- 18 มี.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ความเปลี่ยนแปลง ตามกระแสโลกโซเซียล ที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 อย่างเต็มตัว
รัฐบาล ได้จัดทำแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทยระยะ 5 ปี (พ.ศ.2560-2564) ด้วยความหวังที่จะใช้เทคโนโลยีดิจิทัลขับเคลื่อนประเทศ มีการบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูล ทั้งที่ส่วนราชการ ภาคธุรกิจ ประชาชน โดยกำหนด Roadmap ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติอย่างชัดเจน ซึ่งการใช้ดิจิทัลจะเป็นเครื่องมือที่ดีในการตรวจสอบและสร้างความโปร่งใสในการบริหารราชการที่รวดเร็ว อำนวยความสะดวก และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน และภาคส่วนต่าง ๆ มากขึ้น
ซึ่งขณะนี้ การขับเคลื่อนเข้าสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล มีความคืบหน้าอย่างมาก โดยล่าสุดการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ได้เห็นชอบในหลักการของแนวทางการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลทั้ง 4 แนวทาง ประกอบด้วย 1.แนวทางด้านการบริการประชาชนด้วยดิจิทัล / 2.แนวทางด้านการบริหารราชการแผ่นดินด้วยดิจิทัล / 3.แนวทางด้านการบริหารจัดการข้อมูลเพื่อการตัดสินใจอย่างมีคุณภาพ /และ4.แนวทางด้านความมั่นคงปลอดภัยในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลภาครัฐ
โดย นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี บอกว่า 1 ในเรื่องใกล้ตัวประชาชนที่จะเปลี่ยนไป คือ การยกเลิกใช้สำเนาบัตรประชาชน เพื่ออำนวยความสะดวก และ ลดภาระ ให้กับผู้ที่มาติดต่อหน่วยงานราชการ ซึ่งคาดว่าภายใน 6 เดือน จะได้เห็นระบบต้นแบบ มาเริ่มทดลองใช้ในงานบริการภาครัฐ ที่ประกอบด้วยหลายส่วน ทั้ง ระบบการยืนยันตัวบุคคล / การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงาน และ ระบบจัดการความปลอดภัยในการข้อมูล
สำหรับบริการภาครัฐโฉมใหม่ที่จะเกิดขึ้น จะมีการออกแบบ และพัฒนาระบบศูนย์กลางการเข้าถึงข้อมูลภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว หรือ OSS ซึ่งจะรวบรวมข้อมูล ทั้ง ทะเบียนบ้าน – ทะเบียนราษฎร์ – ทะเบียนบริษัท- ทะเบียนรถยนต์ และ ทะเบียนที่ดิน แต่เนื่องจากเป็นฐานข้อมูลสำคัญ จึงต้องวางระบบจัดการให้รัดกุมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
อย่างไรก็ตาม ตามโรดแมปการเดินหน้ารัฐบาลดิจิทัลนั้น มาตรการเร่งด่วนที่ดำเนินการได้ทันทีและจะเห็นผลใน 3 เดือน จะมีระบบที่สามารถวิเคราะห์และแสดงความสัมพันธ์และความซ้ำซ้อนของนโยบายต่าง ๆ // ใน 6 เดือน ภาครัฐจะเลิกเรียกสำเนาเอกสารจากประชาชนเมื่อต้องมีการติดต่อหน่วยงานรัฐ เพื่อลดภาระประชาชน อาทิ สำเนาบัตรประชาชน และ สำเนาทะเบียนบ้าน และใน 1 ปี จะมีระบบบริหารทรัพยากรภายในองค์กรภาครัฐให้มีการเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานรัฐทั้งประเทศ และมีมาตรฐานการเชื่อมโยงเครือข่ายหน่วยงานภาครัฐกับภาครัฐและเอกชนที่มีความมั่นคงปลอดภัยทั้งรัฐบาล
