"ธนาธร"อวดรู้แก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ จะยิ่งกลายเป็นสร้างปัญหา??

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

กลายเป็นประเด็นร้อนฉ่าทางการเมืองอีกประเด็นหนึ่ง สำหรับความเห็นของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเผยเพร่กันในโลกโซเชียลมีเดียล เนื่องจากมีผู้ไปหยิบคำให้สัมภาษณ์ ในนิตยสาร GM  ฉบับเดือนพฤษภาคม 2560  ที่นายธนาธรได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่อง “ศาสนา”

 

ได้ระบุตอนหนึ่งว่า .. “ ...รัฐไทยไม่ควรจะอุปถัมภ์ศาสนาพุทธ เพราะมันทำให้ปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แก้กันไม่จบ ผู้คนที่อยู่ใน 3 จังหวัด แง่หนึ่งก็เหมือนเป็นพลเมืองชั้นสอง เพราะไม่มีที่ยืนที่เท่าเทียมกันกับคนที่นับถือศาสนาพุทธ ... “

 

กลายเป็นประเด็นร้อน และร้อนจริงๆ จนทำให้นายธนาธร นั่งไม่ติด ต้องออกมาโพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว แก้ตัวว่า ..

"ความเห็นของตนเรื่องศาสนาที่ได้รับการพูดถึงอยู่ตอนนี้ ตนขอชี้แจงว่าสิ่งที่ผมแสดงความคิดเห็นไว้ถูกตัดออกมาจากบริบทของมัน การแสดงความคิดเห็นของผมในเรื่องนี้ กระทำไว้นานแล้ว และก่อนการเกิดขึ้นของพรรคเสียอีก ดังนั้นมันจึงเป็นการแสดงความคิดเห็นในฐานะส่วนตัว ไม่ใช่เพิ่งแสดงความคิดเห็นเร็วๆนี้ ซึ่งอาจทำให้เข้าใจว่าเป็นนโยบายพรรคได้

 

แต่อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวตนเห็นว่า สังคมไทยควรเป็นสังคมที่ไม่นำเรื่องศาสนาซึ่งเป็นสิทธิและความเชื่อส่วนบุคคล มาสร้างความเกลียดชังซึ่งกันและกัน ตนเข้าใจความคับข้องใจของทั้งชาวพุทธและชาวมุสลิมที่ต่างตกเป็นเหยื่อของความขัดแยัง

 

 ดังนั้น จุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดในกรณีปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ กระบวนการพูดคุยสันติภาพที่มีความเป็นธรรม มีประสิทธิภาพ และมีส่วนร่วมจากภาคประชาสังคมทุกภาคส่วน เพื่อยุติความขัดแย้งโดยไม่ใช้ความรุนแรง การกระจายอำนาจให้ประชาชนมีสิทธิในการกำหนดอนาคตตนเองมากขึ้น”

 

นี่เป็นความคิดเพิ่มขึ้นบางช่วงบางตอนของนายธนาธร ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปดู ไม่ว่าจะเป็นคำให้สัมภาษณ์เดิม ในหนังสือGM หรือความเห็นใหม่ก็ตามแต่ เป็นเรื่องที่นายธนาธรเข้าใจปัญหาของประเทศ โดยเฉพาะปัญหาในพื้นที่3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นเรื่อง อันลึกซึ้ง และได้มีความพยายามในการแก้ไขปัญหามาอย่างยาวนาน ด้วยการแสดงความคิดอย่างตื้นเขินเท่านั้น โดยปัญหาใน3จังหวัดชายแดนใต้ ไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะพี่น้องคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธ และพี่น้องที่นับถือศาสนาอิสลาม 

 

การอยู่ร่วมกันของคนไทยพุทธและคนไทยอิสลาม ไม่ว่าจะใน3 จังหวัดชายแดนใต้ หรือ ในจังหวัดภาคใต้ส่วนอื่นๆ หรือ แม้แต่ในทุกพื้นที่ของประเทศไทย อยู่ร่วมกันมาอย่างสันติ เข้าใจ ไม่มีความแตกแยก กลมกลืนกันในความเป็นคนไทย แต่เรื่องใน3จังหวัดชายแดนใต้นั้น เป็นเรื่องของกระบวนการก่อการร้าย ที่ได้ดำเนินการเคลื่อนไหว สร้างสงครามปฏิวัติเพื่อจะแบ่งแยก ดินแดนออกไป  และขบวนการก่อการร้ายดังกล่าวเป็นคนจำนวนน้อย เพียงแต่มีกองกำลังติดอาวุธ เคลื่อนไหวอยู่อตามป่าเขา ซึ่งยากต่อการปราบปราม ถ้าพี่น้องประชาชนชาวไทยอิสลาม ส่วนใหญ่ในสามจังหวัดชายแดนใต้ ที่นายธนาธรกล่าวหาว่า เป็นคนชั้นสอง ไม่เห็นด้วย กับอำนาจรัฐไทย และให้การสนับสนุนกับกระบวนการก่อการร้ายแล้ว วันนี้สภาพการใน3จังหวัดชายแดนใต้ ย่อมไม่เป็นอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันอย่างแน่นอน

 

และถ้านายธนาธรมีโอกาสย้อนกลับไปดูประเทศมาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศมาเลเซียก็ยังกลัว หรือหวั่นเกร่งขบวนการมุสลิมหัวรุนแรง ที่จะเข้าไปก่อเหตุที่ประเทศมาเลเซียเลย ข้ามไปดูที่ตะวันออกกลาง ที่เกิดความขัดแย้งกันเองในผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม แต่ต่างนิกายกัน นิกายสุหนี่ กับ นิกายชีอะห์  ซึ่งมีประเทศอิหร่าน เป็นหัวขบวนของนิกายชีอะห์ และมีประเทศ ซาอุดิอาระเบียเป็นหัวขบวนของนิกายสุหนี่ ก็ยังเปิดสึก รบลาฆ่าฟันกัน ดังนั้นหาก3จังหวัดชายแดนใต้ แก้ปัญหาง่ายๆอย่างที่นายธนาธรพูดคือแค่ ให้ประชาชนเปิดใจผู้คุยกัน สิ่งที่ดำรงอยู่ในสังคมโครงสร้างพื้นฐาน ใน3จังหวัดชายแดนใต้นั้น ซึ่งเกินเลยกว่าการเปิดใจพูดคุยเพราะระหว่างประชาชนกันเองนั้น ผูกพันกันด้วยใจอยู่แล้ว ไม่มีการแบ่งแยกเรื่องศาสนาแต่อย่างใด เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องของขบวนการก่อการร้าย ที่เคลื่อนไหว ทางการเมือง แต่หยิบนกเอาเรื่องศาสนามาเป็นเงื่อนไขในการเคลื่อนไหวเท่านั้น