เอาอีกแล้ว “ฐปณีย์”พูดถึง คนไทยใจแคบที่ไม่รับโรฮิงญา ..คำขอโทษ 3ปีที่แล้วไม่ทำให้เธอเปลี่ยนได้เลย

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

กลับมาอีกครั้งสำหรับเรื่องคนไทยใจแคบที่ไม่รับโรฮีนจา สัหรับ “ฐปณีย์ เอียดศรีไชย” นักข่าวชื่อดังแห่ง ‘ข่าว 3 มิติ’ สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ที่เคยตกเป็นข่าวฉาว กับกระแสดราม่าบนโลกออนไลท์ จนโซเชียลแทบแตกเมื่อสามปีที่แล้ว 

 

ล่าสุดเธอได้ให้สัมภาษณ์กับทางwww.the101.world ในประเด็น สปิริตสื่อไทยใต้ท็อปบูท บทเรียนจาก “ฐปณีย์-อิศรา-ประชาไท”  ที่ถูกเผยเพร่เมื่อวันที่22 พ.ค.  ซึ่งได้พูดถึงครั้งที่เธอได้ลงพื้นที่ทำข่าวชาวโรฮิงญา บางช่วงได้ระบุว่า ..

 

ไม่ใช่คนที่มุ่งมั่นทำข่าวโจมตีรัฐบาลทหาร แต่การทำข่าวเชิงสิทธิมนุษยชน ให้ความสำคัญกับเสียงคนตัวเล็กๆ เช่น แรงงานประมง ชาวโรฮิงญา และชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ทำให้ถูกฝ่ายความมั่นคงเล่นงานได้เช่นเดียวกัน

 

บางช่วงฐปณีย์ยังได้ให้สัมภาษณ์อีกว่า..ระหว่างที่ข่าวชิ้นนี้ออกอากาศครั้งแรก ฐปณีย์ยังอยู่ที่อินโดนีเซีย เพื่อหาทางพาแรงงานไทยได้กลับบ้าน แต่กลับกลายเป็นเป้าจากกลุ่มธุรกิจประมงไทยและอินโดนีเซีย เพราะข่าวของเธอทำให้ธุรกิจประมงเสียผลประโยชน์

 

“พอสื่อต่างประเทศเข้ามาจับเรื่องนี้ ก็กลายเป็นระดับโลก และรัฐบาลไทยก็กลายเป็นเป้าในสายตาของนานาชาติในเรื่องการแสดงความรับผิดชอบ ยังไม่ทันกลับถึงไทยแต่บิ๊กตู่พูดถึงเราต่อหน้าสื่อมวลชนว่า เรามีปัญญารับผิดชอบไหมถ้าไทยโดนใบเหลือง จะมีเงินจ่ายไหม 2 แสนล้านบาท สนุกมากนักหรือวิ่งไปเกาะโน้นเกาะนี้ และสั่งให้กลับไทยทันที เราคิดว่าท่าทีแบบนี้เป็นการคุกคามเสรีภาพสื่ออย่างเปิดเผยในที่สาธารณะ”

แม้ท่าทีของรัฐบาลจะไม่พอใจการรายข่าวของช่อง3 แต่เมื่อเกิดความพยายามในการช่วยให้แรงงานไทยเป็นพันคนได้กลับบ้าน ฐปณีย์รู้สึกว่าเธอได้รับกำลังใจจากคนไม่น้อย แต่ก็เปรียบเหมือนข่าวแรงงานประมงทำให้เธอได้รับช่อดอกไม้ พอต่อมาเธอทำข่าวโรฮิงญากลับได้รับก้อนอิฐแทน

 

ฐปณีย์มองว่า บทเรียนนี้สะท้อนว่าสังคมไทยเป็นสังคมที่คับแคบ และสนใจเฉพาะเรื่องในบ้านตัวเอง แต่ไม่เคยสนใจเรื่องสิทธิมนุษยชน ทั้งที่เรื่องแรงงานทาสและเรื่องโรฮิงญามีพื้นฐานเดียวกันคือสิทธิมนุษยชน

 

 

เอาอีกแล้ว “ฐปณีย์”พูดถึง คนไทยใจแคบที่ไม่รับโรฮิงญา ..คำขอโทษ 3ปีที่แล้วไม่ทำให้เธอเปลี่ยนได้เลย

 

นี่คือข้อความบางช่วงจากบทสัมภาษณ์ของเธอ ...เอาเป็นว่าขอหยิบยกบทความเมื่อ3ปีที่แล้ว ของคุณหมอท่านหนึ่งที่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวจากโรงพยาบาลสกลนคร โดยภาพและข้อความที่ชาวเน็ตแห่เข้ามาแชร์กันนั้น เป็นภาพขณะที่คุณหมอท่านนี้กำลังจะทำการผ่าตัดสมองของเด็กหญิงคนหนึ่ง เป็นคนไทยแท้ ๆ และเด็กคนนี้มีโอกาสเสียชีวิตสูงมาก 

 

   โดยข้อความทั้งหมดจาก เฟซบุ๊ก Jakkrit Parito มีดังนี้

 

            "ฐปนีย์หมอมีอะไรจะบอกคุณ !!!!!!

 

            คืนนี้ ผ่าสมองเด็กหญิง อายุ 4 ปี คนไทย 100 % อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ท่ายาก นอนคว่ำ เลือดออก cerebellum โอกาสเสียชีวิตสูงมาก ขอให้น้องรอดปลอดภัยครับ 

 ประเด็นคือ คนไข้ยากไร้ในประเทศไทยที่เป็นคนไทยจริง ๆ เยอะมาก ๆ และโรงพยาบาลที่ติดชายแดนอย่างผม ต้องรับรักษาคนไข้ข้ามฝั่งมาจากฝั่งลาว เยอะพอสมควร 

 

            ตามหลักมนุษยชน เราไม่เคยปฏิเสธรักษา ผ่าตัดหมด ส่วนใหญ่เก็บเงินไม่ได้และขาดทุน โรงพยาบาลตามเขตชายแดนขาดทุนและเสียเงินไปมากขนาดไหน ไม่มีใครทราบ

 

            คนไทยไม่แล้งน้ำใจ คนไทยเป็นชาติที่มีมนุษยธรรมสูงมาก !!!!!!! 

 

            จริง ๆ แล้ว หากคุณฐปนีย์ รักในชาติไทย ควรจะสละเวลาที่ทำข่าวโรฮิงญา มาทำข่าวโรงพยาบาลในประเทศไทยรับรักษาคนไข้ต่างชาติที่ยากไร้จากลาว เขมร พม่า หมดเงินซึ่งเป็นภาษีของคนไทยไปแต่ละปีมากขนาดไหน 

 

            หากผมเป็นคุณฐปนีย์ ผมจะเสนอข่าวนี้ออกไปแทน เพื่อสะท้อนให้ ประชาคมโลก UN ได้เห็นว่า ประเทศไทยช่วยเหลือคนตามหลักมนุษยชาติมากมายขนาดไหน เพื่อหักล้างคำพูดของนานาชาติที่ว่า ประเทศไทยเห็นแก่ตัว 

 

            แต่คุณฐปนีย์กลับเสนอข่าวทำให้คนมองประเทศไทยเป็นผู้ร้าย ทั้ง ๆ ที่สามารถทำให้คนทั้งโลกเห็นได้ว่าคนไทยมีจิตใจงามช่วยเหลือคนมากมายขนาดไหน

 

            เรื่องโรฮิงญา เป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก ที่ประเทศไทยไม่สามารถแก้ไขได้เพียงประเทศเดียว ไม่ใช่ประเทศไทยคนไทยไร้มนุษยธรรม !!

 

            เลยสงสัยว่า ??? คุณฐปนีย์ คุณรักประเทศไทยจริง ๆ ไหม ??"

 

การที่เธอออกมา “ขอโทษ”เมื่อ 3 ปีก่อน อาจไม่ได้แสดงให้เห็นว่าเธอเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดและผลกระทบที่เกิดเลยแม้แต่น้อย เพราะวันนี้เธอก็ได้พูดกับแบบเดิมอีกครั้ง ดังนั้นเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าขบคิดอีกเรื่องหนึ่ง

 

 

เอาอีกแล้ว “ฐปณีย์”พูดถึง คนไทยใจแคบที่ไม่รับโรฮิงญา ..คำขอโทษ 3ปีที่แล้วไม่ทำให้เธอเปลี่ยนได้เลย

ขอบคุณบทสัมภาษณ์จาก www.the101.world