งานนี้รู้แน่ "หมู่หรือจ่า"! ฉมังม.44 รีเซสมาชิกพรรค ฝ่ายการเมืองดาหน้าค้าน..ตกลงต้องการ"คนมีอุดมการณ์" หรือ "เงินสนับสนุน"??

งานนี้รู้แน่ "หมู่หรือจ่า"! ฉมังม.44 รีเซสมาชิกพรรค ฝ่ายการเมืองดาหน้าค้าน..ตกลงต้องการ"คนมีอุดมการณ์" หรือ "เงินสนับสนุน"??

ว่าด้วยประเด็นร้อนทันทีที่มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่  53/2560  เรื่อง การดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง  ลงนามคำสั่งตามมาตรา 44 วางกรอบเงื่อนไขการดำเนินงานของพรรคการเมืองเก่าและพรรคการเมืองใหม่ ออกมาเมื่อช่วงหัวค่ำ ของคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา.. บรรดาแกนนำพรรคการเมืองต่างๆ ไม่ใช่แค่เพียง2 พรรคใหญ่อย่าง ประชาธิปัตย์ และ เพื่อไทยเท่านั้น ที่ต่างพาดาหน้าออกมาถล่มรัฐบาลและคสช. กันแบบที่เรียกว่า “ไม่ต้องนัดหมาย” ที่อ้างว่าคำสั่งดังกล่าว ได้สร้างความยุ่งยากให้แก่พรรคการเมือง

 

ที่ออกตัวแรงกว่าเพื่อนถึงเห็นจะเป็นพรรคการเมืองเก่าแก่อย่างประชาธิปัตย์ ที่มีจำนวนสมาชิกพรรคมากถึง 2,895,954 คน สิ่งที่สร้างความหวดกลัวคือ คำสั่งฉบับนี้ อาจทำให้พรรคต้องถูกรีเซตจำนวนสมาชิกพรรคจนไม่เหลือ

 

โดยเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า คำสั่งที่ออกมาเกือบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย แต่กลับทำให้พรรคเก่ามีปัญหา เพราะเดิมสมาชิกพรรคเก่า สมาชิกยังไม่รีเซ็ต แต่ต้องเสียค่าสมาชิกภายใน 4 ปี หลังจากนั้นมีคนไปร้องว่าพรรคใหม่กับพรรคเก่าเท่าเทียมกัน ทำให้พรรคเก่าที่สมาชิกมีอยู่แล้ว ต้องมายืนยันสมาชิกตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ภายในวันที่ 30 เมษายน 2561 ไม่เช่นนั้นจะขาดจากการเป็นสมาชิกพรรค ทำให้ปชป.ที่มีสมาชิกพรรคอยู่ 2.8 ล้านคน ทำให้สมาชิกพรรคต้องมายืนยันภายในกรอบเวลาดังกล่าว ซึ่งมันไม่มีทางทำได้ทัน

 

"วันนี้นั่งคุยกันในพรรคว่าต้นเดือนพ.ค. 2561 พรรคประชาธิปัตย์มีสมาชิก 1 แสนคน ก็ถือว่าบุญแล้ว เพราะมันทำไม่ทัน สมาชิกเขาไม่มาหรอก ซึ่งจะส่งผลกระทบให้เงินสนับสนุนพรรคการเมืองเหลือน้อยลง ความร่วมมือลดน้อยลง การรณรงค์ในพื้นที่เหลือน้อยลง เราทำเรื่องสมาชิกพรรคมา 71 ปี มาทำแบบนี้หมดกันภายใน 30 วัน"

นั่นก็เพราะว่า...ในข้อ1 ของคำสั่งคสช. กำหนดให้ยกเลิกความในมาตรา 140 มาตรา 141 และมาตรา 142  พ.ร.ป.พรรคการเมืองฉบับปี60 และให้ยึดตามคำสั่งนี้แทน

 

โดยความแตกต่าง อย่างเจาะรายละเอียดของมาตรา 140  พ.ร.ป.พรรคการเมืองฉบับปี60  กับคำสั่งคสช.

 

ซึ่งมาตรา 140  พ.ร.ป.พรรคการเมืองฉบับปี60 ได้บัญญัติไว้ว่า..

 

ให้พรรคการเมืองที่จัดตั้งหรือเป็นพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 และยังดํารงอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ เป็นพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ และให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองดังกล่าวที่ดํารงตําแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ ยังคงเป็นคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองเพื่อดําเนินการตามมาตรา 141 โดยให้ถือว่าพรรคการเมืองดังกล่าวมีสมาชิกตามที่ปรากฏในทะเบียนสมาชิกพรรคการเมืองที่สํานักงาน จัดให้มีขึ้นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550

 ขณะที่คำสั่งคสช. ได้ระบุว่า..

ให้พรรคการเมืองที่จัดตั้งหรือเป็นพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่า ด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550และยังดํารงอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ เป็นพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ และให้ คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองดังกล่าวที่ดํารงตําแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 24 เป็นสมาชิก และยังคง เป็นคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้นต่อไป และให้สมาชิกซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา 24 และประสงค์จะเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้นต่อไปมีหนังสือยืนยันการเป็นสมาชิกต่อ หัวหน้าพรรคการเมืองนั้น พร้อมทั้งแสดงหลักฐานการมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 24 และชําระค่าบํารุง พรรคการเมืองภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 เมื่อพ้นกําหนดเวลา ดังกล่าว สมาชิกผู้ใดมิได้มีหนังสือแจ้งยืนยันการเป็นสมาชิก ให้เป็นอันพ้นจากสมาชิกของพรรค การเมืองนั้น และให้พรรคการเมืองแจ้งให้นายทะเบียนทราบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ พ้นกําหนดเวลาดังกล่าว 

 

กล่าวโดยสรุปในประเด็นนี้ คือพรรคการเมืองและคณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง ที่เคยเป็นอยู่เดิม ก็เป็นไปตามเดิม แต่ส่วนที่เพิ่มเติมขึ้นมา  คุณสมบัติของสมาชิกพรรค ตามมาตรา24  อาทิเช่น อายุต้องไม่ต่ำกว่า 18ปี เป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้นๆเพียงพรรคเดียว เป็นต้น

และหากยืนยันที่จะเป็นสมาชิกพรรคนั้นๆ ต้องมีหนังสือยืนยันแสดงตัวตน พร้อมจ่ายค่าบำรุงพรรคเป็นเงิน100บาท ในระยะเวลา30วัน เริ่มวันที่ 1 เมษายน 2561 ถ้าหากหลักฐานไม่ครบหรือไม่ทันกำหนด ก็จะทำให้สิ้นสภาพสมาชิกพรรคทันที

 

นั่นก็หมายความว่าคำสั่งดังกล่าว เท่ากับเป็นการจดทะเบียนสมาชิกพรรคใหม่ เพื่อให้สมาชิก ที่มีตัวตนจริงๆไม่ได้มีเพียงแต่ชื่อโดยหาที่มาที่ไปไม่เจอ หรือมีรายชื่อเยอะๆเพื่อหวังเงินสนับสนุนพรรคการเมือง อีกทั้งเป็นการอัพเดทจำนวนสมาชิกมีที่อยู่จริง ส่วนรายชื่อไหนที่ล้มหายตายจากไปแล้ว ก็ต้องลบออกจากสารบบ ดังนั้นจะทำให้เหลือเพียงผู้ที่มีอุดมการณ์แน่วแน่เป็นหนึ่งเดียวกันกับพรรคเท่านั้น ซึ่งเชื่อได้ว่าอาจจะสมาชิกของแทบทุกพรรคจะลดลงอย่างผิดหูผิดตา พวกพรรคที่มีสมาชิกเป็นแสนเป็นล้านคน จะได้รู้กันว่า “หมู่หรือจ่า” ก็งานนนี้!!!