โกหกแบบนี้..ยังมีหน้าเป็นแกนนำ? ย้อนดูชาวเน็ตถลก"เนติวิทย์" มดเท็จป้อง"มนุษย์ป้าลายดอก USA ถือกระเป๋าแดงในงานพิธี" งานนี้เด็กเลี้ยงแกะยังอาย

 

เมื่อวันเสาร์ที่ 27 ม.ค. ที่ผ่าน "กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย" นำโดยนายรังสิมันต์ โรม และนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว รวมทั้งนายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล และเพื่อนร่วมแก๊งคนอื่น ๆ ได้นำพ่อยก-แม่ยกชาวแดงออกมาเคลื่อนไหวขับไล่ รัฐบาล คสช.และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยอ้างว่าหมดความชอบธรรมที่จะอยู่ต่อ และเรียกร้องให้รัฐบาลทำตามโรดแมปเดิม คือต้องจัดให้มีการเลือกตั้ง ในช่วง พ.ย. 61

 

อย่างไรก็ดี ก่อนแยกย้ายกันกลับทางนักประชาธิไตยวัยล่ะอ่อนเหล่านั้น ยังระบุด้วยว่า วันนี้ถ้ารัฐบาล คสช.ไม่ยุติการดำเนินคดีกับนายชาญวิทย์ และปลด พล.อ.ประวิตร ที่ถือว่าเป็นกล่องดวงใจออกจาก ครม. พวกเขาจะยกระดับแสดงพลังอีกตรั้งในวันที่ 10 ก.พ.นี้ ที่ ถ.ราชดำเนิน กรุงเทพฯ

 

ดูเหมือนข้อเรียกร้องของพวกเขา...ชัดเจนในตัวเองอยู่แล้วว่า แฝง Agenda ส่วนตัว คือ หวังช่วย "ชาญวิทย์ เกษตรศิริ" นักวิชาการลิเบอร่านรุ่นใหญ่ที่พวกเขาบูชา อย่างไรก็ดี ก่อนที่จะไปถึงวันที่ 10 ก.พ. ที่พวกเขาจะยกระดับแสดงพลังอีกครั้ง หากรัฐบาลไม่สนองตอบข้อเรียกร้องดังกล่าว ก็อยากจะให้ดูวีรกรรมในอดีตของ "เนติวิทย์" หนึ่งในตัวละคร "กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย" ผู้จะออกมานำมวลชนล้ม คสช. โดยช่วงเดือนตุลาคม 2560 อันเป็นช่วงงานพระราชพิธีฯ ที่ผ่านมา ซึ่งเขาได้ออกมาพูดจาแบบสุดมดเท็จป้อง "มนุษย์ป้าลายดอก USA" ซึ่งแน่ชัดแล้วว่า เป็นเครือข่ายแดงล้มเจ้าที่เคลื่อนไหวอยู่ในอเมริกา และมีสามีต่างชาติเป็นคอลัมนิสต์ที่คอยเขียนบทความโจมตีสถาบันกษัตริย์ของไทย 

โดยประเด็นมีอยู่ว่า "ยายป้าลายดอกผู้นี้" เป็นแก๊งเดียวกับแดงล้มเจ้า USA ทั้งหลาย ที่จงใจออกมาป่วนงานถวายดอกไม้จันทน์ที่คนไทยจัดขึ้น เพื่อถวายความเคารพพระศพในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่สหรัฐอเมริกา เธอต่อล้อต่อเถียงกับเจ้าหน้าที่จิตอาสาในบริเวณงาน และอ้างข้าง ๆ คู ๆ ถึงสิทธิในการแต่งตัวของตน โดยอ้างความเสรีของอเมริกา (แกะจากคลิปที่เธอกร้าวร้าวใส่เจ้าหน้าที่จิตอาสา) จนถูกคนไทยที่อยู่บริเวณนั้นตะเพิดให้ออกจากงาน และสื่อหลายสำนักนำเสนอไปแล้วนั้น

 

ซึ่งหลังจากนั้น ปรากฏว่า นายเนติวิทย์ ผู้ซึ่งแสดงตัวตนมาตลอดว่า ตนเองเป็นพวกก้าวหน้า...ไม่ยอมรับขนบธรรมเนียมแบบเดิม เพราะอ้างว่าล้าหลัง และฉุดรั้งความเจริญ ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าวทำนอง ที่ "มนุษย์ป้าลายดอก" ถูกไล่ตะเพิดนั้น เพราะแค่ "ถือกระเป๋าแดง" แถมเนติวิทย์ ยังระบุด้วยว่า เธอและสามีชาวอเมริกันของเธอ​ เป็นผู้มีชื่อเสียงในด้านวัฒนธรรม...ซึ่งนับว่าเป็นการพูดเท็จ และสวนทางกับข้อเท็จจริงอีกด้านอย่างมาก เพราะความจริงได้ถูกเปิดเผยแล้วว่า..."มนุษย์ป้าลายดอก" เป็นเครือข่ายแดงล้มเจ้า USA และมีภาพถ่ายหลักฐานชัดเจน และคนที่คลุ้มคลั่งคือ "ยายมนุษย์ป้า" ที่เนติวิทย์ปกป้อง ไม่ใช่ "ฝูงชนคนไทย" ที่เนติวิทย์ กล่าวอ้าง โดยรายละเอียดที่ นายเนติวิทย์ ระบุในเฟซบุ๊กของเขา คือ

 

"เพราะมีกระเป๋าแดง หญิงไทยและสามีชาวอเมริกัน​ ผู้มีชื่อเสียงในด้านวัฒนธรรม​ ไปแสดงเคารพ ร.9ในวันที่ 25​ ที่ซานติเอโก​ อเมริกา ถูกฝูงชนคนไทยเสียสติตะโกนขับไล่และคลุ้มคลั่ง​เข้ามาหา​ สามีเธอเขียนว่า​ คิดว่ามีแต่พวกนาซีเท่านั้นที่ทำแบบนี้"

 

อย่างไรก็ตาม หลังข้อความดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ก็ได้มีชาวเน็ตสวนมาทันที โดยในเพจ "จ่าพิชิต ขจัดพาลชน" ถึงกับระบุว่า "เนเน่ดูคลิปยังน่ะ ถ้าดูแล้วไม่น่าจะโพสงี้นะ เพราะมันคือการปลุกปั่นสร้างสถานการณ์ชัดเจนมาก แล้วผัวป้าแกก็เอามาโพสบิดเบือนอย่างน่าเกลียดมาก"...นั่นแค่ตัวอย่างเบื้องต้น เพราะยังมีข้อความทำนองนี้อีกเยอะ

 

 

โดยเฉพาะสมาชิกในเพจของเขาเอง ซึ่งบางคนบอก "ไม่ใช่เพราะกระเป๋าแดงนะครับ ในคลิปเหตุการณ์เหมือนคนจะบอกว่าแต่งชุดลายดอกลูกไม้มันไม่เหมาะสม คลิปนี้แชร์กันไปเยอะมาก ตอนแรกก็เข้าใจกันว่าเป็นเหตุการณ์ในไทย ที่ไหนได้เป็นวัดไทยในอเมริกาเหรอเนี่ย!"

 
หรือก็มีบ้างที่บอกว่า "จงใจใส่ ไปให้เป็นประเด็นข่าวมากกว่าค่ะ ไม่ได้ตั้งใจไปร่วมอะไรหรอก คนตั้งใจไป เค้าจะคิดมาก่อนแล้วค่ะว่ากาละเทศะ ควรจะยังไง อายุปูนนี้ คือ ไม่ได้ว่า เกิด โต อเมริกา native speaker ไรงี้. คือ วุฒิภาวะ ควรแยกแยะได้ค่ะ มันเกี่ยวกับความจงใจ ค่ะ respect ยังสะกดไม่เป็น จะมาอ้างสิทธิ เหรอคะ จิตสำนึกกับสิทธิ มาด้วยกันก้อคงจะดีค่ะ คุณจะดีใจมั้ยถ้าคนแต่งแบบนี้มางานพ่อแม่ญาติผู้ใหญ่คุณ" และอีก ฯลฯ

หากพิจารณาอย่างเป็นธรรม จะพบความจริงทันทีว่า...เรื่องนี้เนติวิทย์นั้น...กลายเป็นคนโป้ปดมดเท็จเพื่อช่วยพวกตัวเอง แบบไม่เหลือร่องรอยของคนจริงที่จะมาเป็นแกนนำมวลชนได้เลย...เพราะข้อบัญญัติแรก ๆ ของการเป็นแกนนำมวลชนคือ...ต้องเป็นคนถือสัตย์...เมื่อเป็นคนโกหกมดเท็จเช่นนี้...ก็เดาได้ไม่ยากว่า...จะมวลชนไปสู่หายนะใด

...แต่ปัญหาคือ....มันมีคนอยู่กลุ่มหนึ่งจริง ๆ ที่พร้อมจะเชื่อ...เด็กเลี้ยงแกะพวกนี้