ประยุทธ์ยันลงพื้นที่ไทยนิยมเพราะต้องการฟังปัญหาจากปากชาวบ้านจะได้แก้ไขได้ตรงจุด  เผยนำแนวคิด “ศาสตร์พระราชา”

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย วันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 20.15 น. ถึงการดำเนินโครงการไทยนิยมว่า เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสลงพื้นที่ ไปพบปะพี่น้องประชาชนในจังหวัดนครปฐม และได้เยี่ยมเยียนโครงการต่าง ๆ ในพื้นที่ ยินดีที่เห็นหลายต่อหลายโครงการประสบความสำเร็จ สามารถประยุกต์ใช้ โดยการนำหลักคิดทฤษฎีเกษตรต่างๆ ภายใต้ “ศาสตร์พระราชา” มาผสมผสานในการสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างความยั่งยืน ให้กับอาชีพและรายได้ รวมทั้งสิ่งแวดล้อมด้วย ต้องดูแลให้ความสำคัญด้วย แห่งแรกคือ ศูนย์การเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ที่เรียกว่า ศพก.  ณ ตำบลแหลมบัว อำเภอนครชัยศรี ที่เป็นจุดเรียนรู้ด้านการเกษตร และเรียนรู้ของเกษตรกร รวมถึงประชาชนที่สนใจ ที่จะเรียนรู้จากเกษตรกรต้นแบบ ในการทำอาชีพการเกษตร และประสบความสำเร็จ ได้มีการน้อมนำแนวทางของ “ศาสตร์พระราชา” ทั้งในเรื่องกระบวนการจัด การศัตรูพืช ชุมชน การบริหารจัดการน้ำ การปศุสัตว์ พืชผักในโรงเรือน การแปรรูปข้าว นาข้าวอินทรีย์ และการทำปุ๋ยหมัก มาประยุกต์ใช้ร่วมกับเทคโนโลยีการผลิตที่เหมาะสม  เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ลดต้นทุนการผลิต ผลผลิตที่ได้ก็จะเพิ่มขึ้น และมีคุณภาพมากขึ้น ส่วนต่างของราคาก็จะมากขึ้น ควบคู่ไปกับการน้อมนำ “หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” มาประยุกต์ใช้ด้วย เพื่อจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการผลิต ช่วยแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรในพื้นที่ นำไปสู่กระบวนการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมภายใต้หลักคิด “เกษตรกรพัฒนาเกษตรกรด้วยกันเอง ก็จะเกิดความเข้มแข็งและยั่งยืน”

นอกจากนี้ ยังได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมแปลงนาบัว ลุงแจ่ม สวัสดิ์โต ที่บ้านศาลาดิน ตำบลมหาสวัสดิ์ อำเภอพุทธมณฑล ก็เป็นหนึ่งในที่ดินพระราชทาน ตามแนวพระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9  ตั้งแต่ปี 2518 เพื่อแก้ปัญหาเกษตรกรไม่มีที่ทำกิน ซึ่งนับเป็นต้นแบบของการปฏิรูปที่ดินของประเทศไทย เนื่องจากราคาข้าวมีความไม่แน่นอนสูง ทำให้ลุงแจ่ม เปลี่ยนมาทำ “นาบัว” แทน  เป็นพื้นที่ลุ่มด้วย ได้จัดระบบที่ดินเพื่อการเพาะปลูกให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนที่เป็นนาบัว ก็มีการแบ่งแปลง และคำนวณเวลาปลูก เพื่อให้สามารถเก็บผลผลิตได้ตลอดปี พื้นที่ส่วนที่เหลือเป็นที่อยู่อาศัย และคันนาล้อมพื้นที่ เพื่อทำเกษตรแบบผสมผสาน ตามแนวพระราชดำริ โดยมีการปลูกพืชสวนครัว ไม้ดอก ไม้ผล สร้างรายได้เสริมได้ทุกวัน ซึ่งไม่เพียงแต่ลุงแจ่มเท่านั้น พี่น้องบ้านศาลาดิน ก็ได้น้อมนำแนวทางเกษตรแบบผสมผสานไปปรับใช้ อีกทั้ง ยังพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิต สร้างผลิตภัณฑ์ชุมชน ที่เป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ รวมทั้งผลผลิตทางการเกษตรที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ บนพื้นฐานความต้องการ และการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ทำให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเช่นในปัจจุบันที่ผมกล่าวถึง มีรายได้เพียงพอ แล้วก็เหลือใช้ เก็บออมได้เป็นจำนวนมาก

ผมขอขอบคุณพี่น้องประชาชน และข้าราชการในพื้นที่ที่มาให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นด้วยความภาคภูมิใจในผลงาน ด้วยความร่วมมือระหว่างกัน ทั้งข้าราชการ และประชาชน แล้วภาคธุรกิจก็มาร่วมด้วย หลายบริษัทก็เข้าไปดูในเรื่องของการซื้อสินค้าเกษตรจากพี่น้องเกษตรกร ขอขอบคุณการที่ผมลงไปนั้น ผมต้องการที่จะเข้าไปรับฟังปัญหาของพื้นที่ด้วยตัวเอง เพื่อช่วยแก้ไขให้ได้อย่างตรงจุด หลายอย่างก็ฟังจากข้าราชการ และผมก็ไปสอบถามประชาชนด้วยว่าใช่หรือไม่ จริงหรือไม่ เป็นการตรวจสอบด้วยตัวผมเอง เราจะได้แก้ไขได้ตรงจุด ซึ่งนับจากวันนี้ เราจะมีคณะทำงานตามโครงการไทยนิยมลงไปยังพื้นที่ต่าง ๆ  ไม่ใช่แค่รับฟังปัญหา แต่ลงไปช่วยหาแนวทางแก้ไขให้เท่าที่ทำได้ก่อน ซึ่งจะทำให้รัฐบาลสามารถเข้าไปดูแลพี่น้องประชาชนได้รวดเร็วขึ้น  อันนี้จริง ๆ แล้วคือหลักการในเรื่องของยุทธศาสตร์การพัฒนาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 คือเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ชุดนี้ก็จะลงไปทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน คือเข้าใจพื้นที่ เข้าใจประชาชน เข้าถึงปัญหาในทุกมิติ แล้วนำไปสู่การพัฒนา อันนี้คือสิ่งที่เราคาดหวังไว้กับชุดทำงานที่ลงไปในพื้นที่ด้วย

ปัจจุบัน รัฐบาลและ คสช. กำลังขับเคลื่อนด้วยโครงการ “ไทยนิยมยั่งยืน” มีการจัดตั้ง “คณะทำงานบูรณาการ” หน่วยงานทุกภาคส่วน แบ่งออกเป็นระดับรัฐบาล ระดับจังหวัด  อำเภอ ตำบล ออกเยี่ยมเยียนประชาชนเป็นรายครัวเรือน  หรือรายบุคคล เพื่อจะร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาความเดือดร้อน ค้นหาความต้องการของประชาชน หมู่บ้าน ชุมชน เพื่อจะเพิ่มขีดความสามารถ การสร้างมูลค่า หรือการลงทุน เพื่อให้ประชาชนร่วมกันคิดจะทำประโยชน์อย่างไรในพื้นที่ ให้พื้นที่นั้นมีรายได้ ทุกคนที่พอเพียง แล้วจะแก้ปัญหาอย่างไรให้ได้ตรงจุดและยั่งยืน ก็เหมือนกับเราไปทำให้เกิดการระเบิดจากข้างใน บางพื้นที่อาจจะนึกอะไรไม่ออก เราก็จะมีคำแนะนำลงไปว่าในพื้นที่อื่น ๆ เขาทำอะไรสำเร็จมาแล้วบ้าง เขาอยากจะทำอย่างนั้นอย่างนี้หรือไม่ ทุกคนก็ต้องเปลี่ยนแปลง    

“ วันนี้ ผมได้สั่งการให้เพิ่มช่องทางสื่อสารโดยเปิด Website และ Facebook ชื่อสายตรง ไทยนิยมเพื่อรับคำร้องเรียน ร้องทุกข์ ข้อเสนอแนะ แสดงความคิดเห็น และใช้ในการกระจายข้อมูลข่าวสารจากภาครัฐ ข้อมูลสาธารณะประโยชน์ ข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนเป็นสำคัญเสริมช่องทางเดิมที่มีอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งสายด่วน 1111 และ 1567 ซึ่งโทรฟรีทั่วไทย ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น”


////////////////////////