- 29 พ.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
น่าแปลกใจไม่น้อย กับข่าวกรณีเพจ “ขอล้าน Like สนับสนุนให้พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายก “ ได้จัดทำโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนผ่านโลกออนไลน์ เมื่อวันที่ 22 พ.ค ที่ผ่านมา ในหัวข้อ ครบ4 ปี ยังสนับสนุน บิ๊กตู่ เป็นนายกหรือไม่ และผลปรากฎว่า มีคนไม่เห็นด้วยสูงถึง 382,000คน
ขณะที่เห็นด้วยมีเพียง 8,500 คนเท่านั้น และด้วยผลโพลที่ออกมานี่เองได้กลายเป็นข่าวฮือฮาในหน้าเว็บนสพ.ฉบับหนึ่งทันที และต่อจากนั้นข่าวดังกล่าวนี้ก็กระพือเป็นข่าวไปทั่ว พร้อมๆกับที่บรรดาคอลัมนิสต์ก็ต่างหยิบจับประเด็นดังกล่าวนี้ไปวิเคราะห์ วิจารณ์ว่า ดูสิแม้กระทั่งเพจสนับสนุนนายกรัฐมนตรี คนยังไม่เอานายกรัฐมนตรีเลย เรียกว่าประเด็นอย่างนี้ถือเป็นประเด็นข่าวที่สร้างความฮือฮาแบบสุดๆเลยทีเดียว หรือ จะเรียกว่าเป็นข่าวฮ็อตยิ่งกว่าฮ็อตก็คงไม่ผิดนัก
แต่หากเราจะย้อนดูเพจดังกล่าวแบบเป็นจริงเป็นจัง ก็จะพบข้อน่าสังเกตุในหลายมุม กล่าวคือ เพจนี้เป็นเพจที่จัดทำขึ้นมาโดยมีภาพโปรไฟล์เป็นตัวหนังสือ เขียนว่า พรรคการเมืองที่ดี ประชาชนต้องมีส่วนร่วม พร้อมกับภาพพานรัฐธรรมนูญ และหน้าปกก็เป็นภาพนายกรัฐมนตรีขี่จักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ขณะที่มีคนกดถูกใจเพจ 7,136คน คนติดตาม 7,480 คน โดยเป็นเพจที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นมาเพื่อล้อกับเพจจริงที่มี หลังจากที่กลุ่มคนเหล่านี้ประสบความสำเร็จมาแล้วในการระดมพลคนเข้าไปโหวตไม่เอานายกรัฐมนตรี พล.อ ประยุทธ์ จันทรโอชา
ขณะที่เพจจริง ซึ่งมีชื่อเดียวกันคือ ขอล้านLike สนับสนุนให้พลเอก ประยุทธ์ จันทรโอชา เป็นนายก แต่มีเพิ่มเติมต่อท้ายอีกว่า@lovegenprayut หรือ “ขอล้านLike สนับสนุนให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทรโอชา เป็นนายก @lovegenprayut”
มีคนกดถูกใจเพจ307,901 คน
มีคนติดตาม307,539 คน มีภาพโปรไฟล์เป็นภาพนายกรัฐมนตรีสวมชุดปกติขาว ส่วนภาพปกเป็นรูปไม้กวาด
และเพจนี้ยังได้โพสต์ข้อความหนึ่งไว้ว่า
“เรียนสมาชิกที่รักทุกท่าน
เนื่องด้วยเมื่อ3-4วันที่ผ่านมานี้ ได้มีกลุ่มผู้ที่ไม่หวังดีเข้ามาป่วน สร้างสถานการณ์ภายในเพจของเราและได้มีการโพสต์ข้อความจำนวนมากเป็นการยุยง
ก่อให้เกิดความปั่นป่วน หมิ่นเหม่และขัดต่อกฎหมาย ดังนั้นทางทีมงานแอดมินจึงได้ปิดเพจเป็นการชั่วคราวเพื่อเคลียร์กลุ่มบุคคลดังกล่าวนั้นออกจากเพจ ขณะเดียวกัน กลุ่มบุคคลดังกล่าวซึ่งพบว่ามีการดำเนินการเป็นขบวนการก็ยังมิได้หยุดทำการปั่นป่วน โดยขณะนี้กลุ่มผู้ไม่หวังดีดังกล่าวนั้นได้มีการเปิดเพจใหม่ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับเพจของเราขึ้นมา โดยมีจุดประสงค์ที่ต้องการดิสเครดิต พลเอก ประยุทธ์ จันทรโอชา ทางเรากำลังจับตาดูพฤติกรรมและความเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้อย่างใกล้ชิด
จึงเรียนมาเพื่อสมาชิกทุกท่านรับทราบ
ขอแสดงความนับถือ
ทีมงานแอดมิน. “
และจากตรวจสอบ มีข้อมูลอยู่ว่าในการนำเสนอคอนเทนต์ผ่านเฟสบุคในรูปแบบ
แฟนเพจ ตามระเบียบของเฟสบุคที่กำหนดไว้คือ ทุกการนำเสนอจะได้รับการเผยแพร่ออกสู่ลูกเพจต่อครั้งไม่เกิน 7% ของจำนวนลูกเพจทั้งหมด ดังนั้นเมื่อเพจดังกล่าวนี้มีจำนวนแฟนเพจที่นับตามจำนวนแฟนเพจจริงคือ 3แสนราย โพสต์ดังกล่าวนี้จะถูกส่งไปที่ลูกเพจไม่เกิน21,000 คนจึงเป็นไปไม่ได้ที่ เวลาผ่านไปเพียง 1 วัน จะเกิดการทะลักของผู้เข้าถึงในการโหวตเป็นแสนๆโหวตหากทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ
และจากการตรวจสอบ เราก็พบอีกว่า ทุกอย่างได้มีการเตรียมการ และวางแผนมาเป็นอย่างดี ทั้งการระดมคน การใช้เครื่องไม้เครื่องมือในทางเทคโนโลยี่ พร้อมๆกับยังพบกระบวนการในการปั่นผลโหวตในเพจกลุ่มต่อต้านรัฐบาล คสช. โดยใช้วิธีปลุกปั่น ระดมคนต่อต้านรัฐบาลเข้ามาโหวต เพื่อให้มีแต่คนต่อต้านรัฐบาล และไม่เอานายกรัฐมนตรี เช่นในเพจ “รวมพลังพล คนรักชินวัตร ประชาธิปไตยจงเจริญ “ โพสต์ว่า “มาช่วยกันโหวตให้มันหน้าแหกหน่อยเร็วววววว
ครบ4ปี คสช. คุณยังสนับสนุน พลเอก ประยุทธ์ จันทรโอชา ให้บริหารบ้านเมืองต่อหรือไม่ เฮ้ๆๆๆๆ55555 “ และยังมีอีกหลายเพจที่กระทำการระดมพล เช่น เมื่อวันที่ 23 พค. เวลา 16.58 น. โพสต์ว่า
“เอาเร็วๆมาช่วยกันโหวตหน่อยเร็วพี่น้องงงง#ช่วยกันโหวตและแชร์ออกไปเยอะๆเลยครับ มันจะได้หายหน้าด้านซะที “ เป็นต้น
เพราะฉะนั้นจากข้อมูลทั้งหมดที่ระบุมา จึงอาจสรุปได้ว่า โพลนี้ ไม่ใช่ผลโพลที่แท้จริง ที่เกิดจากการแสดงความเห็นโดยธรรมชาติ แต่มันคือการบิดเบือนข้อมูลด้วยการระดมคน และปั่นผลโหวตเพียงเพื่อต้องการโจมตีนายกรัฐมนตรีโดยตรง และก็ประสบความสำเร็จเสียด้วย เพราะแม้แต่นายกรัฐมนตรี ยังไปไม่เป็น ออกมายอมรับกับผลโพล ส่วนสื่อเองก็ต่างพากันนำเอาข้อมูลดังกล่าวนี้มาใช้เป็นฐานข้อมูลที่สำคัญของตนเองในการวิเคราะห์วิจารณ์ รวมไปถึงนักการเมืองก็ต่างใช้ข้อมูลดังกล่าวไปในการให้ความคิดความเห็นเพื่อประโยชน์ของตนเอง
งานนี้ถือเป็นการเปิดฉากการโจมตี ในรูปแบบสงครามไซเบอร์ที่น่าสนใจ ที่ทุกคนต่างพากันเสพข้อมูลแบบสุกเอาเผากิน ข้อมูลว่าอย่างไรเราก็ตามมันไปอย่างนั้น ไม่มีการตรวจสอบ ทำให้ต่างฝ่ายต่างถูกหลอกไปกับกระแสที่ถูกสร้างขึ้น ตามแต่ที่ผู้สร้างกระเเสต้องการ !!!!! และนี่ ยังแค่เพียงยกแรกของความปั่นป่วนเท่านั้นยังจะมีอีกระลอกใหญ่ที่กำลังตามมา อยู่ที่ว่าใครจะตามทัน หรือตกเป็นเหยื่อ ไหลไปตามกระแส และที่ผ่านมาก็เป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ารัฐบาล คสช สื่อ และนักการเมือง ต่างสอบตก ทั้งสิ้น ยกเว้นอาจรู้แต่ต้องการใช้ข้อมูลนั้นเพื่อประโยชน์ของตนเอง