรถที่ใช้รวบรวมดอกดาวเรืองจากซุ้มต่างๆ และรถมอเตอร์ไซต์ต่างๆก็เป็นรถอาสาสมัครที่ไม่ใช่รถตำรวจซึ่งเขาเอามาเข้าร่วมขบวนเพื่อคอยอำนวยความสะดวก อีกทั้งยังกล่าวอีกด้วย 

"ขอโทษประชาชนที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ดิฉันขอยืนยันว่าไม่มีจุดมุ่งหวังเพื่อการเมืองใดๆ และไม่มีการเอาเรื่องนี้มาหาผลประโยชน์ "

ก็ไม่ได้ทำให้พี่น้องประชาชนคล้ายสงสัยกับพฤติกรรมไม่ถูกกาลเทศะเช่นนี้ อีกทั้งยังถูกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และโดยเฉพาะรองนายกรัฐมนตรี อย่าง "บิ๊กป้อม" พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้ออกมาตำหนิติติงในพฤติกรรมดังกล่าว จึงได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนเปิดโอกาสในการแคนดิเดตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ..คุณหญิงสุดารัตน์  ถึงแม้มีชื่อเป็นตัวเต็งที่จะมานำพรรคเพื่อไทย ที่ถูกตาต้องใจนายทักษิณ ชินวัตร เจ้าของพรรคแล้วนั้น แต่ใช่ว่าทุกคนในพรรคเพื่อไทยจะชื่นชอบและยอมรับสักเท่าไหร่ ดังนั้นการพลาดของคุณหญิงสุดารัตน์ ได้การสร้างความตื่นตัว และจุดประกาบความหวังให้กับบรรดาสมาชิกพรรคตัวเป้งๆในตำแหน่งหัวหน้าพรรคอยู่ลึกๆในใจ กลับมากระชุมกระชวยอีกครั้ง

ตัวหลักในที่นี้คงหนี ไม่พ้น "วงศ์สวัสดิ์" ซึ่งหลายคนมองว่าน้องสาวนายทักษิณอย่าง"เจ๊แดง"เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เจ้าแม่วังบัวบาน ภรรยานายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น่าจะก้าวขึ้นสู่หัวหน้าพรรคได้ เพราะมีแกนนำและสมาชิกในมุ้งนี้จำนวนมาก  เล็กอุทัย เป็นต้น แต่อีกด้านหนึ่ง กลายเป็นจุดอ่อนของ"ชินวัตร ที่พร้อมจะถล่มได้ตลอดเวลา ส่วนนายสมชาย ที่หลายฝ่ายถือเป็น"ชินวัตร"สายตรงเช่นกัน มาแรกและมีโอกาสสูงเลยทีเดียว!!

 

ขณะที่ สายอีสาน พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ ซึ่งมีความใกล้ชิดกับนายทักษิณ  ในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้องจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ โดย พล.ต.อ.ชิดชัย เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 23 ส่วนนายทักษิณ รุ่นที่ 26 และทั้งคู่ยังไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกาในช่วงเดียวกันและพักอยู่ด้วยกัน และ พล.ต.อ.ชิดชัย ยังเป็นอดีตรองนายกฯ เบอร์ 1 ทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในรัฐบาลทักษิณ

 

นอกจากนี้บรรดา ส.ส. พรรคเพื่อไทยกลุ่มที่ไม่สนับสนุนหญิงสุดารัตน์ก้ได้เอ่ยถึงรายชื่ออื่นๆที่พอจะเป็นไปได้หลักๆ อยู่ 3 ชื่อด้วยกัน คือ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แถมยังเป็นนายทุนเบอร์ต้นๆ ที่คอยสนับสนุนทางการเงินของพรรคมายาวนาน ปัจจุบันพิชัยมีบทบาทในการวิพากษ์วิจารณ์การบริหารงานรัฐบาลและคสช.  ต่อมา  นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ กูรูด้านกฎหมายพรรคเพื่อไทย เคยเป็นทั้งโฆษกส่วนตัวและทนายความให้กับทักษิณ และคนสุดท้าย ที่เคยได้รับฉายา รัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปัฐพี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรัฐบาลยิ่งลักษณ์  ที่ล่าสุดได้มีรายชื่อเป็นหนึ่งในคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันขอบเขต แต่ท้ายที่สุด เจ้าตัวก็ออกมาปฏิเสธ

งานนี้เลยต้องดูกันยาวๆ ว่าที่สุดแล้วนายทักษิณ เจ้าของพรรคตัวจริง จะเลือกใครขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่  แน่นอนที่ไม่ว่าอย่างไรทั้งหมดทุกคนก็ยังอยู่ใต้ปีกทักษิณ  แต่ถึงอย่างนั้นหลายคนก็พร้อมที่จะพลีกายถวายชีวิตให้!! ไล่เรียงจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ไทยรักไทย พลังประชาชน จนถึงปัจจุบันเพื่อไทย บั่นปลายชีวิตหลายคนจบไม่สวยนัก!!

เริ่มจากหัวหน้าพรรคไทยรักไทย อย่างนายทักษิณเอง ซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นนักโทษหนีคดีในกรณีทุจริตที่ดินรัชดา และมีอีกหลายคดีที่จะถูกนำกลับมารื้อใหม่ โดยป.ป.ช. มีมติ สั่งรื้อ2 คดีกล่าวหาทุจริต คือการให้เอ็กซิมแบงก์อนุมัติปล่อยกู้รัฐบาลเมียนมา วงเงิน 4,000 ล้านบาท ในโครงการพัฒนาระบบโทรคมนาคมของเมียนมา  และคดีออกสลากหวยบนดินโดยมิชอบ อีกทั้งอัยการสูงสุด ชี้ขาดสมควรสั่งฟ้อง นายทักษิณ กระทำความผิด ม.112-พ.ร.บ

.คอมพิวเตอร์ 

 

นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน   ที่ถูกนายทักษิณหักหลัง ย้อนไปเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2551นายทักษิณได้โทรศัพท์มาหา นายเนวิน ชิดชอบ ว่า ขอให้แจ้งแก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคพลังประชาชนว่า ให้สนับสนุนนายสมัครเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป นายเนวินจึงแจ้งแก่ ส.ส.พรรคพลังประชาชน และให้ผู้ใหญ่ในพรรคไปขอร้องนายสมัครที่บ้านพักในหมู่บ้านโอฬาร ซอยนวมินทร์ 81 เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2551 ให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง พร้อมกับเสียงสนับสุนนของ ส.ส.พรรคพลังประชาชน

 

กระทั่งเช้าวันที่ 12 กันยายน 2551 นายสมัครไปถึงสภาแต่เช้า เพื่อรอเวลาประชุม กลับปรากฏแต่ ส.ส. พรรคพลังประชาชนกลุ่มเพื่อนเนวิน และพรรคประชาธิปัตย์มาประชุม ไม่มี ส.ส. พรรคพลังประชาชนฟาก พ.ต.ท.ทักษิณ เลย ทำให้องค์ประชุมไม่ครบเลือกนายสมัครเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้ จนทำให้นายสมัครเสียความรู้สึก แสดงหน้าตาเคร่งเครียดแบบสุดเจ็บปวด อีกทั้งในช่วงบั่นปลายชีวิต ในขณะที่นายสมัครป่วย โดยคนใกล้ชิดนายสมัครเล่าว่า ขณะที่ตนไปเฝ้าไข้นั้น ยังไม่เคยเห็นของเยี่ยมหรือตัวแทนจากนายทักษิณ และไม่ได้รับการติดต่อโดยตรงจากนายทักษิณเลย

 

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ล่าสุดได้สถาปนาตัวเองเป็นเลขาธิการองค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย คาดว่าหลบหนี้ไป พำนักอยู่ในประเทศแถบยุโรป  ถูกออกหมายจับในคดีหมิ่นสถาบัน มาตรา 112

 

ถึงแม้จะมีตัวอย่างอยู่หลายคนที่เลือกเดินในระบอบทักษิณ และจบชีวิตทางการเมืองแบบไม่สวยหรูนัก แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ไม่กลัวเกร่งต่อสิ่งเหล่านี้ พร้อมจะเดินเข้าสู่เส้นทางดังกล่าว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผล หอมหวาน ประการใดก็ตามแต่!!!