ดูจะสุดมือคว้าสำหรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยกับ"เจ๊หน่อย" “พิชัย-วัฒนา” ส่งสัญญาณไม่เห็นด้วย?

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

ดูจะหนัก สาหัสสากรรจ์เสียแล้วสำหรับ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หรือ “หญิงหน่อย ซึ่งได้ออกมาแสดงบทบาททางการเมืองเพราะคาดหวังว่าอาจจะได้นั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

 

 ก่อนหน้านี้ได้ถูก นายพชร นริพทะพันธุ์ เด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเพียงแต่เป็นลูกชายของนายพิชัยนะ นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ซึ่งได้อ้างตัวเองเป็นคนรุ่นใหม่ในพรรคเพื่อไทยได้ออกมาสกัด คุณหญิงสุดารัตน์อย่างรุนแรง

 

 

บางช่วงบางตอน นายพชร ระบุว่า ในฐานะคนรุ่นใหม่ของพรรคเพื่อไทย เห็นด้วยกับการถกเถียงอย่างเปิดเผยระหว่างบุคลากรภายในพรรค เพราะพรรคเป็นองค์กรสาธารณะ ประชาชนจะได้รับรู้ และ คสช.คงไม่สามารถห้ามสมาชิกคิด หรืออภิปรายในประเด็นต่างๆได้

สำหรับตนเองไม่เห็นด้วยกับคำให้สัมภาษณ์ของคุณหญิงสุดารัตน์ ก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าพรรคเพื่อไทยติดหล่ม และเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาวิกฤติปัจจุบัน โดยเห็นว่าพรรคเพื่อไทยถูกวางตะปูเรือใบหรือถูกปล้นมากกว่า เช่นเดียวกันพรรคก็ไม่ได้มีปัญหา หรือเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา เพราะเราถูกขโมยขึ้นบ้าน และถูกเอาเปรียบหลายครั้ง เชื่อว่าบุคลากรภายในพรรคสามารถแก้ไข หรือเปลี่ยนยางที่ชำรุดได้ แต่ต้องใช้แรง กำลัง และฝีมือ โดยเฉพาะบุคลากรต้องรับฟังความเป็นซึ่งกัน และกัน

 

ไม่เพียงเท่านั้นผู้เป็นบิดาอยากนายพิชัยก็ได้ออกมาสนับสนุนแนวคิดของบุตรชายอย่างออกหน้าออกตาถึงขนาดแชร์ข่าว ในประเด็นดังกล่าวของบุตรชายจากสำนักข่าวต่างๆเต็มหน้า Facebook FAN pages ซึ่งหลายต่อหลายคนต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นในทำนองว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น

 

ดูเหมือนจะเป็นเรื่องบังเอิญเสียเหลือเกินสอดคล้องกับนายวัฒนาเมืองสุขกับความเคลื่อนไหว. ที่เคยออกมาแสดงความคิดเห็นหัวหน้าพรรคต้องเป็นคนที่ได้รับการยอมรับจากคนในพรรคส่วนผู้ที่ จะเสนอชื่อให้เป็นนายกบัตธรรมมนตรีต้องเป็นที่ยอมรับของประชาชนซึ่งแปลว่าอาจจะไม่เป็นที่ยอมรับของคนในพรรคและทั้งสองตำแหน่งนี้อาจจะเป็นคนละคนกันก็ว่าได้

นายวัฒนากล่าวว่า จะให้คนนั้นคนนั้นคนนี้เป็นหัวหน้าพรรค บริบทการเมืองต่างจากอดีตแล้ว เป็นช่วงการต่อสู้กับเผด็จการ ถ้าจะเอาคนไม่เคยต่อสู้มาด้วยกันมาเป็นหัวหน้าพรรค พรรคก็แตก พวกตนก็คงไม่ยอม ต้องเอาคนที่ต่อสู้เพื่อประชาชนมา สมาชิกของพรรคถึงจะยอมรับ

 

จากคำตอบนี้ ทำให้นายจอม ถามถึงกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ถูกจับตามองมากผู้หนึ่งในการขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค ถือเป็นคนร่วมต่อสู้กับพรรคด้วยหรือไม่ นายวัฒนานิ่งไปสักครู่ ก่อนตอบว่า ยังไม่ยุติ และต้องแยกจากกันระหว่างคนที่จะถูกเสนอเป็นหัวหน้าพรรค กับผู้ที่จะถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ คนที่จะถูกเสนอชื่อเป็นหัวหน้าพรรค ต้องได้รับการยอมรับจากสมาชิกพรรค ส่วนคนที่จะถูกเสนอชื่อขึ้นเป็นนายกฯจำนวน 3 คนนั้น จะต้องเป็นคนที่ประชาชนยอมรับ

 

"คนที่ไม่เคยต่อสู้ร่วมกับพรรคเลย แต่ประชาชนให้การยอมรับ ก็มีสิทธิที่พรรคจะต้องเสนอชื่อเป็นนายกฯ เช่นกันหากสู้กับพรรคมา แต่ประชาชนไม่ยอมรับ ก็เสนอชื่อเป็นนายกฯไม่ได้ เสนอไปพรรคแพ้เลือกตั้งเลย ซึ่งจะต้องทำโพลแน่นอน"

 

ทั้งนี้หากย้อนไปดูทั้งพิชัยและวัฒนาล้วนแต่เป็นแกนนำสายฮาร์ดคอร์ของพรรคเพื่อไทยที่ออกมาวิพากษ์คสช. มาโดยตลอดวันนี้ก็น่าที่จะได้เห็นถึงบทบาทการแสดงออก ที่ซ่อนนัยยะการต้านคุณหญิงสุดารัตน์

 

วันนี้เหนื่อยแน่นอนสำหรับพรรคเพื่อไทย

 

ดูจะสุดมือคว้าสำหรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยกับเจ๊หน่อย  “พิชัย-วัฒนาส่งสัญญาณไม่เห็นด้วย