ชัดแล้ว"เปรมชัยเปิบซุปจากเนื้อเสือดำ"?! "จรัมพร" ยันเอง"เปรมชัย" ซดซุปเสือดำเต็มคราบ ยันหลักฐานแน่นหนา-ดิ้นยังไงก็ไม่หลุด

 

ชัดแล้ว"เปรมชัยกินซุปจากเนื้อเสือดำ"?! "พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี" กรรมการ ป.ป.ท. ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการติดตามคดีทุ่งใหญ่ฯ  ยันเอง "เปรมชัย" เขมือบซุปเสือดำ และเสือดำตัวที่ถูกยิงเป็นเสือดำตัวเมีย ยันหลักฐานแน่นหนาขนาดนี้-ดิ้นยังไงก็ไม่หลุด

 

วันนี้ (28 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี กรรมการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการติดตามคดีการล่าสัตว์ป่าในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ ฯ ของนายเปรมชัย เปิดเผยว่า คดีนายเปรมชัย กรรณสูต และพวกพบพยานหลักฐานแน่นหนาตามข้อกล่าวหาทั้ง 9 ข้อ ซึ่งหลักฐานที่พบเพิ่มเติมมีความเชื่อมโยงกับหลักฐานที่พบในวันแรก ทั้งอุปกรณ์ดักสัตว์ อาวุธปืน ยืนยันว่าหลักฐานทั้งหมดเชื่อมโยงว่ามีจุดประสงค์เพื่อเข้าไปล่าสัตว์

ส่วนกระแสสังคมที่มีประเด็นเปรียบเทียบระหว่างคดีของชาวบ้านที่นำซากหมีควายมากินแกล้มเหล้า มีการดำเนินคดีอย่างรวดเร็ว ผิดกับคดีของนายเปรมชัยที่ดูว่าล่าช้านั้น มันไม่เกี่ยวกับคนรวยหรือคนจน เพราะทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันตามหลักรัฐธรรมนูญ โดยตามกระบวนการกฎหมายจะให้สิทธิประกันตัวอยู่แล้ว เพียงแต่ชาวบ้านไม่มีเงินในการประกันตัว

 

โดย พล.ต.อ.จรัมพร ยังระบุด้วยว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่า ซึ่งมีการเตรียมการเข้ามาอย่างชัดเจน หลักฐานที่ปรากฎเห็นชัดว่าพกอาวุธเข้าไปในป่า กรณีแบบนี้ผู้ถูกกล่าวหาคงดิ้นหลุดไม่ได้ แต่ต้องดูว่านายเปรมชัย และพวก จะแก้ข้อกล่าวหาอย่างไรบ้าง ตนเชื่อว่าวันที่ 5 มี.ค.61 นายเปรมชัย จะมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหมายเรียก เพราะหนีไปก็ไม่มีประโยชน์

เมื่อถามว่าคดี นายเปรมชัย มีความล่าช้าหรือไม่ พล.ต.อ.จรัมพร กล่าวว่า ตำรวจทำตามขั้นตอน อย่าไปนโมหรือจินตนาการเอาเอง ตำรวจสอบปากคำผู้ต้องหาตั้งแต่วันแรก และจำเป็นต้องเรียกเจ้าหน้าที่มาสอบถามเพิ่มเติม เพราะเป็นผู้ที่ทำการจับกุมและพบเห็นการกระทำผิด เพื่อให้พยานหลักฐานแน่นหนาขึ้น ยืนยันหลักฐานทำอย่างเชื่อมโยงกันหมด รวมทั้งการตรวจซากเนื้อสัตว์ ก็พบว่าเป็นเสือดำ ทำอาหารเป็นซุปเสือดำ

“เสือดำที่ถูกยิงเป็นเสือดำตัวเมีย แล้วจะไปกินอวัยวะเพศตรงไหน ตัวเดียวอันเดียวไม่มี อย่าทำงานบนจินตนาการ นายเปรมชัย กินซุปจากเนื้อเสือดำเท่านั้น ไม่มีตัวเดียวอันเดียว” กรรมการ ป.ป.ท. ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการติดตามคดีฯ ระบุ