ท่าจะรอด 157 ยาก?! "ราเมศ" แฉซ้ำ-ตนมีหลักฐาน"สุกำพล" พูดวงใหญ่-จัดการ"มาร์ค" เพื่อให้ พท.หมดขวากหนามการเมือง 

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

 

ท่าจะรอด 157 ยาก?! "ราเมศ" แฉซ้ำ หลัง "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเปิดเผย หลังศาลฎีกาสั่งเพิกถอนคำสั่งที่ พล.อ.อ.สุกำพล ปลดตนเองออกจากราชการทหารย้อนหลัง 23 ปี  โดยนายอภิสิทธิ์ ยืนยันล่าสุด ผู้ที่กลั่นแกล้ง-ใช้อำนาจมิชอบ ต้องรับผิดชอบการกระทำของตนเอง

 

 

ล่าสุด "ราเมศ รัตนะเชวง" รองโฆษกและคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย ปชป.ออกมาแฉเรื่องดังกล่าวซ้ำอีกครั้งว่า ตนมีหลักฐานชัดเจนว่า มีการวางแผนในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ให้จัดการให้นายอภิสิทธิ์ออกจากวงการการเมือง ไม่ให้เป็น ส.ส.โดยมีการรายงานในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย โดย พล.อ.อ.สุกำพล รมว. กลาโหมขณะนั้น ระบุด้วยตนเองว่า จะจัดการถอดยศนายอภิสิทธิ์ เรื่องนี้ถือเป็นการวางแผนที่จะกลั่นแกล้งนายอภิสิทธิ์โดยมิชอบ

 

วันนี้ (17 ม.ค.)  นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกและคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาแฉกรณี คำพิพากษาศาลสั่งเพิกถอนคำสั่งที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีตรมว.กลาโหม ที่ปลดตนเองออกจากราชการทหารย้อนหลัง 23 ปีเศษว่า คำพิพากษาดังกล่าวมีผลทำให้คำสั่งของ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีตรมว.กลาโหม ไม่มีผลบังคับใช้อีกต่อไป โดยในคำพิพากษาศาลฎีกายังระบุชัดเจนว่า พล.อ.อ.สุกำพล จะปลดนายอภิสิทธิ์ ที่ไม่อยู่ในราชการทหารไม่ได้ เพราะไม่เคยถูกตั้งกรรมการสอบทางวินัยในระหว่างรับราชการ พล.อ.อ.สุกำพล จึงไม่มีอำนาจสั่งปลดย้อนหลังถึง 23 ปีเศษ แต่ที่ทำเพราะต้องการทำลายล้างให้นายอภิสิทธิ์พ้นจากการเมือง

 

อย่างไรก็ดี นายราเมศ ยังระบุด้วยว่า ตนมีหลักฐานชัดเจนว่า เรื่องนี้มีการวางแผนในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ให้จัดการให้นายอภิสิทธิ์ออกจากวงการการเมือง ไม่ให้เป็น ส.ส.โดยมีการรายงานในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 9 ต.ค.55 ว่า พล.อ.อ.สุกำพล ระบุว่าภายในเดือน ต.ค.55 ทางกระทรวงกลาโหมจะดำเนินการถอดยศนายอภิสิทธิ์ ถือเป็นการวางแผนเป็นขั้นตอนที่จะกลั่นแกล้งนายอภิสิทธิ์

 

ทั้งนี้ นายราเมศ ยังกล่าวด้วยว่า การดำเนินการหลังจากนี้จะมีการยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รื้อคดีที่เคยยกคำร้อง พล.อ.อ.สุกำพล กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จากการออกคำสั่งดังกล่าวให้กลับมาพิจารณาใหม่ เพราะศาลฎีกาพิพากษาแล้วว่า เป็นการกระทำที่ส่อไปในทางไม่สุจริต และเป็นการละเมิดสิทธิของนายอภิสิทธิ์ จึงขอให้ พล.อ.อ.สุกำพล รอถูกดำเนินคดีตามมาตรา 157 ได้เลย เพราะคำร้องร่างเสร็จแล้วรอแค่แนบคำพิพากษาศาลฎีกาเท่านั้น


อย่างไรก็ดี ความเห็นของนายราเมศ สืบเนื่องมาจากการที่ นายอภิสิทธิ์ ออกมากล่าวถึงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ให้เพิกถอนคำสั่งที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีตรมว.กลาโหม ที่ปลดตนเองออกจากราชการทหารย้อนหลัง 23 ปีเศษ หลังศาลมีคำสั่งตั้งแต่วานนี้ว่า รู้สึกดีใจที่เรื่องนี้ยุติลงแล้ว และเป็นไปอย่างที่ได้ขอความเป็นธรรมมาตลอด เพราะเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง ใช้อำนาจโดยไม่ชอบ

นายอภิสิทธิ์ ยังระบุด้วยว่า ต่อจากนี้จะนำคำพิพากษาศาลฎีกามาพิจารณาเพื่อดำเนินการร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.เคยยกคำร้องไปโดยอ้างคำพิพากษาศาลชั้นต้น แต่เมื่อคดีถึงที่สุดแล้วก็เป็นเหตุที่จะทำให้ ป.ป.ช.หยิบยกขึ้นมาทบทวนใหม่ได้ แต่ต้องรอคำพิพากษาฉบับเต็มเพื่อความสมบูรณ์อีกครั้ง โดยเห็นว่าผู้ที่ใช้อำนาจโดยไม่ชอบต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง

 

"อยากฝากไปถึงผู้ใช้อำนาจว่า ต้องใช้ด้วยความเป็นธรรมและทำตามกรอบของกฎหมาย อย่าใช้ไปในทางไม่ชอบเพื่อประโยชน์ทางการเมือง หากทำได้ก็จะช่วยให้ระบบการเมืองและระบอบประชาธิปไตยดีขึ้น" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

 

ขณะที่ด้าน นายบัณฑิต ศิริพันธ์ ทนายความของนายอภิสิทธิ์ ได้เปิดเผยเรื่องนี้ตั้งแต่วานนี้ว่า การกระทำของ พล.อ.อ.สุกำพล นั้นส่อไปในทางไม่สุจริต และเป็นการละเมิดสิทธิต่อ นายอภิสิทธิ์ ศาลฎีกาจึงพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งฯ และจากนี้นายอภิสิทธิ์ สามารถแนบคำพิพากษาศาลฎีกาไปยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินคดีอาญามาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบกับ พล.อ.อ.สุกำพล ได้ หลังจากที่ ป.ป.ช.เคยยกคำร้องไปโดยอ้างคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่ยกฟ้องคดีนี้ ซึ่งขณะนั้นคดียังไม่ถึงที่สุด โดยเชื่อว่าเมื่อยื่นคำร้องไป ป.ป.ช.ต้องส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิจารณา 

 

อ่าน อ้วกแน่-ดาบนั้นคืนสนอง? "นายพลแดง-สุกำพล"ส่อโดน 157 หลัง"มาร์ค" ลั่นใช้อำนาจกลั่นแกล้งทางการเมือง-ต้องรับผิดชอบ เหตุศาลเพิกถอนคำสั่งปลดทหาร